วันพฤหัสบดีที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2559

 

เทคนิคการเอาชนะคู่ต่อสู้แบบ 1:1

                                                   ภาพจาก soccercha.com

                                ในเกมส์การแข่งขัน ณ.จุดที่มีบอลอยู่จะพบว่า มีการต่อสู้เพื่อแย่งบอลแบบ 1:1 ตลอดเวลา ดังนั้นทักษะและเทคนิคการเล่นแบบ 1:1 จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ผู้ฝึกสอนและนักฟุตบอลต้องให้ความสำคัญและฝึกฝนให้เกิดความชำนาญจึงจะเอาตัวรอดและช่วยสร้างสรรเกมส์ทำให้ผู้เล่นและทีมมีความได้เปรียบยิ่งขึ้น
                               เทคนิคการเอาชนะคู่ต่อสู้แบบ 1:1 มีดังนี้
                                  1.รวดเร็ว
                                  2.หลบหลีก
                                  3.หลอกล่อ
                                  4.ชิงเหลี่ยมบัง
                                  5.ตัวบัง หลอกล่อ หลบหลีก รวดเร็ว
                           1.รวดเร็ว หมายถึงเทคนิคที่ผู้เล่นต้องใช้ความเร็วในการวิ่งเข้าหาบอลเพื่อชิงความได้เปรียบในการครอบครองบอลให้ได้ก่อน เมื่อเห็นว่าคู่ต่อสู้ยังมาไม่ถึงบอล ให้พาบอลหนีคู่สู้นั้นออกไปอย่างรวดเร็ว
ภาพจาก www.stepft.net
                          2.หลบหลีก หมายถึงเทคนิคที่ผู้เล่นครอบครองบอลต้องเผชิญหน้ากับคู้ต่อสู้ตัวต่อตัว ผู้เล่นนั้นต้องพยายามพาบอลผ่านไปให้ได้ โดยสังเกตุที่คู่ค่อสู้ว่าในการยืนป้องกันนั้นเขามีจุดอ่อนหรือเปิดโอกาสทางด้านซ้ายหรือด้านขวามากกว่ากัน ให้รีบฉวยโอกาสโยกตัวพาบอลหลบหลีกไปด้านนั้นทันทีแล้วกระชากพาบอลทะลุผ่านไปด้านหน้าอย่างเร็ว

ภาพจาก thethao vnexpress,net

                         3.หลอกล่อ หมายถึงเทคนิคที่ผู้ครอบครองบอล ต้องเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่มีความสามารถ ดังนั้นจะพาบอลหลบหลีกไปในจังหวะแรกแบบข้อ 2 คงไม่ได้ จึงต้องใช้เทคนิคการหลอกล่อให้คู่ต่อสู้หลงทางก่อนจึงจะสามารถพาบอลหลบผ่านไปได้ เช่นพาบอลเข้าหาคู่ต่อสูัเมื่ออยู่ห่างประมาณ 1 เมตรให้หาจังหวะโยกตัวทำทีว่าจะพาบอลหลบไปทางใดทางหนึ่ง แล้วสังเกตุคู่ต่อสู้ว่าจะเคลื่อนตัวตามมาหรือไม่ ถ้าเห็นว่าไม่ทันให้รีบพาบอลหลบไปแบบเดียวกับข้อ 2 แต่เห็นว่าคู่ต่อสู้พุ่งตามมาให้รีบโยกตัวย้อนกลับพาบอลย้อนกลับมาด้านตรงข้ามหลบคู่ต่อสู้พาบอลทะลุผ่านทันที บางครั้งอาจจะต้องโยกหลอกล่อ 2-3จังหวะซึ่งต้องขึ้นอยู่กับคู่ต่อสู้ว่าจะหลงกลเราตอนไหน

ภาพจาก www.superscore.com

                              4.ชิงเหลี่ยมบัง หมายถึงเทคนิคทึ่ผู้ครอบครองบอล ได้รับบอลแล้วแต่มีคู่ต่อสู้เข้ามาประกบตัวเร็วทำให้ไม่มีโอกาสหลบหลีกคู่ต่อสู้ได้ทัน จึงต้องใช้เทคนิคการก้าวเท้าพร้อมใช้ส่วนหนาของร่างกายบังคู่ต่อสู้ไว้ ซึ่งให้บอลอยู่ห่างจากคู่ต่อสู้โดยมีตัวเราอยู่ระหว่างกลางบังไม่ให้คู่ต่อสู้แย่งบอลแล้วใช้ตัวเบียดบังชิงความได้เปรียบและใช้เท้าบังคับพาบอลหลบผ่านคู่ต่อสู้หนีออกไปด้วยความรวดเร็วเทคนิคนี้ผู้เล่นที่มีร่างกายที่ใหญ่นิยมใช้เพื่อสร้างความได้เปรียบในเกมส์การเล่นเสมอๆ

ภาพจาก www.soccersuck.com

                               5.ตัวบัง หลอกล่อ หลบหลีก รวดเร็ว หมายถึงเทคนิคที่ผู้ครอบครองบอล ต้องเจอกับคู่ต่อสู้ที่มีเทคนิคการเล่นดีเช่นกัน จึงต้องใช้ไหวพริบในการสร้างจังหวะและโอกาสให้มีมากขึ้้น ดังนั้นเราจำเป็นต้องครองบอลให้เหนียวแน่นใช้ตัวบังคู่ต่อสู้ไว้ โยกหลอก หาจังหวะเมื่อคู่ต่อสู้หลงทาง แล้วฉวยโอกาสนั้น เบียดบังพลิกพาบอลหลบผ่าน กระชากบอลหนีคู่ต่อสู้ไปอย่างเร็ว

ภาพจาก antisbobet.net


                                หวังว่าท่านที่สนใจหรือมีปัญหาในการเล่นที่ไม่สามารถเอาชนะเมื่อเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้แบบตัวต่อตัวในเกมส์การเล่น ลองนำเทคนิคนี้ไปฝึกซ้อมในสถานการณ์ต่างๆให้ชำนาญ แล้วนำไปใช้ในสนามแข่งขันจริงต่อไป

 


      

วันพุธที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2559

ความแตกต่างของทักษะ.เทคนิคและแทคติก


                          บางท่านยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับคำว่า ทักษะ(Basic ) เทคนิค(Technic) และแทคติก(Tactic) ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไรและจะนำไปใช้ในการเล่นฟุตบอลอย่างไร ในที่นี้จะขออธิบายความหมายทั้ง 3 คำให้เข้าใจแบบง่ายๆดังนี้
                         ทักษะ (Basic) คือขั้นตอนการปฏิบัติกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเช่น ทักษะการส่งลูกด้วยข้างเท้าด้านใน มีขั้นตอนดังนี้
                            1.ตามองจากบอลตรงไปสู่เป้าหมาย
                            2.วางเท้าหลักไว้ด้านข้างแนวเดียวกับลูกบอล ปลายเท้าชี้ไปยังเป้าหมายที่จะส่งไป
                            3.ถ่ายน้ำหนักตัวอยู่ที่เท้าหลัก ยกขาที่จะเตะขึ้นส่งไปทางด้านหลังงอเข่าเล็กน้อย หันปลายเท้าไปทางด้านข้างให้ส่วนของข้างเท้าด้านในหันออกไปด้านหน้า
                           4.เหวี่ยงเท้าที่เตะออกไปข้างหน้าให้ข้างเท้าด้านในสัมผัสกระแทกกลางลูกบอลออกไปแล้วส่งเท้าตามทิศทางที่ลูกบอลออกไป
                           ซึ่งจะเห็นได้ว่าถ้าทำขั้นตอนของทักษะที่ถูกต้องก็สามารถส่งลูกด้วยข้างเท้าด้านในได้
                         เทคนิค (Technic) คือวิธีการ ที่นำทักษะต่างๆไปใช้ได้อย่างเหมาะสมกับสถานะการณ์และฝึกฝนให้เกิดความชำนาญ เช่น ลูกบอลลอยอยู่ในระดับหน้าขา ผู้เล่นควรใช้ทักษะการพักบอลในอากาศด้วยหน้าขาหรือข้างเท้าด้านในให้บอลลงสู่พื้นเพื่อเล่นด้วยทักษะอื่นต่อไป ถ้าเล่นโดยการก้มตัวลงมาโหม่งบอลในสถานะการณ์นี้จะถือว่าไม่เหมาะสมอาจเกิดอันตรายในการเล่นเพราะผู้เล่นอื่นสามารถใช้เท้าเล่นบอลได้โดยไม่ผิดกติกา ดังนันถือว่าผู้เล่นนั้นมีเทคนิคการเล่นที่ไม่ดี  ในการฝึกเพื่อพัฒนาเทคนิคจะเป็นการนำทักษะต่างๆมาฝึกด้วยกิจกรรมที่หลากหลายที่ยังไม่ต้องมีคู่ต่อสู้เข้ามาแย่งและทำบ่อยๆเพื่อให้เกิดความชำนาญ เช่นทักษะการส่ง-รับบอลอยู่กับที่ หรือเคลื่่อนที่ส่งบอล หรือส่งบอลแบบสามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม การเลี้ยงบอลผ่านหลัก การยิงประตูในลักษณะต่างๆเป็นต้น
                        แทคติก (Tactic) คือยุทธวิธีเล่น โดยการนำทักษะและเทคนิคต่างๆไปใช้ในโอกาสที่เหมาะสม ในสถานะการณ์ที่ถูกต้อง เพื่อสร้างความได้เปรียบเหนือกว่าคู่ต่อสู้ แต่ต้องเป็นการกระทำที่ถูกต้องตามกติกาด้วย เช่น เมื่อครองบอลไว้ต้องการจะส่งบอลให้เพื่อนแต่มีคู่ต่อสู้ป้องกันอยู่ ถ้าผู้เล่นนั้นโยกตัวแสดงทีท่าว่าจะส่งลูกบอลไปทางซ้าย เมื่อเห็นว่าคู่ต่อสู้ขยับตามจะเปิดช่องทางด้านขวามากขึ้นจึงพลิกตัวกลับส่งบอลให้เพื่อนร่วมทีมผ่านอุปสรรคจากการป้องกันของคู่ต่อสู้ได้ง่ายขึ้นซึ่งเป็นแทคติกเฉพาะตัว (Individual Tactic)  หรืออีกตัวอย่างหนึ่งเช่น ฝ่ายรุกกำลังบุกเข้าทำประตูโดยพาบอลเข้าโจมตีจากด้านข้างและกำลังจะผ่านบอลมาหน้าประตู ผู้เล่นฝ่ายรุกคนที่แรกวิ่งโฉบเพื่อยิงบอลที่เสาแรก ส่วนผู้เล่นคนที่สองวิ่งฉีกแนวป้องกันออกไปรอที่เสาไกล ดั้งนั้นผู้เล่นที่จะเปิดบอลเข้าหน้าประตูจะดูว่าผู้เล่นฝ่ายรับป้องกันอย่างไรถ้าสมาธิไม่ดีตามไม่ทันปล่อยให้ฝ่ายรุกหลุดมาที่เสาแรกก็ส่งบอลให้ที่เสาแรก แต่ถ้าฝ่ายรับตามติดคิดว่าต้องส่งที่เสาแรกแน่จึงเผลอเปิดที่ว่างบริเวณเสาไกลไว้ ผู้ส่งควรส่งไปให้ผู้เล่นที่อยู่เสาไกลเพื่อการเล่นที่ได้เปรียบทันที ซึ่งต้องใช้ความเข้าใจ ไหวพริบและความสัมพันธ์ของผู้เล่นร่วมกัน  เป็นแทคติกแบบกลุ่ม (Group Tatic) ดังนั้นการฝึกเพื่อพัฒนาแทคติกหรือยุทธวิธีการเล่น จะทำโดยเพิ่มกิจกรรมในแบบฝึกให้มีอุปสรรคและให้เหมือนสถานะการณ์ในเกมส์การแข่งขันจริงเช่น การเล่นลิงชิงบอลแบบ 3:1 , 4:2หรือฝึกเ กมส์รุก-รับ แบบ 1:1 , 2:2 , 3:3 , 4:4 , 4:2 , 6:4 , 7:7 , 9:9 , 11:11 เป็นต้น
                      หวังว่าน่าจะเกิดความเข้าใจและสามารถนำไปเป็นแนวทางในการฝึกเพื่อพัฒนาศักยภาพและขีดความสามารถในการเล่นฟุตบอลให้ดียิ่งขึ้นได้ต่อไป