ยุทธวิธีการโจมตีด้วยลูกโหม่ง
ภาพจาก.www.prachachat.net
ในการแข่งขันโค้ชต้องนำศักยภาพของทีมตนเองไปเปรียบเทียบกับศักยภาพของทีมคู่ต่อสู้ ในทุกๆด้านแล้วพิจารณาว่าทีมเรานั้นมีศักยภาพด้านใดที่เหนือกว่า จะได้นำมาใช้ให้เกิดความได้เปรียบในการเล่น อย่างเช่นทีมเรามีผู้เล่นกองหน้าที่มีรูปร่างสูงใหญ่และสามารถเล่นลูกกลางอากาศได้ดีกว่ากองหลังของทีมคู่ค่อสู้
ดังนั้นวิธีการเล่นเกมรุกควรเน้นรูปแบบการเล่นที่ทีมเรามีความได้เปรียบ โดยการโยนบอลเข้าสู่บริเวณพื้นที่หน้าปากประตู เพื่อให้ผู้เล่นกองหน้าที่สูงใหญ่โหม่งบอลทำประตู แต่บางทีทีมคู่ต่อสู้เขาก็รู้และเตรียมตัวซ้อมโหม่งบอลเพื่อมาป้องกันอย่างดี เราจึงควรฝึกซ้อมรูปแบบยุทธวิธีการเล่นเพื่อให้ทีมเล่นด้วยความสัมพันธ์ได้มากที่สุด
ภาพจาก www.khnonkaenlive.com
1.ฝึกการโยนจากด้านข้างให้แม่นยำ
การโยนบอลเพื่อให้กองหน้าวิ่งโฉบเข้าไปโหม่งบอลทำประตูที่เหหมาะสมที่สุด ควรโยนบอลมาจากพื้นที่ด้านข้างของสนาม
2.ฝึกการโยนจากระยะต่างๆ
ในสถานการณ์จริง ผู้เล่นฝ่ายรับจะพยายามป้องกันการโยน ผู้เล่นที่เป็นผู้โยนจะถูกสกัดกั้นกดดันไม่ให้เข้าไปโยนในบริเวณพื้นที่แดนหน้าด้านข้างที่เป็นจุดการโยนที่ใกล้ประตูและกดดันแนวรับได้มากที่สุด ซึ่งผู้โยนจะถูกกดดันให้ถอยห่าง ไกลจากประตูออกมา ดังนั้นจึงจำเป็นต้องฝึกซ้อมการโยนบอลจากพื้นที่แนวด้านข้างที่มีระยะห่างออกมา จนเกือบถึงบริเวณใกล้เส้นแบ่งแดน แล้วฝึกการโยนให้มีประสิทธิภาพทุกจุด
3.ฝึกผู้โยนที่แม่นยำหลายคน
ทีมคู่ต่อสู้คงต้องประกบและไม่ปล่อยให้ผู้เล่นฝ่ายรุกที่เป็นตัวโยนที่ดีโยนบอลได้ง่าย ดังนั้นจึงต้องเตรียมฝึกผู้เล่นคนอื่นให้ทำหน้าที่โยนบอลด้วยความแม่นยำเพิ่มไว้ด้วย เพื่อช่วยสร้างโอกาสในการเล่นเทคนิคการโยนบอลให้ทีมได้อย่างที่ต้องการ
4.สลับเปลี่ยนผู้เล่นตัวเป้าในการโหม่งบอล
การต่อสู้แย่งโหม่งบอลถ้าเป็นผู้เล่นคนเดิม กองหลังอาจจับทางถูกสามารถชิงโหม่งตัดบอลได้ก่อน ดังนั้นถ้ามีการสลับเปลี่ยนผู้เล่นคนอื่นมาเล่นแทนบ้างจะทำให้กองหลังสับสนจับจังหวะไม่ได้ ทำให้มีโอกาสผิดพลาดมากขึ้น
5.เน้นเกมการโยนหลายๆครั้ง
เมื่อทีมคู่ต่อสู้เตรียมป้องกันมาดีสามารถแย่งโหม่งบอลได้ ดังนั้นอย่าท้อเน้นการโยนหลายๆครั้งให้กองหลังได้กระโดดขึ้นแย่งโหน่ง ซึ่งการกระโดดแต่ละครั้งต้องใช้พลังมากพอควร ถ้าต้องทำหลายๆเที่ยวศักยภาพที่ดีก็จะลดลงไปเรื่อยๆ
ภาพจาก www.supersportskick.com
ยิ่งถ้ามีการผสมกับการสลับตัวผู้เล่นแบบข้อ 4 ด้วยแล้วกองหลังย่อมหมดสภาพแน่นอน เพราะถ้ากองหน้า 3 คนสลับกันเล่นโดยขึ้นโหม่งคนละ10 ครั้ง ผู้เล่นกองหลังที่ประกบอยู่ต้องกระโดดขึ้นแย่งโหม่งคนเดียวประมาณ 30 ครั้งแล้ว หลังจากนั้นโอกาสของฝ่ายรุกที่จะทำประตูได้จะมีอย่างมากแน่นอน...