วันอาทิตย์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2559

 
 

ความสำเร็จของทีมญี่ปุ่น

ภาพจาก thaiwinds.com
                        
                               ทีมญี่ปุ่นเป็นแชมป์ในการแข่งขันฟุตบอล U-23 ชิงแชมป์เอเซียคราวนี้ ไม่ใช่เรื่องแปลก ถ้าเราติดตามผลงานของพวกเขามาโดยตลอด ซึ่งจะเห็นได้ว่าพวกเขาทุ่มเทกับงานที่รับผิดชอบและไม่ท้อถอยกับอุปสรรคต่างๆแต่อย่างใด แม้ว่าบางเกมส์จะเสียประตูไปก่อน ถ้าตราบใดที่ไม่มีสัญญาณนกหวีดของผู้ตัดสินให้หมดเวลาการแข่งขัน พวกเขาจะสู้จนวินาทีสุดท้าย
                               โดยสรุปเราน่าจะเรียนรู้การพัฒนาของทีมญี่ปุ่นชุดนี้ พวกเขาตั้งเป้าหมายคือจะแย่งแชมป์รายการนี้มาครองให้ได้หลังจากในครั้งก่อนพลาดแชมป์ให้กับทีมอิรักมาแล้ว ดังนั้นเขาจึงวางแผนและเตรียมทีมมาดีมาก แต่เวลามาแข่งขันในรอบนี้เจอแต่งานยากๆทั้งนั้น เพราะทุกทีมที่เข้ามามีการพัฒนาทีมกันทั่วหน้า
                                แล้วทำไมพวกเขาจึงคว้าความสำเร็จมาครองได้สมใจ...เหตุผลหรือเคล็ดลับของพวกเขาอยู่ที่ หลัก 4F ที่ได้กล่าวไปเมื่อครั้งที่แล้วคือต้องมีทั้ง FISNESS  FAST  FOCUS และ FINISHING รวมถึงการเล่นอย่างมีวินัย และการรวมใจเป็นหนึ่งเดียวทุ่มเทสู้ไม่ถอย ซึ่งพวกเขาทำได้ดีกว่าทุกๆทีม โดยเฉพาะทีมที่พวกเขาต้องเจอในรอบก่อนรองชนะเลิศที่พบทีมอิหร่านที่ต่อสู้มาถึงช่วงต่อเวลาด้วยความพร้อมของสภาพร่างกายที่เหนือกว่าบดเอาชนะ 3:0 แล้วคว้าชัยไป  เกมส์รอบรองชนะเลิศต้องพบกับกระดูกชิ้นใหญ่คือทีมอิรัก ที่เคยแพ้เมื่อครั้งก่อน แต่ครั้งนี้ญี่ปุ่นทำได้เหนือกว่าเอาชนะไปได้ 2:1 ประตู ผ่านเข้าไปชิงกับทีมเกาหลีใต้ ที่เป็นทีมที่แข็งเกร่งผ่านมาถึงรอบนี้ได้เพราะมีหลักการพัฒนาเหมือนกับทีมญี่ปุ่น ในเกมส์นัดชิงในช่วงแรกทีมเกาหลีใต้ทำได้ดีกว่าทำประตูนำไปก่อนถึง 2 ประตู แต่เกมส์ของญี่ปุ่นค่อยๆดีขึ้น อาศัยการเปลี่ยนตัว การแก้เกมส์ของโค้ช ความมีวินัยในการเล่น ความทุ่มเทสู้ไม่ถอย และ FOCUS เกมส์ไล่บี้ทุกจุด ตัดบอลได้โต้รุกเร็วทันที และที่สำคัญคือ FINISHING แม้ว่าจะมีโอกาสในการโจมตีเข้าทำประตูน้อยกว่าทีมเกาหลีใต้ก็ตาม แต่เมื่อมีโอกาสพวกเขาใช้โอกาสไม่เปลืองสามารถทำประตูได้อย่างเด็ดขาดยิงประตู 3 ลูกรวดเบียดแซงโค้งคว้าแชมป์ไปครองได้สมใจ
                                    หลักการดังกล่าวไม่ว่าจะเป็น 4F การมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันทุ่มเทมุ่งมั่นไม่ยอมแพ้ถ้าเวลายังไม่หมดลง และความมีวินัยในการเล่นของนักฟุตบอลทุกคน ทำให้ทีมระดับแนวหน้าของเอเซียทำผลงานได้ดีขึ้น  ดังนั้นโค้ชและนักฟุตบอลไทยทุกท่านต้องนำข้อคิดนี้มาวิเคราะห์แล้วคิดหาทางพัฒนาจุดที่พวกเรายังขาดอยู่ และหาวิธีเสริมจุดแข็งที่มีอยู่ หรือค้นหาจุดแข็งใหม่ๆให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นไว้เป็นทีเด็ดในการแย่งชัยชนะมาเป็นของพวกเราให้ได้ต่อไป...สู้สู้.กันต่อไปนะครับขอเป็นกำลังใจให้เสมอ>>>>

 



วันจันทร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2559

 

ประโยชน์ที่ได้จาก U-23 ชิงแชมป์เอเซีย 2016 

ภาพจาก ww.rukball.net
 

                         แม้ว่าทีมชาติไทยพลาดโอกาสที่จะผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายในกีฬาโอลิมปิคที่ประเทศบราซิล โดยผลการแข่งขันในกลุ่มนี้ทีมไทย ซาอุดิอาระเบียและเกาหลีเหนือ  มีคะแนนเท่ากันทั้ง 3 ทีม แต่ทีมไทยมีลูกได้เสียน้อยกว่า  ถึงอย่างไรก็ตามเราได้เห็นฟุตบอลของไทยมีการพัฒนาขึ้นอย่างชัดเจน สามารถสู้กับทีมระดับแนวหน้าของเอเซียได้อย่างสนุกถูกใจแฟนบอลชาวไทย โดยเฉพาะด้านความมุ่งมั่น มีวินัยในการเล่นและการควบคุมอารมณ์ แต่อย่างไรก็ตามเราต้องยอมรับว่ายังมีข้อบกพร่องที่ควรปรับปรุงเพิ่มเติม เพื่อยกระดับมาตรฐานให้สูงยิ่งขึ้นเพื่อก้าวสู่ระดับโลกต่อไป 

                        ในช่วงนี้ทุกๆทีมในเอเซียต่างก็พัฒนาเทคนิกการเล่นให้ก้าวหน้าขึ้นไปอีกเช่นกันซึ่งเห็นได้จากเกมส์การแข่งขันนั้น สามารถสรุปการพัฒนาโดยมีจุดเน้นที่เห็นชัดคือใช้หลัก  4F ดังนี้   FITNESS    FAST    FOCUS  และ FINISHING

                       1. FITNESS   ฟุตบอลสมัยใหม่ นักฟุตบอลต้องมีสมรรถภาพทางกายที่สมบูรณ์ในทุกด้าน และต้องมี่พละกำลังเกินร้อยเปอร์เซ็น เพราะต้องเล่นทั้งเกมส์รุกและรับอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งเกมส์
                      2. FAST   นอกจากความฟิตที่นักฟุตบอลต้องมีอยู่แล้ว ความเร็วยังต้องเป็นจุดเน้นพิเศษอีกด้วย นักฟุตบอลจำเป็นต้องใช้ในการเคลื่อนที่ในเกมส์อยู่แล้ว ยังต้องเน้นในการรับ-ส่ง บอลอย่างรวดเร็วและแม่นยำ และรวมถึงการเล่นเกมส์ในสถานะการณ์ต่างๆอย่างเร็วด้วย เช่นการเปลี่ยนแกนการเล่นจากซ้ายไปขวาสลับกันไป-มาอย่างเร็ว  การเปิดเกมส์โต้กลับอย่างรวดเร็ว และการถอยลงมาป้องกันทันทีหลังจากเสียการครอบครองบอลไปเป็นต้น
                    3. FOCUS  ซึ่งเป็นรูปแบบการเล่นหรือแทคติคเฉพาะที่แต่ละทีมวางแผนฝึกซ้อมเตรียมไว้จัดการกับทีมคู่ต่อสู้  ดังนั้นจำเป็นต้องมีการฝึกซ้อมให้เกิดความสัมพันธ์มีความชำนาญและมีรูปแบบที่ชัดเจน ผู้เล่นแต่ละคนจะต้องเข้าใจแบบการเล่นนี้ว่าจะทำตอนไหน มีวิธีการทำอย่างไร และใครต้องทำอะไรบ้าง ซึ่งต้องทำให้ได้ตามแผนการเล่นที่กำหนดไว้
                     4.  FINISHING   สิ่งนี้ถือว่าสำคัญที่สุด เพราะถ้าสามารถทำ 3 ประการแรกได้แต่ถ้าไม่สามารถปิดเกมส์ด้วยการยิงประตูได้สำเร็จแล้ว ผลที่หวังว่าจะได้รับชัยชนะย่อมเกิดขึ้นไม่ได้แน่นอน ดังนั้นจำเป็นต้องฝึกซ้อมรูปแบบการเข้าทำประตู และยิงประตูให้ได้อย่างเด็ดขาดในทุกๆครั้งที่มีโอกาส
                    ทุกท่านที่เกี่ยวข้องกับวงการฟุตบอลสามารถนำข้อคิดนี้ไปใช้พัฒนาทีมฟุตบอลให้ก้าวหน้าได้ต่อไป

                        



วันอาทิตย์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2559

การพัฒนาของนักฟุตบอลไทย

                                             ภาพจาก football kapook.com

                         ข้อคิดจากเกมส์ที่กำลังแข่งขันฟุตบอล เอเอฟซี ยู-23 แชมเปี่ยนชิพ 2016 เพื่อคัดเลือกทีมเข้าไปเล่นในกีฬาโอลิมปิคที่ประเทศบราซิล ทีมไทยลงแข่งขันไปแล้ว 2 แมทช์ ผลงานยังไม่ดีอย่างที่หวัง แต่ถ้ามองในเรื่องการพัฒนาเพื่อเป็นกรณีศึกษาน่าจะได้ประโยชน์มากเหมือนกัน
                         แมทช์แรกที่ตามตีเสมอทีมซาอุดิอาระเบียได้นั้น ทำให้เห็นถึงการยกระดับมาตรฐานทักษะ เทคนิคการเล่น สมรรถภาพทางกายที่ดียิ่งขึ้นและจิตใจที่มุ่งมั่นไม่กลัวทีมที่มาจากตะวันออกกลางที่มีร่างกายที่ได้เปรียบ จึงเห็นเกมส์ต่อสู้กันได้อย่างสนุก ซึ่งเป็นผลมาจากการมีการแข่งขันฟุตบอลอาชีพของไทยในขณะนี้ นักฟุตบอลไทยมีการปรับตัวพัฒนาทักษะ เทคนิค แทคติกและสภาพร่างกายให้พร้อมที่จะแข่งขันต่อสู้กับนักแตะต่างชาติโดยฉพาะอย่างยิ่งพวกนักเตะผิวสี ที่เขาแข็งแกร่งมุ่งมั่นจริงจักกับเกมส์การเล่นอย่างมาก จุดนี้ทำให้นักฟุตบอลไทยต้องตั้งใจ มีวินัย ทุ่มเทในการฝึกซ้อมและแข่งขันเพิ่มมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันนักฟุตบอลไทยจึงแข็งแกร่งมากขึ้นสามารถต่อสู้กับชาติอื่นๆได้อย่างสมศักดิ์ศรี คนไทยจึงชื่นชมและเชียร์ได้อย่างสนุกสนาน
                         แมทช์ที่่ 2 ลงแข่งกับทีมญี่ปุ่น แมทช์นี้แม้ว่าผลการแข่งขันจะออกมาไม่ดี แพ้ไป 0-4 ประตู จริงๆแล้วนักฟุตบอลไทยเล่นได้ตามมาตรฐานแต่ทีมญี่ปุ่นมีการเตรียมตัวมาดีกว่า ปกติมาตรฐานทักษะ เทคนิคและแทคติกการเล่นของเขาสูงอยู่แล้วยังไม่พอ ทีมงานของโค้ชทำการบ้านมาดีมากๆ โดยศึกษาแทคติกการเล่นของทีมไทยมาอย่างดี สามารถสร้างความกดดันโดยการเล่น Pressing วิ่งเข้าประกบตัวเร็วกดดันให้นักเตะไทยเล่นบอลอย่างที่ถนัดตามแบบที่ฝึกซ้อมมาไม่ได้ ตลอดทั้งเกมส์ทีมไทยไม่สามารถส่งและรับบอลเท้าสู่เท้าอย่างที่ถนัดได้เลย ไทยจึงสร้างเกมส์รุกกดดันทีมญี่ปุ่นไม่ได้ อีกหนึ่งจุดเด่นที่ทีมไทยเคยทำได้คือการวิ่งเข้าประกบตัวเร็วไล่แย่งก็ไม่สามารถทำได้ดีอย่างเคย เนื่องจากทีมญี่ปุ่นเตรียมเทคนิคและเทคติกมาดีโดยไม่เน้นการครองบอลไว้กับตัวนาน ไม่เลี้ยงบอลถ้าไม่จำเป็น  ส่งบอลเท้าสู่เท้าเน้นความแม่นยำและสปีดบอลที่เร็วพร้อมเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วทั้งเกมส์รุกและรับ จึงทำให้ผลเป็นอย่างที่เราทราบ ซึ่งแตกต่างจากเกมส์ที่เล่นกับทีมซาอุดิอาระเบียที่เขาครองบอลนานและมักจะเลี้ยงพาบอลไปเองทีมไทยจึงมีเวลามากพอที่จะเข้าสกัดกั้นแล้วเปลี่ยนเป็นเกมส์โต้รุกเร็วได้
                      โค้ชและนักฟุตบอลควรใช้สถานะการณ์จากเกมส์การแข่งขันมาเป็นกรณีศึกษาเพื่อนำข้อคิดที่ได้เห็นมาเป็นประสบการณ์และนำความรู้นำไปประยุกต์ใช้ในภาระงานที่แต่ละท่านรับผิดชอบต่อไป