วันจันทร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2565

การก้าวขึ้นสู่ระดับโลกอย่างภาคภูมิ

 

การก้าวขึ้นสู่ระดับโลก


ภาพจาก www.siamsport.com

                                   การจะก้าวขึ้นสู่ระดับโลกได้นั้น ไม่ใช่ได้มาจากโชคช่วย ซึ่งต้องยอมรับและขอชื่นชมกับทั้ง 2 ที่จากเอเซียแท้ คือทั้งทีมเกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ที่โชว์ ผลงานเยี่ยมจนเข้าไปเล่นในรอบ 16 ทีมได้อย่างน่าภาคภูมิใจ โดยเฉาะทีมญี่ปุ่นที่ใช้บริการโค้ชของญี่ปุ่นเองอีกด้วย...แม้ว่าทั้ง 2 ทีมไม่ได้ผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 8 ทีมก็ตาม แต่ถือว่าการพัฒนาศักยภาพในการเล่นของทีมทำได้ดีมากๆ เราน่าจะลองศึกษาวิธีการของพวกเขาว่า มีกระบวนการพัฒนาอย่างไร..

                                   อันที่จริงทั้ง 2 ทีมกับทีมของไทย มีจุดเริ่มต้นด้านมาตรฐานการเล่นฟุตบอลที่ใกล้เคียงกัน แต่ทั้ง 2 ทีมมีจุดแข็งในด้านความมีวินัย และชาตินิยมสูงมาก จึงทำให้ในปัจจุบันมาตรฐานการเล่นห่างกันออกไปหลายช่วงตัว การที่จะยกระดับมาตรฐานของทีมให้ถึงระดับโลกนั้น ไม่ใช่แค่สร้างความฝันเท่านั้น การที่จะไปให้ถึง ต้องมีทั้งแรงบันดาลใจและความมุ่งมั่นตั้งใจทำอย่างจริงจัง ดังนั้นองค์ประกอบที่ทำให้เกิดผลงานมีดังนี้

                                   1. การสร้างแรงบันดาลใจ

                                      1.1. กำหนดเป้าหมายสูงสุดให้ชัดเจน

                                      1.2. กำหนดเป้าหมายรองเป็นลำดับขั้น

                                      1.3. สร้างกระแสความนิยมให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม

                                   2. การมุ่งมั่นตั้งใจทำอย่างจริงจัง

                                      2.1. กำหนดแผนพัฒนาแม่บทระยะ 15 ปี

                                      2.2. วางยุทธศาสตร์การพัฒนาเป็นช่วงๆตามลำดับขั้น

                                      2.3. วางรูปแบบการสร้างกระแสความนิยมในทุกกลุ่มอย่างเป็นรูปธรรม

                                      2.4. วางระบบการพัฒนา การติดตาม ควบคุม ประเมินผลการปฏิบัติ และปรับปรุงการพัฒนาให้เหมาะสมทันต่อสถานการณ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต

                                  จากองค์ประกอบดังกล่าวทั้ง 2 ทีมได้ทำอย่างจริงจังตลอดมา...ในที่นี้จะขอกล่าวเฉพาะทีมญี่ปุ่นเพื่อเป็นตัวอย่าง...

                                  เมื่อกำหนดเป้าหมายสูงสุดไว้ถึงการได้เป็นแชมป์โลก พวกเขาลงมือสร้างแรงบันดาลใจตั้งแต่กลุ่มเด็กๆโดยของความร่วมมือจากผู้เขียนการ์ตูน ให้สร้างนิยายการ์ตูนเกี่ยวกับฮีโรนักฟุตบอลขึ้นมาและพัฒนาขึ้นเป็นนักฟุตบอลทีมชาติที่เก่ง พาทีมชนะในรายการต่างๆและสามารถชนะทีมอันดับ 1 ของโลกอย่างบราซิล จนก้าวไปถึงชนะเลิศได้เป็นแชมป์โลกในที่สุด นอกจากนั้นยังเปิดโอกาสให้เด็กๆได้เข้าชมเชียร์อย่างใกล้ชิดกับนักบอลและทีมที่รักอีกด้วย จัดการสร้างโค้ชฟุตบอลให้มีความรู้ความสามารถตามมาตรฐาน License ในทุกระดับให้เพียงพอเพื่อไปพัฒนาศักยภาพของเด็ก ให้มีความสามารถดีตามมาตรฐานสากลในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ จัดการแข่งขันในระดับต่างๆจนถึงระดับการแข่งขันลีกอาชีพเพื่อพัฒนาศักยภาพและบ่มเพาะประสบการณ์ให้เพิ่มมากขึ้น พยายามดึงนักบอลระดับโลกแม้ว่าจะเลิกเล่นในลีกใหญ่ๆของโลก มาเล่นในลีกของประเทศเพื่อจะได้เป็นแบบอย่างและถ่ายทอดเทคนิคการเล่นในแบบมาตรฐานสากลให้นักบอลชาวญี่ปุ่นได้เห็นและเรียนรู้ เพื่อยกระดับความสามารถให้สูงยิ่งขึ้น และที่สำคัญได้สนับสนุนส่งเสริมให้ออกไปเล่นที่สโมสรต่างๆในลีกดังๆของยุโรป ซึ่งนักบอลเหล่านี้จะได้มีโอกาสได้ฝึกเทคนิกการเล่นแปลกใหม่และได้เรียนรู้วิธีการเล่นของนักบอลต่างๆที่เล่นในลีกยุโรป และที่มาจากทวีปต่างๆทั่วโลก ดังนั้นเมื่อนักบอลเหล่านี้กลับมาเล่นให้ทีมชาติก็จะทำให้ทีมมีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น มีความมั่นใจไม่กลัวทีมอื่นๆเพราะเคยเจอกันมาแล้วในลีกยุโรปเป็นต้น....จากแนวทางบางส่วนแสดงให้เห็นว่าการที่ทีมไปสร้างผลงานที่ดีในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย..แต่เกิดมาจากความสามารถของนักบอล ทีมงานของผู้ฝึกสอน และการบริหารงานของสมาคมฟุตบอลของเขาจริงๆ....

                                  ดังนั้นถ้าทีมชาติไทยจะยกระดับขึ้นสู่ระดับโลก คงต้องกลับมาทบทวนอย่างหนักเพื่อหาวิธีการและจัดการให้เป็นรูปธรรมอย่างถาวร...ซึ่งผู้เกี่ยวข้องในทุกระดับต้องรับผิดชอบ คงไม่ใช่ขายฝันไปเรื่อยๆ..ว่า 4 ปีข้างหน้าเราจะได้เข้าไปแข่งฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายแน่นอนๆๆๆ หรือจะใช้วิธีลัดโดยจะอาศัยสิทธิ์การเป็นประเทศเจ้าภาพเลยที่จะได้เล่นในรอบสุดท้ายด้วย...ขนาดประเทศการ์ต้า ที่เป็นเจ้าภาพครั้งนี้ ก็มีแผนการสร้างทีมประมาณ 10 ปีโดยการสร้างและพัฒนาเด็กตั้งแต่อายุประมาณ 13-15 ปีเพื่อเตรียมทีมไว้เข้าแข่งขันในครั้งนี้ ก็ยังทำผลงานได้ไม่น่าพอใจ..เป็นต้น

วันพุธที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2565

ทีมที่น่ากลัวที่สุด..!!

 

ทีมที่น่ากลัวที่สุด..!!

ภาพจาก sanook.com

                                   ในการแข่งขันฟุตบอล โค้ชแต่ละทีมพยายามฝึกซ้อมเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับทีมคู่แข่งอย่างดี เพราะเชื่อว่าถ้าวางแผนในการเล่นที่ดีไว้ แล้วดำเนินการฝึกซ้อมอย่างดีก็จะทำให้ทีมมีโอกาสได้รับชัยชนะเหนือคู่ต่อสู้ได้สูงมาก

                                    ความคิดดังกล่าวไม่ผิด แต่..อาจจะไม่ถูกต้องเสมอไป เพราะถ้าทีมคู่ต่อสู้มีความคิดเหมือนกันจะทำให้ทีมคู่ต่อสู้เป็นทีมที่แข็งแกร่งเช่นเดียวกันกับทีมเรา ซึ่งอาจจะทำให้ผลการแข่งขันเสมอกันไป..แต่ถ้าทีมคู่ต่อสู้มีองค์ประกอบที่สมบรูณ์มากกว่าเช่น มีผู้เล่นที่ดีและทีมแกร่งกว่า มีการเตรียมการที่ละเอียดรอบคอบกว่า ก็อาจจะทำให้ได้ผลการแข่งขันที่ดีกว่าด้วย หรือบางทีมมีสภาพทีมที่พอๆกันหรือแย่กว่า..แต่เทพีแห่งโชคไปอยู่เคียงข้างทีมนั้นผลชนะในการแข่งขันก็มักจะไปอยู่กับทีมคู่ต่อสู้ได้เช่นกัน

                                    จากสถานการณ์ข้างต้นที่กล่าวมา เชื่อว่าโค้ชแต่ละคนยังพอจะรับได้กับผลการแข่งขันที่ออกมาได้   เมื่อเราทำการเตรียมทีมทุกอย่างๆดีที่สุดแล้ว และเมื่อทำการแข่งขันนักฟุตบอลทุกคนสามารถทำทุกอย่างได้อย่างดีที่สุดแล้ว ทุกๆคนในทีมคงจะทำใจได้เช่นกัน

                                    แต่ถ้าโค้ชได้วางแผนเตรียมทีมเพื่อการแข่งขันอย่างดีที่สุดแล้ว แต่เมื่อลงทำการแข่งขัน นักฟุตบอลในทีมไม่ พยายามต่อสู้หรือไม่พยายามแสดงความสามารถที่ดีที่สุดออกมาใช้ในการแข่งขัน หรือไม่พยายามเล่นในระบบ รูปแบบตามแผนที่ได้ฝึกซ้อมกันมา ทีมก็จะไม่สามารถสู้เพื่อเอาชัยชนะจากทีมคู่ต่อสู้ได้ ซึ่งจะส่งผลให้โค้ชและผู้รับผิดชอบทีมเกิดความคับข้องใจอย่างแน่นอน........ดังนั้นทีมคู่ต่อสู้คงไม่ใช่ทีมที่หน้ากลัวที่สุด แต่ที่หน้ากลัวมากที่สุดก็คือ....ทีมของเรานั้นเอง......โค้ชจึงต้องระวังแล้วหาทางป้องกันเรื่องนี้ให้มากอย่าชะล่าใจ จึงจะทำให้ทีมมีผลการแข่งขันอย่างที่ตั้งใจไว้

                                    แนวคิดในการแก้ไข น่าจะอยู่องค์ประกอบ 2 ด้านดังนี้....

                                 1. ด้านเทคนิค...โค้ชควรปรับเทคนิคต่างๆดังนี้

                                     1.1. เทคนิคส่วนบุคคล...พัฒนาให้แต่ละคนมีสภาพทักษะและเทคนิคในการรับ ส่ง โหม่ง เลี้ยง และยิงประตูให้ดีอยู่เสมอ

                                     1.2. เทคนิคการเล่นกับคู่และกลุ่ม...พัฒนาให้แต่ละคนนำทักษะของตนไปเล่นกับเพื่อนและกลุ่มให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด

                                     1.3. เทคนิคการเล่นร่วมกันเป็นทีม...ต้องพัฒนาให้ผู้เล่นทุกคนร่วมมือกัน เล่นด้วยความสัมพันธ์กันในทุกตำแหน่ง โดยนำเอาทักษะ เทคนิค แทคติกในเกมส์การเล่น ทั้งเกมรุก - เกมรับ และการเล่นลูกนิ่งต่างๆให้เกิดความสัมพันธ์และได้เปรียบในสถานการณ์ต่างๆมากที่สุด

                                2. ด้านความคิดและจิตใจ...โค้ชต้องให้ความสำคัญสิ่งนี้มากเป็นพิเศษ

                                      2.1. ด้านความคิด...ต้องสร้างความเข้าใจในวิธีการเล่นในสถานการณ์ต่างๆด้วยการฝึก Combine game จนเกิดความสัมพันธ์และชำนาญ และแนะนำให้ผู้เล่นคิดอย่างสร้างสรรค์ในการแก้ปัญหาในสถานการณ์เฉพาะหน้า ด้วยเทคนิคการเล่นที่เหมาะสมและสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมทีม (ต้องระวังอย่าให้เขาคิดด้วยจินตนาการแบบไม่เหมาะสมมากเกินไป ซึ่งอาจจะทำให้เหมือนกับการเล่นแบบโชว์เดี่ยว เกมส์อาจจะเสียสมดุลย์ได้)

                                      2.2. ด้านจิตใจ...ต้องปลุกเร้าให้ฮึกเหิมเสริมกำลังใจให้แข็งแกร่งมีความมุ่งมั่นต่อสู้กับคู่แข่งขันแบบไม่ยอมแพ้ เล่นอย่างมี Spirit และ Fair play พร้อมทั้งพยายามให้เขาเปิดใจยอมรับในความผิดพลาดจากการเล่นและพยายามรับฟันคำแนะนำแล้วนำไปปรับปรุงให้เล่นได้ดีขึ้นทันที.....

                                      โค้ชจำเป็นต้องมีความละเอียดรอบคอบเฝ้าติดตาม ควบคุม และให้ความช่วยเหลือแก้ไขนักฟุตบอลในทีมให้ได้ ทันต่อเหตูการณ์ ก็จะสามารถลดปัญหานี้ได้..... 

วันศุกร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

แพ้พ่าย..ก็ได้ประโยชน์..

 

                           แพ้พ่าย..ก็ได้ประโยชน์                             

www.thainews.easybranches.com

                                               โดยปกติการแข่งขันกีฬาจะมีผลการแข่งขันเกิดขึ้นอย่างใดอย่างหนึ่งใน 3 ส่วนนี้..คือการแพ้ การเสมอหรือชนะ..ในทุกๆครั้ง....แต่เมื่อใดที่เราได้มีส่วนร่วมในเกมส์การแข่งขันกีฬา เรามักต้องการให้ได้รับผลการแข่งขันเป็นชัยชนะในทุกๆครั้ง และจะไม่สบายใจเมื่อผลลัพธ์เพียงเสมอหรือถ้าแพ้ด้วยแล้วยิ่งไปกันใหญ่ ซึ่งผู้ที่ทำทีมก็ไม่มีใครอยากให้ทีมของตนแพ้เหมือนกัน..

                                                แต่การแพ้นั้นก็ให้คุณประโยชน์ได้เช่นกัน..ขอให้มองในแง่ของการพัฒนา ซึ่งการแพ้ในครั้งนั้นๆจะมีเหตุปัจจัยหลายๆอย่างเกิดขึ้น ดังนั้นผู้เกี่ยวข้องต้องกลับมาทบทวน วิเคราะห์องค์ประกอบต่างๆว่ามีจุดใดที่บกพร่องหรือยังขาดไปไม่สมบูรณ์ แล้วหาวิธีการแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้น

                                                ดังนั้นถ้าอยู่ในช่วงการซ้อมเตรียมทีมเพื่อเข้าสู่รายการแข่งขัน มักจะมีแผนการแข่งขันแบบประลองทีมกัน ถ้ามีการวางแผนการประลองไว้เป็นลำดับขั้นจะส่งผลการพัฒนาผู้เล่นและทีมได้ดียิ่งขึ้นเช่น...

                                                ช่วงแรกให้ประลองกับทีมที่ดีกว่าเมื่อผลแพ้..จะได้เห็นจุดที่บกพร่องแล้วนำมาปรับแก้ไขแล้วกลับไปทดสอบอีกครั้ง ถ้ายังพบจุดใดอีกก็กลับมาแก้ไขใหม่

                                                เมื่อทีมดีขึ้นให้เพิ่มระดับโดยประลองกับทีมที่แข็งแก่รงขึ้นอีก เพื่อหาจุดบกพร่องที่ยังไม่เคยเกิดขึ้นเพื่อปรับปรุงต่อไป

                                                เมื่อทีมดีขึ้นให้เน้นผลการประลอง เช่นถ้าแพ้จะต้องเสียประตูน้อยลง ซึ่งผลการแข่งก็จะดีขึ้นสู่ระดับเสมอ และจะพัฒนาไปสู่การมีชัยชนะบ้างแล้ว อาจจะชนะแต่ยังเสียประตูอยู่ ซึ่งต้องเน้นผลถึงระดับผลการแข่งขันที่มีขนะแล้วต้องไม่เสียประตูเป็นต้น

                                                 นอกจากนั้นโค้ชจำเป็นต้องวางแผนการพัฒนาให้ลงลึกไปถึงรายละเอียดเช่น..ถ้าลดสมรรถนะกองหน้าลงเท่ากับเราเน้นการพัฒนาผู้เล่นกองหลังและเกมส์รับ หรือจะเน้นพัฒนาผู้เล่นกองหน้าและเกมส์รุกก็ให้ได้ลงประลองกับทีมที่อ่อนกว่า รวมถึงฝึกเล่นเกมส์เมื่อมีผู้เล่นน้อยกว่า หรือฝึกเล่นเล่นเกมส์เมื่อมีผู้เล่นมากกว่า..เป็นต้น..

                                                  อีกส่วนหนึ่งคือผู้บริหาร โค้ชต้องร่วมกันวางแผนการพัฒนาให้เป็นระบบ และที่สำคัญคือผู้เล่นก็ต้องมีทัศนคติที่ถูกต้องในการพัฒนาตัวเองให้ก้าวไปข้างหน้าไม่ใช่หลงทนงตัวเอง เพื่อยกระดับขีดความสามารถให้สูงขึ้นต่อไปอีก ไม่ใช่ย่ำอยู่กับที่โดยคิดว่าเมื่อได้เป็นตัวแทนทีมชาติแล้วเราจะเก่งหรือดีกว่าคนอื่นๆเสมอ...

www.youtube.com

                                                 ที่สำคัญถ้าสร้างผู้เล่นและทีมให้มีสปิริตทำให้ทีมมุ่งมั่นทุ่มเทเล่นอย่างเต็มศักยภาพ แม้ว่าผลการแข่งขันจะออกมาอย่างไร ผู้ที่เกี่ยวข้องและแฟนคลับจะสามารถรับผลการแข่งขันนั้นได้และยังพร้อมเป็นกำลังใจให้นักกีฬาเสมอ....