ฝึกการเล่นแบบ 1 ต่อ 1 มีความสำคัญ..

 

  การฝึกผู้เล่น 1 ต่อ 1  มีความสำคัญอย่างไร

 

ภาพจาก www.clipfasthd.com

                                     ในเกมการเล่นและแข่งขันแม้ว่าแต่ละทีมจะมีผู้เล่นฝ่ายละ 11 คนก็ตาม แต่ถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่ามีผู้เล่นทั้ง 2 ฝ่ายต่อสู้แบบ 1ต่อ1 เพื่อแย่งชิงบอลกันตลอดเวลา ดังนั้นผู้เล่นทุกคนจำเป็นต้องได้รับการฝึกการเล่นแบบ 1ต่อ1 ทั้งเกมรุกและเกมรับให้เกิดความชำนาญ ด้วยเหตุผลดังนี้....

                                 เมื่อเป็นฝ่ายรุก..

                                  1.สร้างความเชื่อมั่นในการครอบตรองบอลและสามารถพาบอลหลบหลีกคู่ต่อสู้ได้ 

                                  2.มีความเข้าใจแทคติกการเอาชนะคู่ต่อสู้สามารถเลี้ยงบอลผ่านแบบกินตัวได้ ทำให้เกมการเล่นของทีมเหมือนมีผู้เล่นมากกว่า

 

ภาพจาก www.antrochadeportiva.com

                                  3.สร้างความกดดันให้ทีมคู่ต่อสู้ที่ต้องเฝ้าระวังและใช้ผู้เล่นอย่างน้อย 2 คนตามประกบ จะทำให้ผู้เล่นในทีมเราอยู่ในตำแหน่งที่ว่างมีโอกาสเล่นได้มากขึ้น

 

ภาพจาก www.thairathcoth

                                  4.สามารถนำแทคติกนี้ไปใช้แก้สถานการณ์ปลดล็อกเมื่อเพื่อนร่วมทีมถูกตามประกบไม่สามารถมาช่วยสนับสนุนการเล่นได้ จึงต้องเลี้ยงหลบหลีกคู่ต่อสู้ผ่านเข้าในเขตโทษเพื่อเรียกฟาวล์หรือทะลุทะลวงผ่านเข้าไปยิงประตู

 

ภาพจาก wwwsanook.com

                                  5.สามารถใช้เทคนิคการครอบครองบอลในพื้นที่แคบบริเวณมุมธง เพื่อเผาเวลาให้หมดไปเมื่อทีมมีประตูนำและใกล้หมดเวลาการแข่งขัน..เป็นต้น

                                 เมื่อเป็นฝ่ายรับ..

                                  1.ไม่ตกใจเมื่อทีมเสียการครอบครองบอลและเป็นฝ่ายรับ

                                  2.ใช้แทคติกการชลอเกม โดยห่วงเหนี่ยวให้คู่ต่อสู้เล่นได้ช้าลงไม่สามารถเจาะทะลุผ่านได้ง่าย เพื่อลดความเสียเปรียบลง

                                  3.ใช้แทคติกการปิดทางการเล่น ปิดมุมการส่ง บีบอัดกระชับพื้นที่หาจังหวะเบียดแย่งชิงตัดบอล 

                                  4.เมื่อสามารถครอบครองบอลได้ให้เปลี่ยนแทคติกการเล่นเป็นฝ่ายรุกทันที

                                  ดังนั้นความสำคัญของการฝึกแบบ 1 ต่อ 1 จึงมีความจำเป็นสำหรับผู้เล่น เพราะเป็นทักษะ เทคนิคและแทคติกเบื้องต้นเฉพาะตัว ทำให้สามารถเอาตัวรอดในเกมการเล่นได้และยังช่วยให้เกมของทีมดีขึ้นทั้งเกมรุกและเกมรับอีกด้วย... 

                                      

ผู้เล่นด้านข้างเป็นตัวแปรของความสำเร็จ

 

 การวางโครงสร้างทีมให้ประสบความสำเร็จ

       ภาพจาก www.zimbio.com

                                         ทำอย่างไรที่จะทำให้ทีมมีผลงานที่ดีและประสบความสำเร็จ ถ้าพิจารณาจากทีมต่างๆที่มีผลงานการแข่งขันที่ดี จะเห็นได้ว่าการวางโครงสร้างผู้เล่นหลักของทีมในแนวแกนกลางที่ดีแล้วยังต้องจัดผู้เล่นส่วนอื่นเข้ามาสนับสนุนผู้เล่นหลักให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น สิ่งที่ควรคำนึงมีดังนี้

                                       องค์ประกอบที่เสริมผู้เล่นหลักมีดังต่อไปนี้

                                      1. เน้นการสร้างสรรค์เกมรุกจากทางด้านข้าง

                                      2. เปิดเกมทะลุผ่านแนวรับกดดันกองหลัง เพื่อเปิดบอลเข้าหน้าปากประตูจากด้านข้าง

                                      3. เตรียมผู้เล่นตำแหน่งปีกทั้ง 2 ด้านที่มีความเร็ว มีเทคนิคในการพาบอลทะลุผ่านแนวรับได้ดีและสามารถเปิดผ่านบอลที่แม่นยำ

                                      4. หาผู้เล่นแบ็คทั้ง 2 ด้านที่แข็งแกร่งสามารถเติมเกมรุก เพื่อเติมขึ้นไปและมีเทคนิคในการเปิดบอลเข้าไปบริเวณหน้าประตูได้แม่นยำ

                                       ซึ่งถ้าเราย้อนไปสำรวจทีมสโมสรที่ประสบความสำเร็จได้ โดยในทีมมีผู้เล่นในแนวเกนหลักที่ดีแล้วยังมีผู้เล่นด้านข้างที่ดีอีกด้วย ดังตัวอย่างเช่น...

                                      สโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด สมัยของเซอร์อเล็กซ์เฟอร์กูสัน ทีมจะมีผู้เล่นด้านข้างที่มีประสิทธิภาพอย่าง ไรอัล กิ๊กส์, คริสเตียโน โรนัลโด, ปาทริซ เอฟรา, โอเล่กุลน่า โซลชา  , เดวิด แบ็แเฮม, และแกรี เนวิลล์

   

ภาพจาก www.siamsport.com

                   

                                      สโมสรเชลซี ยุคของ มูรินโญ ทีมจะมีผู้เล่นปีกที่สร้างสรรค์เกมได้ดีทั้ง     อาร์เยน ร็อบเบน, เดเมี่ยน ดัฟฟ์, และ แอชลีย์ โคล ที่กดดันสร้างปัญหาให้กองหลังทีมคู่ต่อสู้อย่างมากเช่นกัน

                                       ภาพจาก www.chelsea-wordpress.com

                                      สโมสรบาเยิร์น มิวนิก ของเยอรมันนี มีผลงานที่โดดเด่นซึ่งช่วงที่ผ่านมาทีมมีผู้เล่นปีกที่ดีมากๆ คือ อาร์เยน ร็อบเบน, และฟร้องค์ ริเบรี่ ที่สร้างเกมรุกได้ดุดันเสมอ

 

                                             ภาพจาก www.sanook.com

                                     สโมสรลิเวอร์พูล ชุดประจุบันที่สร้างผลงานโด่งดังช่วงนี้ ทีมจะมีผู้เล่นด้านข้างสร้างเกมรุกที่ดุดัน ทั้ง โมฮาเม็ด ซาร์รา, และ ซาดีโย มาเน เป็นต้น

ภาพจาก www.sport.trueid.net

                                    จะเห็นได้ว่าถ้าโค้ชสามารถวางยุทธศาสตร์การเตรียมผู้เล่นแนวด้านข้างที่ดีมาสร้างสรรค์เกมรุกและสนับสนุนเกมการเล่นของทีมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้มีมากยิ่งขึ้น โอกาสที่จะส่งผลให้ทีมมีผลงานเหนือทีมคู่ต่อสู้อื่นๆมีมากขึ้นได้อีกด้วย..

พื้นฐานการวางโครงสร้างทีม

 

 แนวคิดพื้นฐานการวางโครงสร้างทีม

                                                 ภาพจาก www.m.thsport.com
 

                                      การเตรียมการสร้างทีมจำเป็นต้องเข้าใจหลักการพื้นฐานในการจัดโครงสร้างของผู้เล่นในทีม โดยทั่วไปมีแนวทางดังนี้

                                     แนวทางการวางโครงสร้างของทีม

                                      1. เน้นวางผู้เล่นหลักตามแนวแกนกลาง ตั้งแต่กองหน้า กองกลาง กองหลังและผู้รักษาประตู เพราะจะเป็นกำลังหลักในการเชื่อมต่อเกมการเล่นทั้งหน้า กลาง หลัง และประตูทั้งเกมรุกและเกมรับ

                                      2. พิจารณาผู้เล่นที่มีความสามารถดีเหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่ในกองหน้า กองกลาง กองหลัง ผู้รักษาประตูอย่างน้อยกลุ่มละ 1 ตำแหน่ง เพื่อเป็นตัวหลักในการเดินเกมการเล่น

                                      3. ผู้เล่นกองหน้าต้องเป็นผู้เล่นที่มีสัญชาตญาณเพชฌฆาตมีความในสามารถการทำประตูที่เฉียบคม

                                      4. ผู้เล่นกองกลางต้องสามารถครอบครองบอลได้ดี มีความคิดสร้างสรรค์เกมรุกและเปลี่ยนแกนการเล่นได้ดี สามารถส่งบอลแบบที่ได้เปรียบด้วยความแม่นยำทั้งระยะใกล้และระยะไกล

                                      5. ผู้เล่นกองหลังต้องมีความแข็งแกร่ง เล่นบอลในอากาศได้ดี ฉลาดอ่านเกม สามารถสั่งการ คุมสถานการณ์ให้เสียเปรียบน้อยที่สุด และเมื่อแย่งตัดบอลได้แล้วสามารถเปิดบอลเป็นเกมรุกได้ทันที

                                      6. ส่วนผู้รักษาประตูต้องมีทักษะป้องกันประตูดีรวมทั้งใช้เท้าเล่นบอลได้ดี สามารถอ่านเกมและสั่งการเกมได้ดีเช่นกัน

                                       แนวคิดเบื้องต้นในการวางโครงสร้างทีมแบบง่ายๆ แล้วหาตัวประกอบในตำแหน่งต่างๆมาเสริมให้เต็มทีมก็น่าจะพอเป็นทีมที่ใช้ในการแข่งขันได้ต่อไป

แบ็คเล่นอย่างไรให้ดี..

 

 เทคนิคการเล่นแบ็ค

ภาพจาก www.chula.ac.th

                                      แบ็คทั้ง 2 ข้างจะเป็นขุมกำลังที่สำคัญของกองหลังที่ทำหน้าที่ป้องกันการโจมตึจากพื้นที่ทางด้านข้างของสนาม ดังนั้นอาจจะมีคำถามว่า"แบ็คควรเล่นอย่างไรจึงมีประสิทธิภาพ?"

                                   เทคนิคการเล่นของแบ็คแบ่งได้ 2 แบบ คือเล่นเกมรับ และเล่นเกมรุก

                                    1. เทคนิคการเล่นเกมรับ

                                      1.1. ต้องพยายามกดดันให้ผู้เล่นฝ่ายรุกที่ครองบอลถอยออกไปอยู่พื้นที่ด้านข้างของสนาม

                                      1.2. ต้องพยายามบีบผู้เล่นฝ่ายรุกให้เล่นในพื้นที่แคบใกล้เส้นข้างสนามหรือให้มีพื้นที่เล่นน้อยที่สุด

                                      1.3. ต้องพยายามประกบชิดไม่ให้คู่ต่อสู้เปิดบอลจากด้านข้างเข้ามาสู่บริเวณพื้นที่หน้าประตู

                                      1.4. เน้นป้องกันไม่ให้คู่ต่อสู้เลี้ยงบอลหลบผ่านเข้าไปได้

                                      1.5. ต้องเคลื่อนที่เข้าด้านในสนับสนุนเกมรับช่วยสอดซ้อนป้องกันด้านหลังของคู่กลางบริเวณเขตโทษ เมื่อคู่ต่อสู้โจมตีแบ็คอีกด้านหนึ่ง

                                    2. เทคนิคการเล่นเกมรุก

                                      2.1. เคลื่อนตัวออกไปด้านข้างชิดเส้นข้างเพื่อสนับสนุนการเปิดเกมรุกจากผู้รักษาประตู

                                      2.2. เคลื่อนตัวขึ้นไปด้านข้างกลางสนามเพื่อประคองหรือสนับสนุนการเล่นเกมรุกของผู้เล่นกองกลาง

                                      2.3. เคลื่อนตัวขึ้นไปสู่แดนหน้าด้านข้างแบบอ้อมผู้เล่นปีกทะลุขึ้นไปทำเกมรุกในแดนหน้าเมื่อปีกพาบอลหลบเข้ามาด้านใน เพื่อสนับสนุนเกมรุกโดยเติมขึ้นไปเปิดบอลจากด้านข้างไปสู่พื้นที่หน้าประตูให้กองหน้าทำประตู

                                      2.4. แบ็คที่ไม่ได้อยู่ในด้านที่กำลังเล่นเกมรุกต้องค่อยๆเคลื่อนตัวเติมขึ้นไปสู่แดนหน้า(ซึ่งมาจากพื้นที่ที่ไม่ได้อยู่ในความสนใจของคู่ต่อสู้) เพื่อสนับสนุนเกมรุุก โดยพร้อมที่จะรับบอลที่ส่งมาจากการเปลี่ยนแกนการเล่นมา แล้วพาบอลทะลุผ่านแนวรับเข้าไปทำเกมรุก หรือเข้าไปทำประตูทันที

                                   เทคนิคการเล่นของแบ็คแบบนี้จะส่งเสริมให้เป็นผู้เล่นที่เล่นแบ็คเล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

การป้องกันแบบหลัง 5 คน

การเล่นแบบกองหลัง 5 คน

ภาพจาก www.youtube.com

                                         เทคนิคเกมรับแบบกองหลัง 5 คนเป็นอีกวิธีการหนึ่งที่นิยมใช้กัน เพียงแต่อาจจะไม่ได้แสดงในการวางระบบการเล่น แต่ถ้าสังเกตุให้ดีจะเห็นชัดในขณะที่เกมการแข่งขันดำเนินอยู่เสมอ

                                      องค์ประกอบที่เล่นแบบกองหลัง 5 คน

                                      1. โค้ชพิจารณาเห็นว่าทีมมีศักยภาพต่ำกว่าทีมคู่แข่ง

                                      2. โค้ชเน้นแทคติกการป้องกันแบบตั้งรับเต็มตัว

                                      3. เน้นการป้องกันเต็มพื้นที่บริเวณหน้าประตู และป้องกันการโจมตีจากพื้นที่ด้านข้างของสนามด้วย

                                      4. ผู้เล่น 3 คนตรงกลางจะใช้ 2 คนเป็น Stopper ตัวชนข้างหน้า และอีก 1 คนจะเป็น Sweeper ที่คอยเก็บกวาดอยู่ด้านหลังตรงกลางและด้านข้าง คล้ายการเล่นแบบกองลัง 3 คน

                                      5. ผู้เล่นแนวรับทั้ง 5 คนต้องมีความเข้าใจและต้องเล่นหมุนเวียนเปลี่ยนตำแหน่งด้วยความสัมพันธ์กัน

                                      แทคติกการจัดแนวรับแบบนี้จะช่วยลดความเสียเปรียบในเกมการเล่นของทีมลง เน้นที่ผลการแข่งขันไม่ให้แพ้ในเกม หรือเน้นใช้เล่นในเกมการแข่งขันแบบแพ้คัดออก  แล้วถ้าทีมมีแทคติกการเล่นแบบโต้รุกกลับที่มีประสิทธิภาพด้วยแล้วอาจจะทำให้ผลการแข่งขันกลับกลายเป็นชัยชนะได้อีกด้วย...

                                    

การป้องกันแบบหลัง 3 คน

การเล่นแบบกองหลัง 3 คน

ภาพจาก www.pantip.com

                         ถ้าต้องการเล่นป้องกันแบบกองหลัง 3 คน นั่นแสดงว่าท่านพิจารณาแล้วเห็นว่า 

                                     1. ผู้เล่นกองหลังของเรามีความเข้าใจเกมดีและมีขีดความสามารถสูงมาก

                                   2. ประสิทธิภาพเกมรุกของคู่ต่อสู้ไม่โดดเด่นมากพอ

                                   3. ทีมเน้นกลยุทธ์เปิดเกมรุกเต็มที่

                             การจัดแนวรับจะใช้ผู้เล่นเพียง 3 คน จะมีหน้าที่คุมพื้นที่ด้านหลังทั้งตรงกลางและด้านข้างทั้งซ้ายและขวา เพราะแบ็คทั้ง 2 ข้างจะถูกกำหนดให้ดันขึ้นไปสนับสนุนเกมรุกเต็มตัว

                               องค์ประกอบในการเล่นแบบกองหลัง 3 คน

                                1. ผู้เล่นทั้ง 3 คนต้องมีความเข้าใจ และเล่นสอดซ้อนประสานสัมพันธ์กันได้อย่างดี

                                2. ตำแหน่งการยืน จะมีผู้เล่น Stopper เป็นตัวชนเพื่อแย่งบอลข้างหน้า 2 คนและมีผู้เล่น Sweeper ที่เป็นตัวรองอยู่ด้านหลังคอยเก็บกวาด 

                                3. ผู้เล่นตัวชนที่อยู่ด้านหน้าจะต้องรับผิดชอบถึงด้านข้างแทนแบ็คทั้งด้านซ้ายและด้านขวาอีกด้วย

                                4. ผู้เล่นทั้ง 3 คนจะต้องเคลื่อนที่ย้ายสลัดด้านซ้าย-ขวาเพื่อป้องกัน และต้องหมุนเวียนเปลี่ยนตำแหน่งสอดซ้อนช่วยกันป้องกันซึ่งเล่นกันอย่างสัมพันธ์กันอีกด้วย

                                5. กองกลางและแบ็คจะต้องถอยกลับลงมาช่วยสนับสนุนเล่นในเกมรับด้วย

 

                               การเล่นแบบนี้ผู้เล่นกองหลังต้องมีศักยภาพสูงและผู้เล่นกองกลางรวมทั้งแบ็คต้องมีความเข้าใจเกม และต้องมีการฝึกซ้อมเตรียมการเล่น เพื่อให้เล่นสัมพันธ์กันได้อย่างดีอีกด้วย

การป้องกันแบบ 4 คน

การเล่นแบบกองหลัง 4 คน

ภาพจาก www.youtube.com

                                       ถ้าเลือกการป้องกันแบบกองหลัง 4 คน จะมีแบบการเล่นพื้นฐานอยู่ 2 แบบ ซึ่งโค้ชจะต้องพิจรณาจากองค์ประกอบที่ได้กล่าวไปจากตอนที่แล้วและเตรียมผู้เล่นให้เล่นได้อย่างที่กำหนดเป็นต้น..

                                      โดยปกติแผงแนวรับจะมีหน้าที่ช่วยกันป้องกันเกมรุกของคู่ต่อสู้ ซึ่งแบ็คทั้ง 2 ข้างจะต้องป้องกันปีกที่จะโจมตีทางด้านข้างริมสนามอยู่แล้ว ในที่นี้จะขอกล่าวเฉพาะการเล่นของผู้เล่นกองหลังคู่กลาง ซึ่งจะมีแนวทางในการเล่น 2 แบบดังนี้

                                       1. แบบใช้ Stopper ข้างหน้า หรือมีตัวชนข้างหน้า

                                    เนื่องจากเรามีผู้เล่นที่มีความสามารถที่แตกต่างกัน จะใช้คนที่แข็งแกร่งมาเป็น Stopper ตัวหน้าเพื่อเอาไว้เบียดชนแย่งและทำลายจังหวะของกองหน้าฝ่ายรุก แล้วให้กองหลังอีกคนหนึ่งที่ฉลาดและมีความเข้าใจเกมมากกว่า เป็นผู้สั่งการและตัดแย่งบอลแบบ Sweeper คือเก็บกวาดบอลที่หลุดผ่านแผงแนวรับมาทุกทิศทาง

                                      2. แบบใช้ Stopper คู่ หรือเล่นเป็นตัวชนสลับกัน

                                     ถ้าทีมมีผู้เล่นกองหลังคู่กลางที่ความสามารถดีใกล้เคียงกัน เราสามารถให้ผู้เล่นทั้ง 2 คนนั้นทำหน้าที่เป็นตัวชนและเป็นตัวเป็นตัวเก็บกวาดสลับกัน โดยแบ่งหน้าที่รับผิดชอบคนละด้านจะเป็นด้านซ้ายหรือด้านขวาได้เลย แต่บางโอกาสอาจจะต้องสลับด้านกันในบางครั้งเนื่องจากการสนับสนุนช่วยกันป้องกันได้อีกด้วย แบบนี้การทำหน้าที่ป้องกันของแนวรับจะมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

                                       อย่างไรก็ตามโค้ชต้องดู ความสามารถผู้เล่นว่ามีลักษณะอย่างไรแล้วพิจารณาว่าควรจะฝึกให้ผู้เล่น เล่นแบบใดจึงจะช่วยให้แนวรับสามารถเล่นเกมป้องกันให้ได้ดีมากที่สุดต่อไป

การจัดผู้เล่นกองหลัง..แบบไหนดี??

ภาพจาก www.th.wikipedia.org

                                    กองหลังถือได้ว่าเป็นขุมกำลังที่สำคัญของทีม ที่จะเป็นตัวกำหนดผลการแข่งขันของทีมที่ไม่ให้เกิดความพ่ายแพ้ได้จริง การวางตัวผู้เล่น และวิธีการเล่นที่เหมาะสมจะช่วยให้ขุมกำลังของกองหลังมีประสิทธิภาพในการเล่นเกมรับได้ดี
                                  โดยปกติการจัดแนวรับเพื่อป้องกัน เราจะพบเห็นทั่วไป บางครั้งจะใช้ผู้เล่นกองหลัง 4 คน บางทีมจะใช้ผู้เล่นกองหลัง 3 คน หรืออาจจะใช้กองหลังถึง 5 คน เป็นต้น บางท่านอาจจะมีข้อสงสัยว่าจะการจัดแนวรับแบบไหนดีกว่ากัน.... อันที่จริงการจัดแนวรับทุกแบบจะมีส่วนดีต่อทีมทั้งนั้น แต่ที่สำคัญจะใช้แบบใดนั้นจะขึ้นอยู่องค์ประกอบของทีมเป็นที่ตั้ง
                                    องค์ประกอบในการพิจารณาจัดแนวรับ..มีดังต่อไปนี้..
                                   1.โค้ชต้องเข้าใจเทคนิคการเล่นแต่ละแบบว่ามีคุณสมบัติแต่ละแบบอย่างไร
                                   2. ผู้เล่นในทีมมีขีดความสามารถในการเล่นเหมาะสมกับแบบใด
                                   3. โค้ชสามารถฝึกให้ผู้เล่นรู้เข้าใจและสามารถเล่นแบบใดได้ดีที่สุด
                                   4. ผู้เล่นสามารถเล่นในรูปแบบใดได้ดีและมีความสัมพันธ์กันได้มากที่สุด
                                   5. โค้ชต้องพิจารณาเลือกแบบการเล่นที่น่าจะได้เปรียบในการเล่นกับคู่ต่อสู้แต่ละทีม เพื่อสร้างโอกาสในการแข่งขัน                 
                            การเลือกวิธีการจัดผู้เล่นกองหลังเพื่อใช้เล่นแบบใดนั้น มีสิ่งที่ควรระวังคือ..
                                   1. ต้องไม่เลือกเพราะเห็นว่า แบบการเล่นนั้นกำลังเป็นที่นิยม
                                   2. ต้องไม่เลือกเพราะโค้ชมีความชอบแบบการเล่นนั้นเป็นพิเศษ
                          โค้ชจำเป็นต้องทำความเข้าใจให้ถูกต้องเสียก่อน แล้วต้องศึกษาเทคนิกและวิธีการเล่นของกองหลังแต่ละแบบ รวมถึงข้อดีและข้อเสียให้ดีก่อน แล้วจึงมาพิจารณาเลือกแบบการเล่นที่เหมาะสมมาใช้ และผู้เล่นกองหลังที่ดีต้องสามารถเล่นการป้องกันได้หลายๆ  แบบเพื่อจะได้นำไปใช้ในสถานะการณ์เกมการเล่นที่ต้องพบในการแข่งขันให้ได้อย่างเหมาะสม ซึ่งจะลดโอกาสความเสียเปรียบลงได้

กองกลางเล่นอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ

ภาพจาก www.pantip.com

                           ผู้เล่นตำแหน่งกองกลางถือว่ามีบทบทสำคัญในการกำหนดแทคติกการเล่นของทีมให้ไปในรูปแบบทิศทางอย่างไร

                           แต่หลายทีมที่มีผู้เล่นกองกลางที่มีความสามารถสูง แต่อาจจะประสบปัญหาในการขับเคลื่อนเกมได้ไม่ดีไม่ลื่นไหลติดๆขัดๆทำให้ทีมเล่นไม่ได้เปรียบ
                           หลายๆทีมมีผู้เล่นกองกลางที่ดี แต่มีปัญหาที่ไม่สามารถสร้างสรรค์เกมการเล่นได้ดี เนื่องมาจากผู้เล่นที่ดีนั้นต่างคนต่างเล่นตามความคิดของตนเอง ผู้เล่นที่ดีแต่ละคนนั้นจะมีขีดจำกัดของตนเองอยู่ ซึ่งอันที่จริงแล้วแต่ละคนจะมีขีดความสามารถไม่เท่ากัน ดังนั้นโค้ชจึงต้องพิจารณาขีดความสามารถของผู้เล่นแต่ละคน..ว่าคนไหนมีความคิดสร้างสรรค์ในการจ่ายบอลเพื่อสร้างเกมรุกได้ดีและเหมาะสมกับโอกาสได้มากกว่า แล้วจึงนำมาบริหารจัดการเล่นของกลุ่มผู้เล่นกองกลางนั้น
                       แนวคิดในการบริหารจัดการผู้เล่นกองกลางให้มีประสิทธิภาพ..มีดังนี้
                           1. ต้องพิจารณาจัดลำดับขีดความสามารถของผู้เล่น
                             2. ต้องมอบหมายบทบาทหน้าที่ให้ผู้เล่นแต่ละคนอย่างเหมาะสม ตามลำดับความสำคัญให้เล่นในเกมรุกและเกมรับ
                             3. เน้นผู้เล่นที่ฉลาดและเล่นบอลได้เหมาะสมกับโอกาสและสถานะการณ์การเล่นมากที่สุด ต้องให้เป็นผู้จ่ายบอลหลักเพื่อเปิดเกมรุกที่ได้เปรียบ เพราะถ้าไม่กำหนดเช่นนี้ผู้เล่นกองกลางที่มีความมั่นใจจะแย่งกันเป็นคนจ่ายบอล ซึ่งการจ่ายบอลไปนั้นอาจจะได้เปรียบน้อยลง เพราะขาดความแม่นยำหรือจ่ายบอลไปในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม

 ภาพจาก www.matichon.co.th

                             4. ผู้เล่นลำดับรองควรมอบบทบาทให้ทำหน้าที่ เป็นผู้สนับสนุนช่วยพักบอลให้ตัวจ่ายหลัก และเป็นผู้จ่ายบอลสำรองเมื่อผู้จ่ายบอลหลักถูกสกัดกั้นจากคู่ต่อสู้ อย่างเช่น เควิน เดอ บรอยน์ แม้ว่าจะเป็นตัวจ่ายที่โดดเด่นของทีมสโมสรแมนซิตี้   เมื่อมาเล่นในทีมชาติเบลเยี่ยม  เขาจะปรับตัวมาเป็นผู้สนันสนุนการเล่นของ เอเดน อาซาร์ ที่เป็นผู้จ่ายบอลตัวหลักของทีม และทำหน้าที่จ่ายบอลสำรองในทีมแทน

 ภาพจาก www.sportlife.news

                             5. ถ้าใช้ผู้เล่นกองกลาง 3 คน ผู้เล่นคนนี้ควรเป็นผู้สนับสนุนผู้เล่น 2 คนแรกโดยการประคอง และต้องช่วยไล่ล่าทำลายเกมรุกของคู่ต่อสู้ เข้าแย่งบอลเมื่อเป็นเกมรับ
                             6. ถ้าใช้ผู้เล่นกองกลาง 4 คน ผู้เล่นคนนี้จะให้การสนับสนุนการเล่นแบบเดียวกับผู้เล่นคนที่ 3 แต่จะคุมพื้นที่ด้านหลัง และต้องทำหน้าที่หลักเป็นกลางรับเต็มตัว
                              เมื่อบริหารการเล่นโดยกำหนดบทบาทน้าที่ในการเล่นให้ผู้เล่นอย่างชัดเจนแล้ว และทำการฝึกซ้อมให้เล่นได้อย่างประสานสัมพันธ์กันเป็นระบบ กองกลางขออองทีมจะสามารถขับเคลื่อนเกมทั้งรุกและรับได้อย่างสมดุล ทำให้ทีมมีประสิทธิภาพในการเล่นได้ดีมากยิ่งขึ้นด้วย...        

ผู้เล่นกองหน้าต้องเฉียบคม

ภาพจาก www.shotongoal.com

                                   ทีมที่ประสบความสำเร็จในการแข่งขัน โดยส่วนใหญ่จะมีผู้เล่นกองหน้าที่มีประสิทธิภาพในการทำประตูได้ดีกว่าทีมอื่นๆ ดังนั้นในหลักการ..แต่ละทีมจำเป็นอย่างยิ่งต้องมีผู้เล่นกองหน้าที่มีทักษะและเทคนิคการทะลุทะลวงและยิงประตูได้เฉียบคม เพื่อทำประตูได้ทุกครั้งที่มีโอกาส อย่างเช่น เปเล่ และ โรนัลโด้ กองหน้าขอทีมบราซิล, แกร์ด มุลเลอร์ กองหน้าทีมเยอรมันนี, โรเบอร์ต เลวาลดอฟสกี้ กองหน้าทีมสโมสรบาเยิร์นมิวนิก, ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน กองหน้าทีมชาติไทย ที่มีความสามารถยิงประตูทีมคู่แข่งได้เสมอ จนมีสถิติการทำประตูเป็นหลักเกินร้อยประตูขึ้นไป เป็นต้น

 

                       กองหน้าที่ทำให้กองหลังและผู้รักษาประตูคู่ต่อสู้ต้องผวา ต้องมีคุณสมบัติดังนี้

                              1. มีทักษะในการครองบอลและมีเทคนิคในการเล่นบอลทั้งภาคพื้นดินและลูกกลางอากาศเพื่อยิงประตูได้ดี

                              2. มีความคิดและการตัดสินใจเล่นในทุกสถานการณ์ได้ฉับไว รวมถึงการมีจินตนาการณ์ในการยิงประตูที่เหมาะสมกับโอกาสที่มี

                              3. มีความเร็วในการเคลื่อนที่พุ่งโฉบเข้าหาบอล บริเวณหน้าปากประตูเพื่อยิงประตูที่แม่นยำ

                              4. มีจิตใจที่แกร่งสามารถเล่นบอลแบบกล้าได้กล้าเสีย
                              5. ต้องมีจิตวิญญาณของความเป็นเพชฌฆาตอยู่ตลอดเวลา เมื่อเห็นโอกาสแล้วต้องทำประตูให้สำเร็จด้วยความเด็ดขาดเฉียบคม และยิงประตูได้อย่างสม่ำเสมอ

ภาพจาก www.m.thsport.com

ภาพจาก www.microsoft.com

ภาพจาก www.youtube.com

ภาพจาก www.pantip.com

                              ถ้าผู้เล่นกองหน้าคนใดที่มีองค์ประกอบเหล่านี้ครบ จะมีความสามารถที่ดีและมีโอกาสที่จะเป็นผู้เล่นที่จะยกระดับขึ้นเป็นซุเปอร์สตาร์ดาวยิงในตำนานได้.....

การใช้กองหน้าตัวเป้า1 หรือ 2 คนดีอย่างไร.

ภาพจาก www.m.thsport.com

                                    ผู้เล่นตำแหน่งกองหน้าที่ประจำบริเวณหน้าปากประตูของคู่ต่อสู้เพื่อมีหน้าที่ทำประตู โดยปกติจะเห็นว่ามีผู้เล่นตำแหน่งหน้าเป้านี้ 1 หรือ 2 คน ดังนั้นเราควรจะเลือกใช้ในการเล่นอย่างไรดี

                                 การใช้ผู้เล่นแบบใดนั้นควรจะพิจารณาจากองค์ประกอบต่อไปนี้

                                
                                 1. การใช้กองหน้าตัวเป้า 1 คน
                                    1.1 ทีมเน้นแทคติกการเล่นเพื่อความปลอดภัย โดยลดกองหน้ามาเสริมผู้เล่นกองกลางให้มีประสิทธิภาพในการครองบอลและเล่นเกมรับเพิ่มขึ้น
                                    1.2 ผู้เล่นหน้าเป้าคนนี้ต้องมีทักษะ เทคนิค เทคติกวิธีการเล่นที่มีขีดความสามารถสูงมาก
                                  1.3 ผู้เล่นหน้าเป้า ต้องมีสภาพร่างกายที่แข็งแรงและมีความเร็ว
                                  1.4 ผู้เล่นหน้าเป้า ต้องเป็นคนที่มีจิตใจแกร่งและกล้าหาญ สามารถพาบอลทะลุทะลวงฝ่าแนวรับของกองหลังไปเพื่อเข้าทำประตูให้ได้ด้วยตัวคนเดียว
                                  1.5 ทีมต้องมีผู้เล่นปีกทั้งสองข้างที่มีความสามารถ สร้างสรรค์เกมโดยเจาะทะลุด้านข้างของแนวรับไปสร้างความกดดันด้านหลังแนวรับได้ดีมาก เพื่อทำให้กองหลังที่ประกบผู้เล่นหน้าเป้าเกิดความพะวง การประกบตัวในการป้องกันอาจจะทำให้เกิดความผิดพลาดได้ง่ายขึ้น
                                  1.6 ผู้เล่นกองกลางต้องมีความเข้าใจแทคติกการเล่นแบบผสมผสานการเติมเกมรุกที่ดี เพื่อสนับสนุนกดดันเกมรุกช่วยผู้เล่นหน้าเป้าได้อีกส่วนหนึ่ง

                                   2. การใช้ผู้เล่นกองหน้าเป้า 2 คน
                                        2.1 แทคติกการเล่นของทีมเน้นเล่นเกมรุก-เกมรับแบบปกติทั่วไป
                                        2.2 ผู้เล่นปีกทั้งสองข้างอาจจะไม่สามารถเจาะทะลุผ่านแนวรับไปสร้างเกมกดดันทางด้านข้างได้ด้วยตัวเอง จึงต้องส่งผ่านบอลไปให้ผู้เล่นกองหน้าที่เคลื่องตัวออกไปเล่นเพื่อสร้างความกดดันแทน
                                      2.3 แทคติกแบบนี้ต้องเล่นแบบความผสมผสานสัมพันธ์กันระหว่างกองหน้ากับปีก
                                      2.4 ส่วนกองหน้าอีกคนเมื่อผู้เล่นตัวเป้าคนแรกเคลื่อนออกไปด้านข้างจะดึงกองหลังที่อยู่หน้าปากประตูต้องตามออกไป ผู้เล่นหน้าเป้าคนที่สองจะมีพื้นที่ว่างเพื่อสร้างและกดดันเกมรุกแล้วสร้างโอกาสทำประตูได้มากขึ้น
                                      2.5 ส่วนแทคติกการเล่นแบบผสมผสานเกมรุกของผู้เล่นกองกลางเพื่อเติมขึ้นไปสนับสนุนเกมรุกจะทำได้ดีเพิ่มขึ้น ถ้าผู้เล่นทั้สองกลุ่มมีความเข้าใจการเล่นและได้ฝึกซ้อมสร้างความสัมพันธ์กันมาอย่างดี
                                       ดังนั้นโค้ชและผู้เล่นต้องพิจารณาเลือกวิธีการเล่น เพื่อใช้ให้เหมาะกับทีมและผู้เล่นที่มีอยู่ให้เเกิดประสิทธิภาพในการเล่นได้มากที่สุด

เทคนิคการเล่นของกองหน้า..ร่างเล็ก

ภาพจาก www.news.room44.net

                                 ผู้เล่นในตำแหน่งต่างๆ เราไม่อาจจะกำหนดขนาดร่างกายของผู้เล่นในแต่ละตำแหน่งได้ เพราะแต่ละคนจะมีสัญชาตญานและความถนัดความชำนาญในการเล่นที่แตกต่างกัน ดังนั้นผู้เล่นแต่ลคนจะต้องหาเทคนิคการเล่นในแบบเฉพาะตนมาใช้เล่นให้ได้อย่างเหมาะสม

 ภาพจาก www.siamsportonline.com

                                แม้ว่าผู้เล่นตำแหน่งกองหน้าที่มีรูปร่างเล็กจะมีขีดจำกัดในบางเรื่อง อย่างเช่นการแย่งโหม่งบอลเพื่อทำประตูอาจจะสู้ผู้เล่นกองหลังไม่ได้ แต่ก็ยังสามารถเล่นกองหน้าได้ ถ้ามีเทคนิคการเล่นที่ดีสามารถกดดันและทำประตูได้อย่างสม่ำเสมอ... ดังนั้นผู้เล่นกองหน้าร่างเล็กควรมีเทคนิคการเล่นอย่างไร

                                     เทคนิคการเล่นพื้นฐานของกองหน้าร่างเล็ก...

                                    1.ใช้การเคลื่อนที่ด้วยความรวดเร็ว
                                    ผู้เล่นกองหน้าที่รูปร่างเล็กแม้จะเสียเปรียบในด้านความสูง และการเล่นลูกกลางอากาศ แต่จะมีจุดเด่นในด้านความเร็วและเล่นบอลกับพื้น ดังนั้นควรใช้การออกตัวเคลื่อนที่หนีการประกบจากคู่ต่อสู้ไปรับบอลหรือพาบอลไปด้วยความเร็ว ซึ่งจะช่วยให้เล่นได้เปรียบกองหลังของคู่ต่อสู้

ภาพจาก www.lefcthai.com

                                    2.ใช้ทักษะการเปลี่ยนทิศทางและการหลบหลีกที่ว่องไว
                                    คนร่างเล็กนอกจากจะมีความเร็วเป็นทุนอยู่แล้วยังมีความคล่องแคล่วว่องไวรวมทั้งการเปลี่ยนทิศทางที่ดีกว่าอีกด้วย ดังนั้นการเคลื่อนที่หนีการประกบและการเลี้ยงพาบอลหลบหลีกคู่ต่อสู้เพื่อสร้างโอกาสเลี้ยงทะลุผ่านแนวรับขอกองหลังได้มากขึ้น

ภาพจาก www.aseanwatch.org

                                    3.ครอบครองบอลและเลี้ยงบอลที่ดี
                                    ผู้เล่นต้องมีทักษะความชำนาญในการครอบครองบอลที่ดี เพราะทักษะนี้จะช่วยให้ผู้เล่นกองหน้าร่างเล็ก สามารถสร้างโอกาสการเลี้ยงบอลและทำเกมรุกกดดันกองหลังได้มากกว่า

 ภาพจาก www.innnewsco.th

                                    4.การยิงประตูที่เฉียบคม
                                    ด้วยความเร็วและความคล่องตัวที่มีมากกว่า จะช่วยให้สามารถพาบอลหนีการป้องกันไปสู่พื้นที่ว่าง รวมถึงทำให้มีโอกาสในการยิงประตูด้วย คนร่างเล็กจะใช้จังหวะในการยิงประตูได้รวดเร็วกว่า ดังนั้นถ้ามีทักษะการยิงประตูที่ดีและมีความแม่นยำ รวมถึงมีความมั่นใจเต็มร้อยด้วยแล้วโอกาสที่กองหน้าร่างเล็กจะเป็นผู้เล่นที่ทำประตูได้เฉียบคม ส่งผลทำให้ได้รับชัยชนะก็ไม่ใช่เรื่องยาก...
                                    รูปร่างที่แตกต่างกันไม่ใช่เป็นอุปสรรคในการเล่นตำแหน่งกองหน้า ถ้าเรารู้และเข้าใจบทบาทหน้าที่ของกองหน้า รวมถึงการมีเทคนิคการเล่นที่ดีเหมาะสมกับสภาพของตัวเองและทำการฝึกซ้อมให้เกิดความชำนาญ จะทำให้สามารถเล่นกองหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพแน่นอน..

เทคนิคการเล่นของกองหน้าร่างใหญ่

ภาพจาก www.pinterest.com

                                       ปกติหน้าที่ของผู้เล่นกองหน้าคิอการเล่นเกมรุกเพื่อเข้าทำประตูให้ได้ ดังนั้นผู้เล่นกองหน้าจึงต้องหาวิธีการเล่นให้เหมาะสมกับตนเอง เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการครอบครองบอลแล้วหาโอกาสยิงประตูให้สำเร็จ

                                    ในที่นี้จะขอกล่าวถึงกองหน้าที่มีรูปร่างสูงใหญ่ เพราะถ้าทีมเรามีผู้เล่นลักษณะแบบนี้เขาควรจะมีเทคนิคการเล่นอย่างไร ให้เกิดความได้เปรียบ..
                                    โดยปกติผู้เล่นร่างใหญ่จะเคลื่อนที่และเปลี่ยนทิศทางได้ไม่ว่องไว แต่มีร่างกายที่ใหญ่สามารถใช้เบียดบังแล้วเล่นบอลจะทำให้มีโอกาสมากกว่า

                                     เทคนิคการเล่นที่ควรนำมาใช้เบื้องต้นดังนี้ 

                                    1.การโจมตีด้วยลูกโหม่ง
                                    เมื่อมีร่างกายที่่สูงกว่า ควรใช้วิธีเล่นด้วยลูกกลางอากาศ ซึ่งจะสามารถเล่นบอลได้ก่อนคู่ต่อสู้ ซึ่งการแย่งโหม่งบอลในจังหวะเข้าทำประตูจึงเป็นโอกาสที่ดี ดังนั้นควรฝึกซ้อมเทคนิคการโหม่งบอลให้ชำนาญ

                                    2.การพุ่งโฉบเข้าหาบอลที่พุ่งเข้ามาในพื้นที่หน้าปากประตู
                                    ด้วยร่างกายที่ใหญ่กว่ากองหลัง จึงควรใช้ร่างกายเบียดแล้วพุ่งโฉบเข้าหาบอลที่ส่งเข้ามาในบริเวณกรอบหน้าประตู เข้าแย่งบอลเพื่อไปยิงประตู

 

ภาพจาก www.alamy.com

                                    3.การใช้ร่างกายเบียดบังแล้วพลิกพาบอลเขาไปยิงประตู
                                    การที่มีร่างกายใหญ่จะสามารถบังการเล่นของกองหลังได้ ดังนั้นเมื่อบังคู่ต่อสู้เพื่อรับบอลได้แล้ว ให้ใช้ความได้เปรียบเอาร่ายกายเบียดแล้วพลิกพาบอลกดดันหลบผ่านกองหลังเข้าไปยิงประตูให้ได้

ภาพจาก wwwsekdrive.net

                                    4.การครอบอลแล้วเลี้ยงกระชากพาบอลทะลวงฝ่าแนวรับเข้าไปยิงประตู

                                    ถ้าได้ครองบอลอย่างโดดเดี่ยวบริเวณนอกเขตโทษ แต่หน้าที่คือการทำประตูถ้ารอช้าอาจจะทำให้โอกาสทำประตูสูญเสียไป ดังนั้นควรตัดสิ้นใจเสี่ยงจากความได้เปรียบที่มี โดยใช้เทคนิคการพาบอลกระชากทะลุทะลวงฝ่ากองหลังพุ่งเข้าในเขตโทษ แล้วหาจังหวะยิงประตู ซึ่งเทคนิคแบบนี้ถ้ากองหลังไม่กล้าสกัดก็จะทำให้หลุดผ่านมีโอกาสได้ยิงประตูทันที หรือถ้าคู่ต่อสู้เข้าสกัดแล้วพลาดก็จะถูกลงโทษด้วยการเสียจุดโทษเช่นกัน

                                    เทคนิคการเล่นต่างๆคงต้องนำไปเลือกใช้ให้เหมาะกับสถานการณ์เพื่อให้เกิดความได้เปรียบ โดยพิจารณาจากสิ่งมีผู้เล่นมีแล้วนำไปฝึกซ้อมให้เกิดความชำนาญ จะทำให้ทีมประสบชัยชนะได้ไม่ยาก..

ยุทธวิธีการโจมตีด้วยลูกโหม่ง

ภาพจาก.www.prachachat.net

                                        ในการแข่งขันโค้ชต้องนำศักยภาพของทีมตนเองไปเปรียบเทียบกับศักยภาพของทีมคู่ต่อสู้ ในทุกๆด้านแล้วพิจารณาว่าทีมเรานั้นมีศักยภาพด้านใดที่เหนือกว่า จะได้นำมาใช้ให้เกิดความได้เปรียบในการเล่น อย่างเช่นทีมเรามีผู้เล่นกองหน้าที่มีรูปร่างสูงใหญ่และสามารถเล่นลูกกลางอากาศได้ดีกว่ากองหลังของทีมคู่ค่อสู้

                                        ดังนั้นวิธีการเล่นเกมรุกควรเน้นรูปแบบการเล่นที่ทีมเรามีความได้เปรียบ โดยการโยนบอลเข้าสู่บริเวณพื้นที่หน้าปากประตู เพื่อให้ผู้เล่นกองหน้าที่สูงใหญ่โหม่งบอลทำประตู แต่บางทีทีมคู่ต่อสู้เขาก็รู้และเตรียมตัวซ้อมโหม่งบอลเพื่อมาป้องกันอย่างดี เราจึงควรฝึกซ้อมรูปแบบยุทธวิธีการเล่นเพื่อให้ทีมเล่นด้วยความสัมพันธ์ได้มากที่สุด

 ภาพจาก www.khnonkaenlive.com

                                     เทคนิคการโจมตีด้วยลูกกลางอากาศ..มีดังนี้

 ภาพจาก www.footballnewtv.com

                                       1.ฝึกการโยนจากด้านข้างให้แม่นยำ

                                    การโยนบอลเพื่อให้กองหน้าวิ่งโฉบเข้าไปโหม่งบอลทำประตูที่เหหมาะสมที่สุด ควรโยนบอลมาจากพื้นที่ด้านข้างของสนาม

                                       2.ฝึกการโยนจากระยะต่างๆ

                                    ในสถานการณ์จริง ผู้เล่นฝ่ายรับจะพยายามป้องกันการโยน ผู้เล่นที่เป็นผู้โยนจะถูกสกัดกั้นกดดันไม่ให้เข้าไปโยนในบริเวณพื้นที่แดนหน้าด้านข้างที่เป็นจุดการโยนที่ใกล้ประตูและกดดันแนวรับได้มากที่สุด ซึ่งผู้โยนจะถูกกดดันให้ถอยห่าง ไกลจากประตูออกมา ดังนั้นจึงจำเป็นต้องฝึกซ้อมการโยนบอลจากพื้นที่แนวด้านข้างที่มีระยะห่างออกมา จนเกือบถึงบริเวณใกล้เส้นแบ่งแดน แล้วฝึกการโยนให้มีประสิทธิภาพทุกจุด

                                     3.ฝึกผู้โยนที่แม่นยำหลายคน 

                                    ทีมคู่ต่อสู้คงต้องประกบและไม่ปล่อยให้ผู้เล่นฝ่ายรุกที่เป็นตัวโยนที่ดีโยนบอลได้ง่าย ดังนั้นจึงต้องเตรียมฝึกผู้เล่นคนอื่นให้ทำหน้าที่โยนบอลด้วยความแม่นยำเพิ่มไว้ด้วย เพื่อช่วยสร้างโอกาสในการเล่นเทคนิคการโยนบอลให้ทีมได้อย่างที่ต้องการ

                                     4.สลับเปลี่ยนผู้เล่นตัวเป้าในการโหม่งบอล

                                    การต่อสู้แย่งโหม่งบอลถ้าเป็นผู้เล่นคนเดิม กองหลังอาจจับทางถูกสามารถชิงโหม่งตัดบอลได้ก่อน ดังนั้นถ้ามีการสลับเปลี่ยนผู้เล่นคนอื่นมาเล่นแทนบ้างจะทำให้กองหลังสับสนจับจังหวะไม่ได้ ทำให้มีโอกาสผิดพลาดมากขึ้น

                                     5.เน้นเกมการโยนหลายๆครั้ง

                                     เมื่อทีมคู่ต่อสู้เตรียมป้องกันมาดีสามารถแย่งโหม่งบอลได้ ดังนั้นอย่าท้อเน้นการโยนหลายๆครั้งให้กองหลังได้กระโดดขึ้นแย่งโหน่ง ซึ่งการกระโดดแต่ละครั้งต้องใช้พลังมากพอควร ถ้าต้องทำหลายๆเที่ยวศักยภาพที่ดีก็จะลดลงไปเรื่อยๆ

 ภาพจาก www.supersportskick.com

                                     ยิ่งถ้ามีการผสมกับการสลับตัวผู้เล่นแบบข้อ 4 ด้วยแล้วกองหลังย่อมหมดสภาพแน่นอน เพราะถ้ากองหน้า 3 คนสลับกันเล่นโดยขึ้นโหม่งคนละ10 ครั้ง ผู้เล่นกองหลังที่ประกบอยู่ต้องกระโดดขึ้นแย่งโหม่งคนเดียวประมาณ 30 ครั้งแล้ว หลังจากนั้นโอกาสของฝ่ายรุกที่จะทำประตูได้จะมีอย่างมากแน่นอน...