วันอาทิตย์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2559

การพัฒนาของนักฟุตบอลไทย

                                             ภาพจาก football kapook.com

                         ข้อคิดจากเกมส์ที่กำลังแข่งขันฟุตบอล เอเอฟซี ยู-23 แชมเปี่ยนชิพ 2016 เพื่อคัดเลือกทีมเข้าไปเล่นในกีฬาโอลิมปิคที่ประเทศบราซิล ทีมไทยลงแข่งขันไปแล้ว 2 แมทช์ ผลงานยังไม่ดีอย่างที่หวัง แต่ถ้ามองในเรื่องการพัฒนาเพื่อเป็นกรณีศึกษาน่าจะได้ประโยชน์มากเหมือนกัน
                         แมทช์แรกที่ตามตีเสมอทีมซาอุดิอาระเบียได้นั้น ทำให้เห็นถึงการยกระดับมาตรฐานทักษะ เทคนิคการเล่น สมรรถภาพทางกายที่ดียิ่งขึ้นและจิตใจที่มุ่งมั่นไม่กลัวทีมที่มาจากตะวันออกกลางที่มีร่างกายที่ได้เปรียบ จึงเห็นเกมส์ต่อสู้กันได้อย่างสนุก ซึ่งเป็นผลมาจากการมีการแข่งขันฟุตบอลอาชีพของไทยในขณะนี้ นักฟุตบอลไทยมีการปรับตัวพัฒนาทักษะ เทคนิค แทคติกและสภาพร่างกายให้พร้อมที่จะแข่งขันต่อสู้กับนักแตะต่างชาติโดยฉพาะอย่างยิ่งพวกนักเตะผิวสี ที่เขาแข็งแกร่งมุ่งมั่นจริงจักกับเกมส์การเล่นอย่างมาก จุดนี้ทำให้นักฟุตบอลไทยต้องตั้งใจ มีวินัย ทุ่มเทในการฝึกซ้อมและแข่งขันเพิ่มมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันนักฟุตบอลไทยจึงแข็งแกร่งมากขึ้นสามารถต่อสู้กับชาติอื่นๆได้อย่างสมศักดิ์ศรี คนไทยจึงชื่นชมและเชียร์ได้อย่างสนุกสนาน
                         แมทช์ที่่ 2 ลงแข่งกับทีมญี่ปุ่น แมทช์นี้แม้ว่าผลการแข่งขันจะออกมาไม่ดี แพ้ไป 0-4 ประตู จริงๆแล้วนักฟุตบอลไทยเล่นได้ตามมาตรฐานแต่ทีมญี่ปุ่นมีการเตรียมตัวมาดีกว่า ปกติมาตรฐานทักษะ เทคนิคและแทคติกการเล่นของเขาสูงอยู่แล้วยังไม่พอ ทีมงานของโค้ชทำการบ้านมาดีมากๆ โดยศึกษาแทคติกการเล่นของทีมไทยมาอย่างดี สามารถสร้างความกดดันโดยการเล่น Pressing วิ่งเข้าประกบตัวเร็วกดดันให้นักเตะไทยเล่นบอลอย่างที่ถนัดตามแบบที่ฝึกซ้อมมาไม่ได้ ตลอดทั้งเกมส์ทีมไทยไม่สามารถส่งและรับบอลเท้าสู่เท้าอย่างที่ถนัดได้เลย ไทยจึงสร้างเกมส์รุกกดดันทีมญี่ปุ่นไม่ได้ อีกหนึ่งจุดเด่นที่ทีมไทยเคยทำได้คือการวิ่งเข้าประกบตัวเร็วไล่แย่งก็ไม่สามารถทำได้ดีอย่างเคย เนื่องจากทีมญี่ปุ่นเตรียมเทคนิคและเทคติกมาดีโดยไม่เน้นการครองบอลไว้กับตัวนาน ไม่เลี้ยงบอลถ้าไม่จำเป็น  ส่งบอลเท้าสู่เท้าเน้นความแม่นยำและสปีดบอลที่เร็วพร้อมเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วทั้งเกมส์รุกและรับ จึงทำให้ผลเป็นอย่างที่เราทราบ ซึ่งแตกต่างจากเกมส์ที่เล่นกับทีมซาอุดิอาระเบียที่เขาครองบอลนานและมักจะเลี้ยงพาบอลไปเองทีมไทยจึงมีเวลามากพอที่จะเข้าสกัดกั้นแล้วเปลี่ยนเป็นเกมส์โต้รุกเร็วได้
                      โค้ชและนักฟุตบอลควรใช้สถานะการณ์จากเกมส์การแข่งขันมาเป็นกรณีศึกษาเพื่อนำข้อคิดที่ได้เห็นมาเป็นประสบการณ์และนำความรู้นำไปประยุกต์ใช้ในภาระงานที่แต่ละท่านรับผิดชอบต่อไป


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น