แนวคิดที่จะพัฒนาทีมชาติให้แกร่งยิ่งขึ้น

ภาพจาก www.sportinter.com

                                   ด้วยเหตุที่ทีมฟุตบอลชายไทยชุดเอเชี่ยนเกมส์ 2018 ทำผลงานได้ไม่ดีในการแข่งขัน อันที่จริงการใช้นักกีฬาที่มีอายุต่ำกว่าเกณฑ์ และไม่ใช้นักกีฬาที่มีอายุเกินตามโควต้าที่กำหนดนั้น ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ไม่ดี ถ้าในสถานการณ์กลับกัน หากทีมนี้ทำผลงานได้ดีชนะเข้ารอบลึกหรือได้รางวัลขึ้นมา ปัญหานี้จะไม่เกิดขึ้น ทุกอย่างจะดีไปหมด

                                  การใช้ผู้เล่นอายุน้อยไปร่วมแข่งขันในรายการใหญ่แบบนี้ มีบางประเทศดำเนินการทำอยู่ เช่น..ประเทศญี่ปุ่นได้ส่งทีมชุดที่มีอายุต่ำกว่าเกณฑ์ไปเข้าร่วมการแข่งขันซึ่งผลงานออกมาในระดับที่น่าพอใจและนักกีฬาเหล่านั้นจะมีประสบการณ์ มีความมั่นใจและมีความแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้น ส่วนประเทศเยอรมันนี เคยใช้วิธีการนี้เช่นกัน..สมัยนั้น ฟรานซ์ เบคเคนบราว์  ได้รับหน้าที่เฮดโค้ชเพื่อเตรียมทีมแข่งฟุตบอลโลก โดยมีเวลา 4 ปี เขากำหนดระบบการเล่นไว้ชัดเจน และขอให้สมาคมฟุตบอลของเยอรมัน ประสานให้ทุกสโมสรปรับระบบการเล่นในแบบที่เขาต้องการ แล้วเขาออกไปคัดเลือกตัวผู้เล่นที่ดีและมีอายุไม่เกิน 23 ปี สามารถเล่นได้ตามตำแหน่งและระบบที่ต้องการเข้ามาทำการฝึกซ้อมและเล่นร่วมกันอย่างต่อเนื่อง ในช่วงปีที่ 2 ได้ส่งทีมเข้าแข่งขันในรายการชิงแชมป์ยุโรป ผลปรากฏว่าได้ตำแหน่งรองแชมป์ จากนั้นทีมชุดนี้ได้ปรับจุดบกพร่องพัฒนาจุเด่นอย่างต่อเนื่องแล้วเข้าแข่งในรายการฟุตบอลโลก และผลก็คือชนะเลิศได้แชมป์โลกไป...แต่การที่ผลสำเร็จนี้เกิดขึ้นได้นั้นไม่ใช่ว่าโชคช่วย แต่เป็นเรื่องของการทำงานร่วมกันทั้งระบบตั้งแต่การบริหารจัดการทั้งระบบ มีแผนพัฒนา มีการลงมือปฏิบัติที่ชัดเจนและเหมาะสมเป็นต้น..
                                แนวคิดเพื่อพัฒนานักกีฬาระดับทีมชาติให้แข็งแกร่ง...
                               1.ด้านการบริหาร ผู้บริหารสมาคมฟุตบอลฯต้องวางแผนพัฒนาทั้งระบบ โดย ศึกษาแนวทางการพัฒนากีฬาฟุตบอลของประเทศที่ประสบความสำเร็จแล้วนำมาประยุกต์ปรับให้เหมาะกับสภาพของทีมไทยแล้วน่าจะเกิดผลที่ดีได้..อย่างเช่น
                               1.1.วางกรอบนโยบาย..กำหนดระบบ รูปแบบและสไตล์การเล่นหลักไว้
                               1.2.สรรหาโค้ชที่มีความสามารถ เข้ามารับนโยบายและพัฒนานักกีฬาเยาวชนไปในแนวทางที่กำหนดในแบบเดียวกัน
                               1.3.ปูพื้นฐานให้เยาวชนระดับรากหญ้า แล้วคัดกรองเยาวชนที่มีความสามารถดีตามเกณฑ์เข้าสู่ ศูนย์พัฒนาฟุตบอลของสมาคมฯประจำภาค 4-5 ภาค ที่ประจำอยู่ทั่วประเทศ
                               1.4.คัดเลือกเยาวชนในศูนย์ฯ มาจัดเรียงลำดับความสามารถในแต่ละระดับอายุ ซึ่งในแต่ละตำแหน่งจะมีนักกีฬาที่มีความสามารถดี เล่นได้ในระบบ สไตล์และรูปแบบเดียวกัน ที่เรียงลำดับความสามารถจำนวน 8-10 คน ไว้ให้โค้ชทีมชาติเลือกใช้
                               1.5.สมาคมฯสามารถตัดสิ้นใจเลือกใช้นักกีฬาในแด่ละชุด ไปร่วมแข่งขันในรายการต่างๆตามความเหมาะสม เพื่อพัฒนาด้านประสบการณ์และเป็นตัวเลือกที่ดีได้ในอนาคต
                              2.ด้านฝ่ายเทคนิค ประธานฝ่ายเทคนิคต้องศึกษาองค์ประกอบต่างๆ แล้วจัดระบบแนวคิดในการพัฒนาเยาวชนในรูปแบบที่เหมาะสมไว้
                               2.1.ศึกษาระบบ หารูปแบบและวิธีการที่เหมาะสมกับสภาพคนไทยมากที่สุด
                               2.2.กำหนดแผนงาน โครงสร้างระบบ รูปแบบและวิธีการเล่นไว้ชัดเจน
                               2.3.สรรหาโค้ชที่มีความรู้ ความสามารถมารับนโยบายแล้วนำไปดำเนินการฝึก
                               2.4.กำหนดแผนกำกับติดตาม และประเมินการพัฒนาอย่างเป็นระบบ
                               2.5.วางแผนส่งนักกีฬาแต่ละชุดเข้าร่วมแข่งขันในรายการต่างๆเพื่อสร้างเสริมประสบการณ์
                               2.6.ตั้งเป้าหมายความสำเร็จที่เป็นไปได้ที่ละระดับขั้น เช่นยกมาตรฐานทีมขึ้นไปให้ได้แชมป์ในรายการเอเชี่ยนเกมส์หรือ แชมป์เอเซียไว้ชัดเจนก่อนที่จะฝันไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ไม่ควรตั้งเป้าหมายไว้ไกลเกินความเป็นไปได้จริง
                              3.ด้านระยะเวลาการเตรียมทีม สมาคมฯต้องวางแผนการจัดการแข่งขันฟุตบอลลีก ให้เหมาะสมเอื้อต่อการเตรียมทีมชาติไว้ด้วย
                               3.1.โดยปกติแผนการพัฒนาเยาวชนของสามาคมฯ นักกีฬาจะฝึกซ้อมร่วมกันมารู้และเข้าใจระบบ รูปแบบและแทคติกการเล่นในแบบเดียวกันอยู่แล้ว น่าจะไม่ยากต่อการเตรียมทีมเพื่อสร้างความสัมพันธ์ของผู้เล่นและระบบทีม เมื่อมีเวลารวมตัวในระยะสั้นๆ
                               3.2.วางโปรแกรมการแข่งขันให้เหมาะสม ไม่จัดการแข่งขันช่วงกลางสัปดาห์ถ้าไม่จำเป็น
                               3.3.วางแผนการฝึกซ้อมเป็นระยะๆ สัปดาห์ละ 1-3 วันประมาณในช่วง 2 เดือนก่อนการเก็บตัวก่อนไปแข่งขัน
                               3.4.กำหนดระยะเวลาการเก็บตัวฝึกซ้อมอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนแข่งเพื่อผลการแข่งขันที่ดี เพราะจะมีผลกระทบต่อชื่อเสียงเกียรติยศ และการจัดอันดับโลกอีกด้วย
                               3.5.ควรจะประสานความร่วมมือ เน้นให้เห็นความสำคัญเพราะเป็นงานของชาติแล้วกำหนดระเบียบไว้ให้ถือปฏิบัติร่วมกัน โดยสโมสรสมาชิก ต้องอนุญาตให้นักกีฬามาฝึกซ้อมตามโปรแกรมที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด
                             4.ด้านศักยภาพของนักกีฬา นักกีฬาแต่ละกลุ่มอายุที่ผ่านระบบการพัฒนาจากศูนย์ฝึกของสมาคมฯจะมีจำนวนมากพอและมีความสามารถดีตามมาตรฐานสากล
                               4.1.นักกีฬาที่คัดกรอง เข้ามาฝึกในศูนย์ฝึกของสามคมฯประจำภาคต่างๆทั่วประเทศ จะได้รับการพัฒนาในระบบ รูปแบบเดียวกัน
                               4.2.จัดลำดับความสามารถของนักกัฬาในแต่ละตำแหน่งไว้ เพื่อพิจารณาเลือกใช้ในการแข่งขันแต่ละรายการ
                               4.3.นักกีฬาจะพยายามพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้น เพื่อแข่งขันด้านความสามารถกันซึ่งเป็นผลดี ที่จะได้มีนักกีฬาที่มีความสามารถสูงขึ้น และโค้ชจะมีตัวเลือกที่ดีเพิ่มมากขึ้น
                             5.ด้านผู้ฝึกสอน โค้ชควรเตรียมทีมงานที่มีความสามารถจริงๆไว้ให้พร้อม มิใช่นำพรรคพวกเข้ามาทำงาน ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานไม่ดีพอ
                               5.1.ต้องสามารถสรรหานักกีฬาที่มีความสามารถที่ดีที่สุดในช่วงเวลานั้นมาร่วมทีม เพื่อทีมจะได้มีผู้เล่นที่ดีที่สุดไปแข่งขัน
                               5.2.ต้องสามารถปรับและพัฒนานักกีฬาที่มีอยู่ให้มีศักยภาพสูงขึ้นได้
                               5.3.ต้องสามารถดึงความสามารถที่ดีที่สุดของนักกีฬาแต่ละคนออกมา และผสมผสานความสามารถของนักกีฬาทั้งทีมให้เล่นร่วมกันได้ เพื่อให้เกิดผลการแข่งขันที่ดีที่สุดได้อย่างสม่ำเสมอ
                               5.4.ต้องมีแนวคิดและวิธีการฝึกแทคติกในการเล่นแบบต่างๆที่หลากหลายวิธี และหลายมิติ เพื่อเสริมประสิทธิภาพการเล่นที่เหนือกว่าคู่ต่อสู้ มาใช้ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความสำเร็จได้
                               ถ้าเราได้มีการเตรียมการในแนวทางดังกล่าวซึ่งเป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วยลดปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ เพราะคนไทยมีความผูกพันกับกีฬาฟุตบอลมากดังนั้น ถ้าผลการแข่งขันออกมาดีทุกอย่างก็จะดีไปหมด แต่ในทางกลับกันผลการแข่งขันไม่ถูกใจเมื่อใด ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องจะโดนเล่นงานอย่างหนักเลยทีเดียว.....
                               

       
                            

ถอดรหัสฟุตบอลชายทีมชาติไทยในเอเชี่ยนเกมส์ 2018

ภาพจาก www.khobsanam.com

                                          จากผลการแข่งขันของทีมฟุตบอลชายทีมชาติไทย ที่ออกมาไม่ดีตกรอบแรกในการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์นี้ ทำให้มีเสียวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ลบถีงการบริหารงานของสมาคมฟุตบอลฯ ฝ่ายเทคนิค โค้ชและนักฟุตบอลอย่างมากมาย.....
                                       ถ้าย้อนกลับไปดูเกมแข่งขันที่ผ่านมาจะเห็นว่าทีมชาติไทยไม่ได้เล่นแย่มากหรือแพ้เละเทะ เพียงแต่เล่นได้ดีในระดับหนึ่ง อาจจะยังเล่นไม่ได้มาตรฐานในระดับเอเชี่ยนเกมส์เท่านั้น ส่วนการไม่ใช้ผู้เล่นโควต้าที่อายุเกิน 23 ไปเล่นด้วยก็ไม่น่าจะเป็นสาเหตุหลัก เพราะปกติแล้วเด็กตั้งแต่อายุ 18 ปีขึ้นมาบางคนก็มีขีดความสามารถดีพอสามารถเล่นในระดับผู้เล่นที่มีอายุมากกว่าได้ไม่แตกต่างกัน ดังนั้นผู้เล่นในกลุ่มอายุ 23 ปีทั้งทีมก็ไม่น่าจะเสียเปรียบแต่อย่างใด เพียงแต่สามาคมฯมีการพัฒนาผู้เล่นเยาวชนเหล่านี้ให้มีศักยภาพที่ดีตามมาตรฐานสากลหรือเปล่า ถ้ายังไม่พร้อมก็ควรใช้โควต้าพิเศษร่วมทีมกันไป..

                                           ถ้าเราเปิดใจกว้างพิจารณาองค์ประกอบต่างๆนั้นว่ามีความเหมาะสมมากน้อยเพียงใด อย่างเช่น...

                                         1.ด้านการบริหารงานของสมาคมฯ

                                         2.ด้านแนวคิดของฝ่ายเทคนิค

                                         3.ด้านระยะเวลาการเตรียมทีม

                                         4.ด้านศักยภาพของนักกีฬา

                                         5.ด้านแทคติกการฝึกของโค้ช
                         1.ด้านการบริหารงานของสมาคมฯ ภาพโดยรวมจากการให้สัมภาษณ์ของ โฆษกสมาคมฟุตบอลฯ คุณพาทิศ ศุภรพงษ์ ได้แจ้งว่าผู้บริหารสมาคมฟุตบอลฯได้มีแผนการบริหารอย่างเป็นระบบ มีการจัดการโปรแกรมการแข่งขันลีกแบบสากล ประสานและปรึกษาระบบการเตรียมทีมชาติเพื่อแข่งขันรายการต่างๆโดยความเห็นชอบร่วมกันกับฝ่ายเทคนิค
                            ในแง่คิดของหลายๆท่าน เห็นว่าการจัดโปรแกรมการแข่งขันฯ ไม่เหมาะสมทำให้ไม่เอื้อต่อการฝึกซ้อมเตรียมทีม
                         2.ด้านแนวคิดของฝ่ายเทคนิค ให้ใช้นักกีฬากลุ่มอายุที่ต่ำกว่าเกณฑ์ปกติเข้าร่วมแข่งขัน
                            ในแง่คิดของหลายๆท่าน เห็นว่าถ้าใช้นักกีฬาที่มีอายุตามเกณฑ์และใช้สิทธิ์นักกีฬาที่มีอายุเกินได้อีก 3 คน ทีมจะแข็งแกร่งและมีผลการแข่งขันที่ดีกว่านี้
                         3.ด้านระยะเวลาการเตรียมทีม มีเวลาในการเตรียมทีมน้อยความสัมพันธ์ของนักกีฬาและความพร้อมของทีมไม่ดีเท่าที่ควร
                            ในแง่คิดของหลายๆท่าน เห็นว่าโปรแกรมการแแข่งขันลีกภายในประเทศมีแน่นเกินไป และสโมสรก็ไม่เอื้อให้นักกีฬามาร่วมฝึกซ้อมได้มากเท่าที่ควร
                         4.ด้านศักยภาพของนักกีฬา ทั้งๆที่นักกีฬากลุ่มนี้ส่วนใหญ่ ได้เล่นร่วมกันมาตั้งแต่รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปีน่าจะมีประสบการณ์และเล่นร่วมกันได้ดีกว่านี้
                            ในแง่คิดของหลายๆท่าน เห็นว่าเด็กกลุ่มนี้มีทักษะพื้นฐานดี มีโอกาสและมีประสบการณ์เพิ่มมากขึ้น น่าจะทำผลงานได้ดีกว่านี้
                          5.ด้านแทคติคการฝึกของโค้ช เห็นว่าแทคติกการเล่นยังไม่มีอะไรที่ทำให้ทีมมีความโดดเด่นเหนือกว่าทีมคู่ต่อสู้
                             ในแง่คิดของหลายๆท่าน เห็นว่ารูปแบบการเล่นน่าจะมีความหลากหลาย และควรมีแทคติกการทำประตูที่แน่นอนมากกว่านี้ ส่วนด้านสมรรถภาพทางกายอยู่ในสภาพที่ใช้ได้เพราะส่วนใหญ่เป็นตัวหลักเล่นอยู่ในสโมสรอาชีพ
                             สรุปจากมุมมองดังกล่าว ถือได้ว่าน่าจะเป็นสาเหตุที่จำเป็น ควรจะได้รับการปรับปรุงแก้ไขเพื่อพัฒนาและปรับปรุงทีมชาติไทยให้มีคุณภาพและมีผลงานที่ดีได้ต่อไป แต่แนวคิดที่จะช่วยให้ทีมพัฒนาได้นั้น จะขอกล่าวในตอนต่อไป..
                             

ทำไมซูเปอร์สตาร์..จึงเล่นไม่เด่น.!!

ภาพจาก www.banlakorn.com

                                 หลายคนบ่นเสียดายที่ไม่เห็นนักเตะระดับซูเปอร์สตาร์ของโลกโชว์ฟอร์มการเล่นได้อย่างโดดเด่นประทับใจ ทำให้ไม่สามารถพาทีมเข้ารอบลึก หรือได้รับตำแหน่งที่น่าพอใจกลับสู่ประเทศตนเอง ไม่ว่าจะเป็น ลิโอเนล เมสซี่, เนย์มาร์, โมฮัมเหม็ด ซาลาห์, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี่้, แฮรี่เคน, เมซุต โอซิล, หลุย์ ซัวเรส, โธมัส มุลเลอร์, เควิน เดอ บรอยน์ เป็นต้น
                                 สาเหตูที่ทำให้ซุปเปอร์สตาร์เหล่านี้ไม่สามารถแสดงศักยภาพที่ยอดเยี่ยมออกมาในเกมการแข่งขันได้นั้น..น่าจะเกิดจากองค์ประกอบต่อไปนี้
                                1.องค์ประกอบภายใน

                                  1.1.ด้านความคิด บางคนคิดว่าตนเองมีความสามารถเหนือคนอื่น ประมาท จึงขาดความระมัดระวัง   ลืมคิดไปว่าผู้เล่นคนอื่นๆได้ศึกษาเทคนิคการเล่นและเตรียมตัวรับมือมาเป็นอย่างดี จึงทำให้ไม่สามารถเล่นได้อย่างที่เคยเป็น 

                                  1.2.ด้านความมั่นใจในตนเองมากเกินไป จึงพยายามโชว์ความสามารถตนเองออกมามากเกินไป เลยขาดความคำนึงถึงระบบทีม

                                  1.3.ด้านความไม่เชื่อมั่นเพื่อนร่วมทีม ซึ่งอาจจะเห็นว่ามีความสามารถด้อยกว่า ดังนั้นจึงไม่น่าไว้วางใจให้ช่วยเล่นในเกมได้ดีพอ จึงทำให้การตัดสินใจเล่นแทคติกต่างๆช้าไปไม่ลื่นไหลอย่างที่ควรจะเป็น
                                  1.4.ด้านความไม่มั่นใจในตัวเอง เมื่อเห็นเพื่อนร่วมทีมชาติแต่ละคนต่างก็เป็นผู้มีความสามารถ และมีบางคนที่มีความสามารถสูงจริงๆเป็นที่ยอมรับของทีม ทำให้เกิดความเกรงใจ เมื่อได้บอลมาก็ต้องพยายามส่งบอลไปให้ จึงไม่สามารถเล่นได้เต็มศักยภาพของตนเองอย่างที่เคยทำ                                   1.5.ด้านความกังวลใจกลัวได้รับบาดเจ็บจากการแข่งขัน บางคนพยายามเล่นแบบระมัดระวัง ไม่ทุ่มเทมากเกินไปจนได้รับการบาดเจ็บซึ่งจะเป็นผลเสียต่อการเล่นฟุตบอลอาชีพต่อไป
                                2.องค์ประกอบภายนอก

                                  2.1.ด้านสภาพร่างกายไม่พร้อมยังไม่ฟื้นตัว เนื่องจากการผ่านเกมการแข่งขันในลีกอาชีพมา และมีเวลาพักฟื้นไม่ดีพอ แล้วต้องลงแข่งในรายการสำคัญต่อเลย ทำให้ประสิทธิภาพในการเล่นทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร

                                  2.2.ด้านเวลาในการซ้อมร่วมกันน้อย ทำให้การเล่นขาดความสัมพันธ์ในการผสมผสานแทคติกการเล่นของทีมให้เข้ากันได้ลงตัว การเล่นจึงทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร

                                  2.3.ด้านการมอบหมายบทบาทหน้าที่ในการเล่นจากโค้ช อาจจะไม่ลงตัวตามสไตล์ รูปแบบและวิธีการเล่นที่เคยเล่นอยู่เดิม

                                 2.4.ด้านการเตรียมแก้เกมที่ดีของทีมคู่ต่อสู้ ทำให้การเล่นไม่สามารถเล่นได้ดีเหมือนอย่างที่เคยทำ...เป็นต้น
                                ดังนั้นข้อคิดเล็กๆน้อยๆนี้ อาจจะนำไปปรับใช้ในการเล่นได้ เพื่อรักษาระดับมาตรฐานการเล่นให้คงอยู่ หรือพัฒนาศักยภาพให้ดีขึ้นได้ต่อไป........

             

แทคติกที่ใช้ได้ผลใน..บอลโลก 2018

ภาพจาก www.c.mi.com

                                       ทีมที่ประสบความสำเร็จในเกมการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้ หลายทีมมักจะใช้ยุทธวิธีการตั้งรับเหนียวแน่นแล้วจึงหาโอกาสรุกแบบสวนกลับ ซึ่งหลายๆคนที่ชมการแข่งขันจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นเกมที่น่าเบื่อไม่สนุกตื่นเต้นไม่เร้าใจ
                                    ในมุมมองของผู้ชมหรือแฟนคลับที่เสียเงินเข้าชมและเชียร์ก็อยากจะได้ชมเกมการเล่นที่คู่แข่งขันทั้งสองทีม เปิดเกมรุกเข้าสู้กันอย่างเข้มข้นและโชว์เทคนิคและแทคติกการเล่นที่น่าระทับใจออกมาให้เห็น ความจริงก็น่าจะเป็นเช่นนั้น แต่...

 ภาพจาก www.sport-top.net

                                    โค้ชและทีมบริหารของแต่ละทีมก็อยากจะทำเช่นนั้นแต่ หลักการของการทำทีมเข้าแข่งขันจะต้องเน้นที่ผลการแข่งขันมากกว่า ดังนั้นพวกเข้าจึงต้องหาวิธีการที่จะทำให้ทีมของพวกเขามีผลชนะในเกมการแข่งขัน แม้ว่าจะไม่ได้สนองความต้องการของผู้ชมก็ตาม.. แนวคิดดังกล่าวที่ส่งผลให้ทีมเข้าสู่รอบลึกและเป็นทีมที่ชนะเลิศได้นั้น จะมีวิธีการที่พอจะสรุปได้ดังนี้....

 

 ภาพจาก www.kbetsport.com

                     1.ใช้ยุทธวิธีตั้งเกมรับเป็นหลัก และเป็นเกมรับที่เหนียวแน่น
                      2.จัดระบบการป้องกัน ถอยแนวรับลงมารับลึกป้องกันการเจาะเข้ามาทำประตู
                      3.ใช้กลวิธีการเข้าประกบตัวเร็วทันทีเมื่อเสียการครอบครองบอลในทุกแดน
                      4.ใช้ยุทธวิธีรุกโต้สวนกลับเร็วทันที เมื่อแย่งตัดบอลคืนกลับมาได้ อาศัยแทกติกการเล่นที่ฝึกซ้อมมา และใช้ผู้เล่นกองหน้าที่มีความเร็วสูงทำเกมเข้าทำประตู
                      5.เน้นยุทธวิธีการทำประตูจากลูกนิ่งต่างๆ ทั้งฟรีคิก และการเตะจากมุมอีกด้วย

 ภาพจาก www.one2ball.com

  

                          ซึ่งจะเห็นได้อย่างเช่นทีมเจ้าภาพรัสเซียที่มีสภาพทีมก่อนการแข่งขันไม่เป็นที่น่าพอใจเลยใช้เทคนิคดังกล่าวและมีทีเด็ดจากการเล่นลูกฟรีคิกทำให้ผ่านเข้ารอบลึกได้อย่างประทับใจ ส่วนทีมญี่ปุ่นใช้ความมีวินัยดีเยี่ยมตั้งรับเหนียวแน่นจนผ่านเข้ามาเล่นในรอบลึกและเกือบจะเอาชนะทีมเบลเยี่ยมได้อีกด้วย ส่วนทีมเกาหลีใต้ใช้เทคนิคเดียวกันพลิกเกมชนะทีมที่มีมาตรฐานสูงอย่างเยอรมันนีได้ และสุดท้ายทีมฝรั่งเศสก็ใช้เทคนิคแบบเดียวกันนี้เล่นงานทีมเบลเยี่ยม และทีมโครเอเซียจนได้เป็นแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 ไปและเป็นแชมป์ครั้งที่ 2 อีกด้วย....