นักฟุตบอลทุกคนก็..เป็นคนธรรมดา.!!
การยิงประตูในการเตะลุกโทษตัดสินหาผู้ชนะในการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศรายการ โคปา อเมริกา 2016 หลังจากที่เสมอกัน นั้นเป็นวิธีการหนึ่งที่ใช้ในการตัดสินหาทีมที่เป็นผู้ชนะเพียง1 เดียว ดังนั้นจึงต้องมีทีมหนึ่งดีใจ และอีกทีมหนึ่งเสียใจอย่างแน่นอน
อันที่จริงลักษณะความผิดพลาดเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาในเกมการแข่งขัน แต่ยังไม่มีผลกระทบมากนัก จึงแตกต่างจากการเตะลูกโทษตัดสินหาผู้ชนะ เพราะกิจกรรมดังกล่าวเป็นการชี้เป็นชี้ตายของเกมการแข่งขัน ดังนั้นจึงส่งผลทั้งโดยตรงและโดยอ้อมต่อทุกๆคน ไม่ว่าจะเป็นตัวนักกีฬาเอง เพื่อนร่วมทีม สตาฟโค้ชและกองเชียร์อีกด้วย
ภาวะความกดดันจะมาตกที่ผู้ที่รับมอบหมายให้เตะลูกโทษ ณ.เวลานั้น ถ้ายิงเข้าก็รอดไป แต่ถ้ยิงไม่เข้าอาจจะตกเป็นจำเลยของสังคมไปเลย มักจะโดนซ้ำเติมอีกว่าเพราะคุณคนเดียวทำให้ทีมแพ้ ทั้งๆที่คนยิงไม่เข้าเขาก็รู้ตัวว่าเป็นคนผิดมาตั้งแต่แรกแล้วยังมาถูกตำหนิซ้ำจากคนอื่นๆอีก
บางคนที่ไม่สามารถอดทนและกำจัดภาวะความกดดันได้ดีก็จะทำให้ เกิดความคับข้องใจ น้อยใจและสูญเสียความมั่นใจในตัวเอง ซึ่งจะส่งผลให้ฟอร์มการเล่นลดลงหรือเสียไป อย่างเช่นกรณีของ เมสซี ยอดนักเตะของโลกและของทีมอาร์เจนตินา ที่เตะลูกโทษตัดสินหาผู้ชนะนัดชิงชนะเลิศแล้วพลาดไม่เข้าประตู และเพื่อนร่วมทีมอีกคนหนึ่งเตะไปไม่เข้าเพราะถูกผู้รัษาประตูของคู่ต่อสู้ป้องกันได้ เป็นผลทำให้ทีมแพ้ในการแข่งขันนั้น หลายๆคนพุ่งเป้าหมายมาที่ตัวของ เมสซี ว่าเป็นต้นเหตุมาให้ทีมแพ้ ถูกกดดันจนทำให้กล่าวออกมาด้วยความน้อยใจว่า "ผมคิดว่าการปลดเกษียณของผมน่าจะส่งผลดีให้กับทุกคน อย่างแรกเพื่อตัวผมเองและอย่างอื่นก็เพื่อทุกคน มีหลายคนที่ต้องการให้ผมเป็นเช่นนี้" (จาก www.baabincom)
เราคงลืมไปแล้วว่าความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเป็นความผิดเพียงครั้งเดียว พวกเราร่วมกันกดดันตัดสินเสมือนว่าเขาได้ทำความผิดร้ายแรง ไม่น่าให้อภัยเลย ทำไมไม่นึกย้อนอดีตกลับไปว่าเขาผู้นี้ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาได้ทำสิ่งใดไว้มากมายที่ประสบควมสำเร็จในเกมฟุตบอล จนทำให้พวกเราเกิดความสุข ซึ่งในช่วงเวลานั้นเราก็ให้ความชื่นชมยกย่องกันทั่วหน้า
อันที่จริงแล้ว นักฟุตบอลทุกคนก็เป็นคนธรรมดาที่อยู่บนโลกมนุษย์ ไม่ใช่มาจากต่างดาวจากที่ไหนและไม่ได้มีสิ่งใดที่มีความพิเศษเหนือมนุษย์ทั่วไป ความผิดพลาดย่อมเกิดขึ้นได้เหมือนๆกัน และอีกประการหนึ่ง เป็นเรื่องของเกมกีฬามีผลของการแข่งขันอยู่ 3 อย่างคือ ชนะ เสมอ หรือแพ้ ซึ่งจะต้องบังเกิดขึ้นอย่างใดอย่างหนึ่ง คงไม่มีใครหรือทีมกีฬาใดที่ร่วมแข่งขันแล้วเป็นฝ่ายชนะอย่างเดียวตลอดกาล แล้วจะมีใครอยากจะมาร่วมแข่งขันด้วย เสน่ห์ที่มีในการกีฬาก็หายไป ผู้เข้าร่วมทุกส่วนก็จะขาดรสชาติของความสนุกไปเช่นกัน
จุดประสงค์เดิมในกีฬาโอลิมปิก จะให้ความชื่นชมยกย่องนักกีฬาที่ผ่านเข้าไปร่วมในรายการแข่งขัน ว่าเป็นสุดยอดของโลกแล้ว ไม่ได้ดูว่าผู้นั้นต้องชนะเลิศได้เหรียญทองเท่านั้น เพราะการแพ้หรือชนะจะเกิดขึ้นได้นั้นอาจจะมาจาก โอกาส ช่วงเวลา หรือโชค ซึ่งแล้วแต่ความสามรถและวาสนาของแต่ละคน ซึ่งครั้งต่อไปผลการแข่งขันอาจเปลี่ยนได้ตลอดเวลา ดังนั้นพวกเราควรเป็นกำลังใจให้นักกีฬาทุกๆคนจะดีกว่า ไม่ควรมาตำหนิกัน เพื่อให้เขาเหล่านั้นมีกำลังใจ ตั้งใจมุ่งมั่นฝึกซ้อม สร้างผลงานที่ดีมาต่อสู้กันในเชิงกีฬาอย่างมีน้ำใจนักกีฬา เพื่อคืนความสนุกสนานให้กับผู้เกี่ยวข้องและผู้ชมทุกคนต่อไป....ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่าน..สู้สู้.ต่อไปนะครับ...
อันที่จริงลักษณะความผิดพลาดเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาในเกมการแข่งขัน แต่ยังไม่มีผลกระทบมากนัก จึงแตกต่างจากการเตะลูกโทษตัดสินหาผู้ชนะ เพราะกิจกรรมดังกล่าวเป็นการชี้เป็นชี้ตายของเกมการแข่งขัน ดังนั้นจึงส่งผลทั้งโดยตรงและโดยอ้อมต่อทุกๆคน ไม่ว่าจะเป็นตัวนักกีฬาเอง เพื่อนร่วมทีม สตาฟโค้ชและกองเชียร์อีกด้วย
ภาพจาก www.komchadluek.com
บางคนที่ไม่สามารถอดทนและกำจัดภาวะความกดดันได้ดีก็จะทำให้ เกิดความคับข้องใจ น้อยใจและสูญเสียความมั่นใจในตัวเอง ซึ่งจะส่งผลให้ฟอร์มการเล่นลดลงหรือเสียไป อย่างเช่นกรณีของ เมสซี ยอดนักเตะของโลกและของทีมอาร์เจนตินา ที่เตะลูกโทษตัดสินหาผู้ชนะนัดชิงชนะเลิศแล้วพลาดไม่เข้าประตู และเพื่อนร่วมทีมอีกคนหนึ่งเตะไปไม่เข้าเพราะถูกผู้รัษาประตูของคู่ต่อสู้ป้องกันได้ เป็นผลทำให้ทีมแพ้ในการแข่งขันนั้น หลายๆคนพุ่งเป้าหมายมาที่ตัวของ เมสซี ว่าเป็นต้นเหตุมาให้ทีมแพ้ ถูกกดดันจนทำให้กล่าวออกมาด้วยความน้อยใจว่า "ผมคิดว่าการปลดเกษียณของผมน่าจะส่งผลดีให้กับทุกคน อย่างแรกเพื่อตัวผมเองและอย่างอื่นก็เพื่อทุกคน มีหลายคนที่ต้องการให้ผมเป็นเช่นนี้" (จาก www.baabincom)
ภาพจาก www.voahai.com
ภาพจาก www.bangkokbiznew.com
ภาพจาก www.manager.co.th
