ขอชื่นชมความก้าวหน้าของฟุตบอลทีมชาติไทย
(ขอบคุณภาพจาก www.becteroradio.com)
ผลงานของทีมฟุตบอลทีมชาติไทยภายใต้การทำทีมของ โค้ชซีโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง
ในยุคนี้ได้สร้างสีสันต์ด้วยปรับระบบและเทคนิกการเล่นได้เหมาะกับสรีระของคนไทย เน้นให้เล่นบอลกับพื้น ไม่ครองบอลไว้กับตัวนาน เน้นเล่นด้วยระบบไม่มีซุเปอร์สตาร์ ที่สำคัญอย่างยิ่งคือการควบคุมอารมณ์ซึ้งจะเห็นได้ว่าแม้ว่าเกมส์จะหนักแต่นักฟุตบอลไม่แสดงอาการอารมณ์เสียมุ่งมั่นตั้งใจเล่นเพื่อให้ผลการแข่งขันออกมาดีที่สุด ผลงานจึงเป็นที่ถูกใจของชาวไทยทั้งประเทศ
เทคนิคการเล่นที่ใช้ได้ผลและเหมาะกับทีมไทยมากที่สุดคือการเล่นบอลกับพื้นเพิ่มความเร็วในการรับส่งบอลกันเร็วไม่ครองบอลนานและเจาะทะลุทะลวงไปตามช่อง ซึ่งมีการฝึกซ้อมกันจนเล่นได้เข้าขาและเล่นกันด้วยความมั่นใจ ผลงานได้รับการชมจากสื่อทั้งในและต่างประเทศที่ว่าใช้เทคนิคการส่งและรับบอลแบบเดียวกับทีมบราเซโลน่าเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามจุดแข็งนี้ต้องรักษาไว้และต้องพัฒนาเทคนิคการเล่นอื่นเพิ่มขึ้นด้วยเพื่อเพื่มประสิทธิภาพการเล่นให้หลากหลาย
เทคนิคการเล่นที่กำลังชื่นชมนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ในวงการฟุตบอลไทย แต่ใช้เล่นกันในช่วงปี พศ. 2511- 2520 เป็นต้นมา และระหว่าง พศ. 2514-2520 ถือว่าเป็นเทคนิคการเล่นที่ได้รับควมนิยมมากที่สุดเพราะสโมสรฟุตบอลราชวิถีในยุคนั้นซึ่งมี สมยานามว่า ทีมชาววังได้ใช้เทคนิคนี้จนชนะเลิศเป็นแชมป์ ถ้วยพระราชทาน ก. เปรียบได้กับลีกสูงสุดถึง 4 สมัย
(ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก วิกิพีเดียสารานุกรมเสรี)
สโมสรราชวิถี ในสมัยนั้นต้องขอบคุณโค้ชที่ยิ่งใหญ่ 2 ท่านได้แก่ พระอาจารย์สำเริง ไชยงค์ และอาจารย์เสนอ ไชยงค์ ที่เป็นผู้วางรากฐานการเล่นให้นักฟุตบอลตั้งแต่ระดับเยาวชนขึ้นมา โดยเฉพาะพระอาจารย์สำเริง ไชยงค์ ได้นำเอาเทคนิคการเล่นจากทางยุโรปมาเป็นต้นแบบ โดยเน้นวิธีการเล่นกับพื้นรับและส่งบอลเท้าสู่เท้าเป็นหลัก ฝึกการเล่นในพื้นที่แคบแล้วเปลี่ยนเกมส์การเล่นอย่างรวดเร็วออกไปสู่พื้นที่กว้างและว่างทันทีเหมือนการเล่นลิงชิงบอลตลอดทั้งเกมส์ ดังนั้นทีมใดที่จะเอาชนะทีมนี้ได้จะต้องมีสมรรถภาพทางกายดีเพราะต้องใช้กำลังวิ่งไล่แย่งอย่างมากจึงจะสามารถหยุดทีมชาววังนี้ได้ นักฟุตบอลยุคนั้นถือว่าระดับพระกาฬ ดีกรีทีมชาติเกือบทั้งทีม กองหน้าระดับเพรชฆาตรเช่น วีรยุทธ สวัสดี ปรีชา กิจบุญ กองกลางพวกเท้าชั่งทอง มี อาจารย์สนอง ไชยงค์ อาจารย์ทรงไทย สหวัชรินทร์ สิทธิพร ผ่องศรี แก้ว โตดิเทพ อารมณ์ จันทร์กระจ่าง กองหลังปราการเหล็ก อำนาจ เฉลิมชวลิต ดร.จุฑา ติงศภัทย์ ผู้รักษาประตูได้แก่ ไพบูลย์ ขันธรักษา และ เทพพิทักษ์ จันทร์สุเทพ เป็นต้น แต่ละคนเป็นต้นแบบให้เยาวชนในยุคนั้นได้เลียนแบบเทคนิคการเล่นไปใช้กันทั่วไป
อย่างไรก็ตามจะเป็นเทคนิคการเล่นในยุคก่อนหรือในปัจจุบันก็ตาม ถือว่าเป็นเทคนิคการเล่นที่ดีและเหมาะสมกับสภาพนักฟุตบอลของไทย เมื่อเห็นว่านำมาใช้แล้วดีมีประโยชน์บังเกิดผลดีต่อทีมไทยแล้ว ก็อยากฝากไว้เป็นแนวทางสำหรับโค้ชและนักเตะในการปรับและพัฒนาทีมที่รับผิดชอบต่อไป