วันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ฝึกการครองบอลและหลบหลีกคู่ต่อสู้
 
                                                          
                        การเลี้ยงและครองบอลโดยทั่วไปจะฝึกให้ผู้เล่นเลี้ยงบอลซิกแซกผ่านกรวยหรือหลักเพื่อสร้างทักษะอยู่แล้ว แต่การฝึกนี้จะช่วยพัฒนาการเลี้ยงบอลหลบหลีกขึ้นมาอีกระดับหนึ่งให้คล้ายสภาพความเป็นจริงมากขึ้น โดยจะฝึกในพื้นที่ 10 X 20 หลาใช้ผู้เล่นฝ่ายรับ 2 คน ฝ่ายรุก 1 คน เริ่มฝึกโดยฝ่ายรับส่งบอลไปให้ผู้เล่นฝ่ายรุกแล้ววิ่งออกไปป้องกันในแนวป้องกันแรก(กรวยสีส้ม)

                                     เมื่อผู้เล่นฝ่ายรุกครองบอลแล้วให้เลี้ยงบอลพุ่งไปด้านใดด้านหนึ่งของสนามเพื่อลวงคู่ต่อสู้ให้ไปป้องกันด้านหนึ่งแล้วเปิดพื้นที่อีกด้านหนึ่ง เมื่อฝ่ายรับวิ่งเข้ามาป้องกันให้เลี้ยงหลบสวนกลับมาในด้านตรงข้าม ขณะเดียวกันฝ่ายรับคนที่ 2 เตรียมวิ่งไปป้องกันในแนวป้องกันที่ 2 (กรวยสีเหลือง)



                                     เมื่อผุ้เล่นฝ่ายรับคนที่ 2 วิ่งเข้ามาป้องกัน ผู้เล่นฝ่ายรุกต้องหาจังหวะในการเลี้ยงบอลหลบย้อนกลับไปอีกด้านหนึ่งแล้วเลี้ยงกระชากทะลุผ่านคู่ต่อสู้ไปทันที 
                                     แบบฝึกนี้ในช่วงแรกกำหนดให้ผู้เล่นฝ่ายรับวิ่งเข้าไปกดดันฝ่ายรุกเท่านั้นยังไม่ต้องแย่งบอล เมื่อฝ่ายรุกสามารถทำได้คล่องแล้วให้เพิ่มเงื่อนไขที่ยากขึ้นโดยให้ฝ่ายรับเข้าสกัดบอลได้แต่จะทำได้ตามแนวป้องกันของตนเท่านั้น เช่นคนแรกจะป้องกันได้เฉพาะแนวที่อยู่ระหว่างกรวยสีส้มเท่านั้น ห้ามเคลื่อนที่ออกจากแนวดังกล่าวเป็นต้น


วันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2558

การหนีตัวประกบมารับบอลแล้วพาบอลผ่านแบบ 1ต่อ 1


                                        โดยปกติสถานะการณ์เกมส์การเล่นจริงจะมีผู้เล่นที่ครองบอลและผู้เล่นอื่นที่ไม่มีบอล คอยส่งและรับบอลกันตลอดเวลาในการแข่งขัน ทำอย่างไรจะทำให้นักกีฬาดำเนินการ ส่ง-รับบอล แล้วพาบอลหลบหลีกผ่านคู่ต่อสู้ไปได้ จากภาพ ผู้เล่นที่ครองบอลจะต้องการส่งบอลให้ผู้เล่นฝ่ายรุก ซึ่งต้องส่งให้ผู้เล่นฝ่ายรุกที่อยู่ในตำแหน่งว่างจากการประกบของคู่ต่อสู้ ดังนั้ผู้เล่นฝ่ายรุกต้องสลัดหนีการประกบของคู่ต่อสู้ออกมา (จังหวะที่ 1) ให้ขยับเคลื่อนตัวทำทีว่าจะออกไปรับบอลทางด้านขวามือ ถ้าคู่ต่อสู้เคลื่อนตัวตามมาไม่ทัน ฝ่ายรุกนั้นจะว่างจากการประกบสามารถรับบอลมาแล้วพลิกตัวพาบอลทะลุผ่านคู่ต่อสู้ไปได้เลย แต่ถ้าคู่ต่อสู้เคลื่อนที่ไล่ตามมา ฝ่ายรุกนั้นต้องใช้ไหวพริบในการลวงคู่ต่อสู้ โดยให้รีบพลิกตัววิ่งย้อนเพื่อหนีกลับมาทางด้านซ้าย(จังหวะที 2) เพื่อให้ว่างจากการติดตามประกบของคู่ต่อสู้ เพื่อรอรับบอลจากเพื่อนร่วมทีม จะทำให้เล่นได้ง่ายขึ้น



                                        จากภาพจะเห็นว่า เมื่อฝ่ายรุกหนีตัวประกบมาอยู่ในพื้นที่ว่าง จะเป็นช่วงเวลาที่ดีในช่วงสั้นๆ ดังนั้นคนที่ครองบอลอยู่ต้องฉกฉวยโอกาสที่มีค่านี้ ส่งบอลให้ทันที ผู้เล่นฝ่ายรุกนั้นจะได้ครองบอลได้ง่ายและมีเวลาคิดเทคนิดการเล่นที่ดีที่สุดที่จะพาบอลหลบผ่านคู่ต่อสู้ไป

                                    
                                        จากภาพ เมื่อผู้เล่นฝ่ายรุกได้ครองบอลแล้ว สังเกตุที่คู่ต่อสู้เมื่อเห็นว่าคู่ต่อสู้ตามประกบมาไม่ทันและยังยืนอยู่ด้านซ้าย  แต่ซีกสนามด้านขวามีช่องว่างเกิดขึ้นฝ่ายรุกต้องรีบกระชากบอลแล้วเลี้ยงทะลุผ่านไป(จังหวะที่ 3 ) ไม่ต้องรอให้คู่ต่อสู้เขามากดดัน


                                         จากภาพ เมื่อผู้เล่นฝ่ายรุกได้ครองบอลแล้วและสังเกตุเห็นว่า คู่ต่อสู้เคลื่อนตัวตามมาได้เร็ว เพื่อมาดักปิดทางการเล่น ถ้าการป้องกันค่อนข้างมาทางด้านขวามากขึ้นจะเห็นได้ว่าพื้นที่ส่วนนี้เป็นพื้นที่ปิดทำให้ยากต่อการเลี้ยงบอลผ่านไป ส่วนด้านซีกซ้ายจะมีพื้นที่เปิดมากขึ้น ดังนั้นควรใช้โอกาสที่มีให้เกิดประโยชน์มากที่สุด สามารถทำได้โดยพาบอลมุ่งทางด้านขวา(จังหวะที่3)เป็นการลวง เมื่อคู่ต่อสู้ขยับตามมาให้โยกหลบเลี้ยงบอลผ่านไปทางด้านซ้าย(จังหวะที่4) แล้วเลี้ยงบอลทะลุผ่านไปโดยเร็ว(จังหวะที่5) พยายามฝึกเพื่อให้เกิดความชำนาญต่อไป









ความพยายามทำให้ชนะคู่ต่อสู้

ภาพจาก www.football.kapook.com


                                        การเล่นในเกมส์ฟุตบอล จะพบว่าการผู้เล่นที่ครอบครองบอลต้องประจันหน้ากับคู่ต่อสู้ แบบ 1ต่อ 1 ตลอดทั้งเกมส์
                                       นักฟุตบอลแต่ละคนต้องพยายามนำความสามารถที่มีอยู่ออกมาใช้เพื่อพาบอลหลบหลีก ผ่านคู่ต่อสู้ทะลุไปในแดนคู่ต่อสู้ให้ได้ ดังนั้นนักฟุตบอลแต่ละคนต้องมีทักษะพื้นฐาน การรับ -ส่ง โหม่ง เลี้ยงและยิงประตูให้ดีสมบูรณ์แบบให้มากที่สุด เพราะเมื่อมีทักษะที่ดีกว่าคู่ต่อสู้แล้วเราจะสามารถครอบครองบอลและมีโอกาสพาบอลหลบหลีกคู่ต่อสู้ไปได้ นอกจากนั้นยังต้องเรียนรู้เทคนิคในการหาจังหวะและหลอกให้คู่ต่อสู้เกิดความสับสน หลงทางเปิดช่องให้เราพาบอลหลบหลีกผ่านไปได้
                                          เทคนิคเบื้องต้นของการเล่นแบบ 1ต่อ 1 มีดังนี้


                                       
                                 1.ฝ่ายรุกลากบอลเข้าหาคู่ต่อสู้ (อย่าให้ใกล้คู่ต่อสู้ ควรมีระยะห่าง 1.5 เมตร)
                               2.พยายามลากบอลออกไปทางซ้าย แล้วหาจังหวะ(โดยสังเกตุคู่ต่อสู้) ถ้าเห็นว่าคู่ต่อสู้ตามมาไม่ทันให้กระชากบอลเลี้ยงผ่านทะลุไปเลย
                              3.ถ้าคู่ต่อสู้วิ่งตามมาเพื่อดักสกัดบอลให้โยกตัวพลิกกลับมาทางด้านขวาพร้อมกับเลี้ยงบอลย้อนเฉียงกลับมา
                                 4.แล้วลากบอลทะลุผ่านคู่ต่อสู้ไปอย่างเร็ว(ตามภาพ)
                                    จะเห็นได้ว่าฝ่ายรุกต้องใชพื้นที่ให้เป็นประโยชน์ โดยลวงคู่ต่อส้ไปทางใดทางหนึ่งเพื่อให้คู่ต่อสู้เปิดพื้นที่อีกด้านหนึ่งให้มากขึ้น แล้วฝ่ายรุกจะได้ใช้ประโยชน์ในพื้นที่ดังกล่าวทำให้คู่ต่อสู้เข้าแย่งและสกัดบอลได้ยากยิ่งขึ้น ดีกว่าถูกคู่ต่อสู้บีบบังคับให้ฝ่ายรุกเข้าไปเล่นอยู่ในพื้นที่แคบทำให้เล่นได้ลำบากและถูกคู่ตู่สู้แย่งบอลไปได้ ลองฝึกบ่อยๆจะเกิดความชำนาญ จะเพิ่มความสามารถและความมั่นใจให้มีมากขึ้น


                                                                                   



วันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ทำอย่างไรให้เกิดความผิดพลาดน้อยที่สุด


                                          เมื่อเราได้รับบอล สิ่งแรกที่ต้องทำคือ นำทักษะที่เหมาะสมมาใช้เก็บบอลไว้ให้อยู่ในความครอบครองของเรา ไม่ว่าลูกบอลนั้นจะมาเลียดกับพื้น ลอยมาในอากาศหรือมาหาแบบลูกพุ่งแรงก็ตาม จำเป็นต้องเลือกทักษะและเทคนิคที่เหมาะสมมาควบคุมลูกบอลไว้ เมื่อควบคุมลูกบอลไว้ได้แล้วจำเป็นต้องพยายามครองบอลไว้ไม่ให้ลูกบอลนั้นหลุดห่างจากตัว ทำให้คู่ต่อสู้แย่งบอลกลับไปครองได้
                                           นักฟุตบอลที่ดีนั้นต้องมีความพร้อมอยู่ตลอดเวลาทั้งในช่วงเวลาก่อนที่จะได้รับลูกบอลและเมื่อได้ครอบครองบอลแล้ว ดังนั้นก่อนได้รับบอลควรกวาดสายตามองให้รอบตัวอย่างรวดเร็วก่อนที่ลูกบอลจะมาถึง เพื่อจะได้เห็นว่าในพื้นที่ต่างๆทั้งใกล้ตัวและห่างตัวเรานั้นมีคู่ต่อสู้อยู่ที่ใดบ้าง เพื่อนร่วมทีมอยู่ตรงไหนบ้าง เพื่อเราจะได้ประมวลผลไว้ล่วงหน้าว่าเราจะหลบหลีกคู่ต่อสู้ในทิศทางใดและควรทำอะไรที่จะเกิดผลดีในการเล่นได้มากที่สุดต่อไป 
                                            เมื่อเราสามารถครอบครองบอลได้แล้ว สิ่งที่ควรทำอย่างยิ่งคือการส่งลูกบอลไปหาประตูของทีมคู่ต่อสู้ให้เร็วที่สุดที่เราเรียกว่าการโต้รุกเร็ว(Counterattack) เมื่อไม่สามารถทำได้ก็ควรเล่นตามรูปแบบที่ฝึกซ้อมไว้และต้องไม่ให้เสียการครอบครองบอลไป
                                            นักฟุตบอลแต่ละคนเมื่อได้ครอบครองบอลแล้ว สิ่งที่ต้องทำโดยพื้นฐานง่ายๆอย่างที่เคยกล่าวมาแล้วว่า มองให้กว้าง หาเพื่อนร่วมทีมที่ว่างแล้วส่งบอลไปให้ ถ้ายังทำไม่ได้ให้เลี้ยงเพื่อครอบครองบอลแล้วมองหาเพื่อนที่ว่างอีกครั้ง อันที่จริงไม่ควรครองบอลไว้กับตัวนานเกินไปเพราะจะทำให้มีโอกาสเสียการครอบครองบอลที่ตัวเราได้ง่าย ดังนั้นควรส่งลูกบอลให้เพื่อนร่วมทีม ที่อยู่ในตำแหน่งที่ว่างเพื่อเขาจะได้เล่นบอลได้ง่าย และจะสมารถสร้างความได้เปรียบในเกมส์การเล่นต่อๆไป
                                           โอกาสที่ผู้เล่นจะเสียการครองบอลหรือส่งให้เพื่อนร่วมทีมไม่ได้นั้น น่าจะเป็นไปได้ยาก ถ้าผู้เล่นนั้นเข้าใจทิศทางและเป้าหมายในการส่งบอล ถ้าดูภาพข้างบนจะเห็นว่าคนมีบอลสามารถส่งบอลไปให้เพื่อนร่วมทีมได้ถึง 8 ทิศทาง และควรดำเนินการส่งตามลำดับหมายเลข เพื่อสร้างโอกาสที่ดีหรือเพื่อสถานะการณ์การเล่นที่ปลอดภัยกว่า ดังนั้นถ้าผู้เล่นเข้าใจและสามารถปฏิบัติในการครองบอลและส่งบอลได้ในเวลาและโอกาสที่เหมาะสมแล้ว สามารถลดความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นในการเล่นให้น้อยลงได้จริง


วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2558

เคล็ดลับการเล่นของนักเตะระดับโลก
ภาพจาก www.infobuddie.com

                                       นักเตะระดับโลกทุกยุคทุกสมัยที่เรายอมรับชื่นชอบในลีลาและความสามารถนั้น ทำให้หลายๆคนใช้เป็นต้นแบบในการเล่นเพื่อเป็นแรงบันดาลใจที่จะพัฒนาการเล่นให้เก่งยิ่งขึ้น ถ้าเราวิเคราะห์นักเตะระดับโลกที่มีลีลาสุดประทับดังกล่าว จะพบว่าการเล่นของพวกเขาเหล่านั้นมีความผิดพลาดในการเล่นแต่ละครั้งนั้นน้อยมากไม่ว่าจะเป็นการครอบครองบอล การรับ-ส่ง โหม่ง เลี้ยง ยิงประตูและยังสามารถสร้างสรรเกมส์ให้เกิดความได้เปรียบเพื่อเปิดทางสู่ชัยชนะได้อย่างสม่ำเสมอ
                                      ถ้าจะกล่าวถึงนักกีฬาแต่ละคนต้องทำอย่างไรจึงแสดงให้เห็นว่าเล่นได้ดีมีความผิดพลาดน้อยลง ซึ่งทุกคนสามารถทำได้ถ้าเขาเหล่านั้นมีความเข้าใจหลักการและตั้งใจปฏิบัติอย่างจริงจัง ดังนั้นลองมาดูเคล็ดที่ไม่ลับไว้เป็น ข้อเตือนใจให้นักฟุตบอลถือปฏิบัติแล้วจะส่งผลที่ดีในขณะที่เล่นดังนี้
                                       1. หลักการภาพรวม
                                         1.1. อย่าเสียบอลที่ตัวเอง
                                         1.2. ส่งบอลให้เพื่อนเล่นง่าย และได้เปรียบ
                                      2. เมื่อครอบครองบอล
                                         2.1. มองให้กว้าง
                                         2.2. มีคนว่าง ส่งให้
                                         2.3. ถ้าส่งไม่ได้ จึงเลี้ยง.. (เพื่อเริ่มทำจากข้อ 2.1 - 2.3)
                                      3. เมื่อไม่ได้ครอบครองบอล
                                         3.1. ทำตัวเองให้ว่าง
                                         3.2. ทำทางให้เพื่อน
                                         3.3. เคลื่อนตัวไปสนับสนุน
                                     จากเคล็ดวิชาทั้ง 3 อย่างที่กล่าวมาเป็นแนวทางที่สำคัญมากสำหรับนักกีฬา ถ้าจำได้ขึ้นใจแล้วพยายามปฏิบัตฺิให้ได้มากที่สุดในขณะฝึกซ้อมเพื่อให้เกิดความชำนาญ และนำไปใช้จริงในขณะแข่งขันจะช่วยลดความผิดพลาดแล้วเพิ่มศักยภาพของตัวนักฟุตบอลได้จริง เพื่อปรับปรุงการเล่นของตัวเราเป็นอันดับแรก คงไม่ใช่เรื่องที่ยาก ลองทำกันนะครับ...
ต้องการเล่นฟุตบอลให้เก่ง..ต้องทำอย่างไร ?
ภาพจาก www.tribunnew.com

                                   เยาวชนและนักฟุตบอลหลายคน มักจะประสบปัญหาคาใจว่าเล่นฟุตบอลให้ดีไม่ถูกเพื่อนร่วมทีมบ่น หรือโดนโค้ชตำหนิว่าทำไม่ถูกหรือเล่นไม่ดี ทั้งๆที่แต่ละคนนั้นพยายามเล่นอย่างเต็มที่แล้วก็ตามและอาจจะสงสัยว่าตนเองเล่นได้ไม่ดีอย่างไร
                                  โดยปกติแล้วนักฟุตบอลที่ดีต้องประกอบด้วยองค์ประกอบหลายอย่าง ได้แก่ต้องมี
                                   1. ความรู้และความเข้าใจ ทักษะ เทคนิค แทกติค และเกมม์การเล่น
                                   2. ต้องมี ทักษะ เทคนิค แทคติค และเกมส์การเล่นที่ดี
                                   3. ต้องสามารถนำ ทักษะ เทคนิค แทคติค และวิธีการเล่นออกมาใช้ได้อย่างเหมาะสมกับโอกาสและสถานะการณ์
                                  4. ต้องมีวินัย ความรับผิดชอบดี
                                  5.ต้องมีสมรรถภาพทางกายที่ดีสามารถวิ่งเล่นฟุตบอลในเกมส์ได้ มากกว่า 90 นาที
                                  6. ต้องมีจิตใจที่เข้มแข็ง อดทน มุ่งมั่นตั้งใจที่จะฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ เพื่อพัฒนาตนเองให้ก้าวหน้า มุ่งสุ่ชัยชนะตลอดเวลา
                                  แนวคิดที่เคยใช้ในการพิจารณาคัดเลือกนักกีฬาตามลำดับความสำคัญดังนี้..
                                  1. มีวินัยดี
                                  2. มีสมรรถภาพทางกายที่ดี
                                  3. มีทักษะ เทคนิค แทคติคการเล่นดี
                                  4. มีความเข้าใจเกมส์การเล่นดี
                                  5. สามารถเล่นร่วมกับเพื่อนในทีมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
                                  จะเห็นได้ว่ามีความสอดคล้องกับองค์ประกอบที่ได้กล่าวมาข้างต้น แต่อาจจะมีบางท่านสงสัยว่า แนวคิดหรือเกณฑ์ในการคัดเลือกนักกีฬาจึงให้ความสำคัญด้านวินัยเป็นอันดับแรก ที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่า ถ้านักกีฬามีวินัยสูงแล้วนักกีฬาผู้นั้น จะมีความรับผิดชอบมุ่งมั่นตั้งใจเรียนรู้ ฝึกซ้อมและเล่นอย่างจริงจัง ด้านสมรรถภาพทางกาย ทักษะการเล่น ความเข้าใจเกมส์การเล่นและเชื่อฟังโค้ชในการเล่นร่วมกับเพื่อนร่วมทีม ตามรูปแบบหรือแผนการเล่นที่กำหนดไว้ จะได้รับการพัฒนาทั้งระบบอย่างรวดเร็ว เพราะฟุตบอลเป็นกีฬาที่ต้องใช้การทำงานร่วมกันเป็นทีมจึงประสบความสำเร็จมากกว่าการเล่นแบบโชว์เดี่ยว ซึ่งจะเห็นได้จากประเทศทั้งญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ที่พัฒนาสู่ระดับโลกได้ก็เพราะความมีวินัยสูงเป็นองค์ประกอบที่สำคัญนั่นเอง...

                                


วันพุธที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2558

เคล็ด(ไม่)ลับที่ทำให้เล่นฟุตบอลเก่ง

ภาพจาก www.pctswgold.com

                               ความไฝ่ฝันของคนที่ชอบเล่นฟุตบอล คงไม่พ้นที่ต้องการเล่นหรือเป็นนักฟุตบอลที่เก่งมีความสามารถดีเช่นเดียวกับนักฟุตบอลระดับโลก ถ้าจะพูดว่าเป็นเรื่องยากก็ใช่แต่ถ้าจะบอกว่าสามารถเป็นไปได้ก็ใช่เช่นกัน
                               การที่จะมีนักกีฬาเก่งมีความสามารถดีนั้นต้องเกิดจาก องค์ประกอบพื้นฐาน2 ประการคือ องค์ประกอบภายนอก และองค์ประกอบภายในของนักกีฬานั้น
                               1. องค์ประกอบภายนอก คือสภาพแวดล้อมรอบตัวนักกีฬาเช่น ครอบครัวที่ให้การสนับสนุน ชุมชนให้การส่งเสริมเปิดโอกาสให้เยาวชนในชุมชนได้แสดงความสามารถอย่างต่อเนื่องและต่อยอดขึ้นไป
                                2.  องค์ประกอบภายใน คือความมุ่งมั่นตั้งใจและพยายามเล่นและ ฝึกซ้อมอย่างหนักเพื่อพัฒนาความสามารถ ตามลำดับของมาตรฐานสากลไม่ควรใจร้อนก้าวข้ามขั้นไป ควรฝึกซ้อมในแต่ละระดับให้เกิดทักษะที่ถูกต้องและชำนาญจริงๆก่อนแล้วจึงขยับขึ้นไปฝึกในกลุ่มทักษะและกิจกรรมที่สูงขึ้นไปตามลำดับ เพื่อจะได้มีทักษะที่ดีและมีความเข้าใจเกมส์การเล่นที่ถูกต้องเหมาะสมกับสถานะการณ์ตลอดการเล่นจึงจะส่งผลให้เป็นนักฟุตบอลที่สมบูรณ์แบบ ไม่ใช่เป็นนักกีฬาที่มีทักษะดีแต่เกมส์การเล่นไม่ได้ หรือเข้าใจเกมส์การเล่นดีแต่ทักษะไม่ดีจึงทำให้เกิดความผิดพลาดในการเล่นเสมอๆๆ
                                ดังนั้นใครที่คิดว่า อยากที่จะเล่นฟุตบอลให้เก่งคงจะต้องทบทวนองค์ประกอบที่กล่าวมาข้างต้นให้เข้าใจก่อน ว่าเราขาดอะไรบ้างต้องเริ่มที่ตรงไหนและยังขาดสิ่งใดที่จะทำให้ตัวเรามีความชำนาญ มีประสบการณ์เพิ่มขึ้นเสริมความสามารถให้ก้าวหน้าและเข้มแข็งยิ่งขึ้น...ส่วนรายละเอียดที่เป็นเคล็ด(ไม่)ลับที่จะช่วยให้เล่นฟุตบอลให้ดีขึ้นจะนำเสนอในครั้งต่อไป...