วันพุธที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2559



ได้อะไร..เมื่อไทย VS ญี่ปุ่น.!!

ภาพจาก www.9sanam.com
           
                        การจะไปเข้าร่วมฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายไม่ใช่ของง่าย แม้แต่ในรอบนี้ที่มี 12 ยอดทีมของเอเซียที่ต้องทุ่มสุดตัวเพื่อแย่งตั๋วจากทวีปเอเซียไปร่วมแข่งบอลโลกให้ได้ ทีมชาติไทยกำลังต่อสู้เพิ่อแย่งสิทธิ์นี้เช่นกัน
                        เกมนี้เป็นเกมที่ 2 ต้องพบกับทีมชาติญี่ปุ่น ที่ถือได้ว่าเป็นยอดทีมจากเอเซียทีมหนึ่งที่เข้าร่วมบอลโลกรอบสุดท้ายมาโดยตลอดในช่วงนี้และผู้เล่นมีประสบการณ์สูงเพราะไปเล่นกับสโมสรชั้นนำในลีกใหญ่ของยุโรป ถ้าเทียบโดยรวมทีมไทยเสียเปรียบอย่างมาก แต่เมื่อเข้ามาถึงรอบนี้แล้วต้องขอชื่นชมทีมงานและนักเตะไทยทุกคน ที่มีการเตรียมความพร้อมที่ดีมุ่งมั่นตั้งใจสู้อย่างเต็มที่ไม่เกรงศักดิ์ศรีทีมใดเลย โดยโค้ชซิโก้ เกียรติศักดิ์  เสนาเมือง ได้วางแผนและวางแทคติกสู้ จะเห็นว่าทีมไทยต่อสู้กับทุกทีม ในเกมต่อสู้กันได้สนุกประทับใจกองเชียร์ชาวไทย แม้ว่าเกมนี้ีทีมไทยจะแพ้ไปซึ่งเสียประตูแค่ 2 ประตูเท่านั้น ซึ่งทีมญี่ปุ่นชุดนี้ไม่มีความคิดในสมองเลยว่าทีมไทยจะเอาชนะเขาได้เพราะทีมเขาเหนือกว่ามากในทุกด้าน
                      จากเกมที่ผ่านมาทีมไทยวางแทคติกตั้งรับแล้วหาโอกาสโต้รุกเร็วเป็นหลัก ซึ่งสามารถต้านได้เต็มที่เท่านี้ต้องชมผู้เล่นกองหลัง และต้องชมพิเศษคือผู้รักษาประตู กวิน ธรรมสัจจานันท์ ที่ป้องกันการยิงประตูได้อีกหลายครั้ง แม้ในเกมรุกที่ได้พยายามทำโดย ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่ต้องใช้ความสามารถเฉพาะตัวครองบอลแล้วหาโอกาสเปิดบอลให้กองหน้า ธีรศิลป์ แดงดา เข้าทำประตู ซึ่งสร้างโอกาสได้ หนึ่งครั้ง แต่ถ้าดูเกมในภาพรวมทีมไทยมีโอกาสน้อยมากเพราะโชคไม่ดีที่ทีมขาดผู้เล่นตำแหน่งกองกลางตัวรับอย่าง สารัช อยู่เย็น ที่สุดขยันไล่กดดันคู่ต่อสู้ในการชะลอแล้วตัดเกมและสนับสนุนเติมเกมรุกช่วย ชนาธิป สรงกระสินธิ์ได้อย่างลงตัว จึงทำให้เกมของทีมไทยมีประสิทธิภาพลดลงไปอย่างมาก ทีมญี่ปุ่นจึงเป็นฝ่ายครองเกมเป็นส่วนใหญ่กดดันและพยายามยิงประตูเพื่อให้ได้ชัยชนะตลอดเวลา
                   
 ภาพจาก www.khaosod.co.th

                             หลายท่านอยากให้ทีมไทยต่อสู้กับทีมญี่ปุ่นและทีมอื่นๆได้มากกว่านี้ เมื่อมีคำถามในใจขึ้นมา เราลองมาทำการบ้านจากคำถามนี้กันดีกว่า จากศักยภาพของทีมไทยที่ไม่ได้เปรียบทีมใดในจำนวน 12 ทีมที่แข่งในรอบนี้ แต่มีจุดเด่นของทีมคือผู้เล่นกำลังเป็นหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกัน ก้าวขึ้นมาติดทีมชาติพร้อมๆกัน ผูกพันซึ่งกันและกัน กระหายที่จะทำผลงานเพื่อไปเล่นบอลโลกรอบสุดท้ายอย่างเต็มที่ จึงเห็นพวกเขาสู้ในเกมแข่งขันอย่างสุดฤทธิ์.. แล้วถ้าเป็นเช่นนั้นน่าจะทำอะไรได้บ้างที่จะยกระดับศักยภาพของทีมให้สูงขึ้น...
                           1.สร้างความเชื่อให้กับผู้เล่นว่า พวกเราเป็นนักกีฬาที่มีความสามารถระดับแนวหน้าของเอเซีย สู้ได้กับทุกทีมและสามารถเอาชนะได้ทุกทีมเช่นกัน
                          2.โค้ชต้องวางแผนและวางแทคติกให้เหมาะกับเกมการเล่นในแต่ละเกม โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานการป้องกันที่เหนียวแน่น รุกโต้กลับอย่างเร็วและต้องมีความเด็ดขาดในการเข้าทำประตู
                          3.ใช้สไตล์การเล่นที่เหมาะสมกับทีมให้มากที่สุด   โดยเฉพาะรูปร่างที่เสียเปรียบจึงต้องมีสมรรถภาพทางกายที่เกินร้อยเพราะต้องเข้าประกบคู่ต่อสู้ให้ชิดแล้วต้องกดดันไล่แย่งบอล ต้อง ใช้ความคล่องแคล่วว่องไวและความเร็วต้นในการเคลื่อนที่ช่วยกันเล่นทั้งเกมรุกและรับ เน้นส่ง-รับบอลกับพื้นไม่ครองบอลนาน จ่ายบอลเร็วแล้วเคลื่อนที่สนับสนุนช่วยเหลือซึ่งกันและกัน พร้อมกับเปลี่ยนแกนการเล่นสลับด้านไปมาให้เร็ว
                      4.ต้องพยายามสร้างสรรค์เกมกดดันทางด้านข้างให้ได้ เพราะเป็นวิธีการเดียวที่จะขยายแนวป้องกันบริเวณหน้าประตูของของคู่ต่อสู้ให้มีช่องว่างเพิ่มขึ้น โอกาสในการทำประตูจะเพิ่มมากขึ้น แต่ต้องไม่ลืมว่าถ้าเสียการครองบอลเมื่อใดต้องมีวินัยรีบถอยลงมาเล่นเกมรับในแบบที่กำหนดทันที
                          5.นักกีฬาทุกคนต้องปรับตัว พยายามเล่นให้สัมพันธ์กันอย่างเป็นระบบ ตามแบบที่โค้ชได้กำหนดไว้และต้องทำอย่างมีวินัยในการเล่นตลอดเวลา
                          6.นักกีฬาต้องมีสมาธิและต้องควบคุมอารมณ์ให้ได้ตลอดเวลา เพราะถ้าพลาดจะเกิดผลเสียต่อทีมทันที เช่นทำให้เสียเกม โดนทำโทษด้วยใบเหลือง-ใบแดง ผลทำให้ผู้เล่นที่กำหนดไว้ไม่สามารถเดินเกมตามแผนได้อย่างที่ต้องการ..เป็นต้น

 ภาพจาก www.90live.com

                          อย่างไรก็ตามสิ่งที่คิดกันอยู่นี้ เชื่อได้ว่าโค้ชและทีมงานคงจะทราบดีอยู่แล้วพวกเราต้องช่วยกันส่งกำลังใจให้ปรับสภาพทีมให้ดียิ่งขึ้นและลงตัวมากกว่านี้ ช่วยกันเชียร์ทีมไทยในเกมการแข่งขันในเกมต่อๆไป ถึงอย่างไรก็ตามตความพยายามจะช่วยสร้างโอกาสให้ก้าวไปสู่ความสำเร็จได้...สู้สู้..กันต่อไปนะครับ..

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น