ไทยได้อะไรจาก..การแข่งขันรายการ M-150 Cup 2017
ภาพจาก www.pantip.com
การแข่งขันฟุตบอล U-23 รายการ M-150 Cup 2017 ได้เสร็จสิ้นลงไปแล้ว แม้ว่าทีมชาติไทยชุดนี้ทำได้เพียงอันดับที่ 4 ซึ่งเป็นผลงานที่ไม่ดีอย่างที่หวัง หลายคนอาจจะไม่พอใจ กับผลของการแข่งขัน ยิ่งผลการแข่งขันที่แพ้ทีมเวียดนามในการชิงอันดับที่ 3 ด้วยแล้วยิ่งไปกันใหญ่ แต่ถ้าเปิดใจรับสถานะการณ์ แล้วพิจารณาให้ดี เพราะเหรียญยังมี 2 ด้าน ควรวิเคราะห์ข้อมูลจากสถานะการณ์นั้นว่าเป็นอย่างไร ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น แล้วหาวิธีการปรับปรุงแก้ไข ก็จะเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อทีมฟุตบอลไทย
ข้อคิดที่น่าสนใจจากการแข่งขันรายการนี้
1. ด้านทัศนติ เรามีความเชื่อมั่นในตัวเองว่าทีมไทยมีศักยภาพดีในระดับเอเซีย เพราะเคยได้อันดับที่ 4 ในการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์มาแล้ว และเหนือกว่าทุกทีมในย่านอาเซี่ยน เลยทำให้ประมาท และมองข้ามการพัฒนาการทีมของทีมอื่นๆ
ข้อคิด..ต้องปรับทัศนคติ ไม่ควรติดยึดอยู่กับเรื่องในอดีต ว่าเราเคยมีผลงาน หรือเก่งเหนือทีมบางทีม และคงจะเป็นอย่างนั้นเสมอไป แต่ควรมองว่าความสามารถของเรานั้นสามารถเข้าใกล้กลุ่มระดับแนวหน้าของเอเซียแล้ว ดังนั้นควรมุ่งมั่นพัฒนาขีดความสามารถของตนเพิ่มมากยิ่งขึ้น เพื่อยกระดับขึ้นไปให้อยู่ในมาตรฐานเดียวกัน ถ้าทำเช่นนี้ศักยภาพของเราก็จะรักษาระยะห่างจากกลุ่มทีมที่อยู่ในอาเซี่ยนไว้ได้ตลอดไป
ภาพจาก www.rakball.com
2. ด้านทักษะการเล่น ซึ่งผู้เล่นคิดว่ามีศักยภาพดี เพราะเล่นอยู่ในระดับลีกสูงสุดของประเทศ ซึ่งเป็นลีกในกลุ่มแนวหน้าของเอเซีย น่าจะมีประสบการณ์ที่เหนือกว่า สามารถเล่นได้ดีกว่าในเกมระดับชาติชุดเล็ก
ข้อคิด..ต้องเข้าใจว่าการที่ได้ขึ้นไปเล่นในลีกสูงสุดของประเทศ ไม่ใช่ว่าผู้เล่นคนนั้นมีความสามารถเก่งจริงๆ ที่เล่นได้ดีขนาดนั้นเพราะเพื่อนร่วมทีมที่โตกว่า มีประสบการณ์มากกว่า เปิดทางการเล่น สนับสนุน และช่วยเหลือในเกมการเล่น ทำให้เราสามารถสร้างผลงานที่ดีออกมาได้ง่าย แต่พอมาเล่นในทีมรุ่นราวคราวเดียวกัน จะสร้างผลงานไม่ลื่นไหล เพราะเพื่อนร่วมทีมมีเซนท์ในการเล่นบอลไม่เหนือกว่าไม่เหมือนอย่างที่เคยเล่นในบอลลีก จึงไม่สามารถเปิดทางการเล่น สนับสนุน หรือช่วยเหลือในการเล่น ได้อย่างที่ควรจะเป็น ผลงานการเล่นจึงออกมาไม่ดี
3. ด้านการฝึกซ้อม ช่วงนี้สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ มีนโยบายปรับการเตียมทีม โดยใช้โค้ชจากต่างชาติมาทำทีม น่าจะกระตุ้นเร้าให้นักกีฬามีวินัยดีขึ้น พัฒนารูปแบบ เกมการเล่นและสมรรถภาพทางกายให้ดีขึ้นกว่าที่ผ่านๆมา แต่ทำได้ไม่โดนใจกลุ่มที่มีบอลไทยอยู่ในสายเลือด
ข้อคิด..การฝึกซ้อมควรทำให้เหมาะกับผู้เล่นและทีม ซึ่งการฝึกควรทำเป็นขั้นเป็นตอนไม่ควรเร่งรัด เพราะนักกีฬาจะมีความรู้ความเข้าใจทุกรายละเอียดของเทคนิคและแทคติก รวมถึงสถานะการณ์ต่างๆที่พบจะต้องเล่นอย่างไรจึงเหมาะสมและได้เปรียบ และที่สำคัญต้องฝึกซ้อมรูปแบบที่ต้องใช้เล่นในเกมแข่งขันจริงๆให้มีความเข้าใจรูปแบบ วิธีการเล่นที่ตรงกัน จนเกิดความชำนาญเข้าขากันให้ได้ แต่ไม่ควรให้นักกีฬาเล่นด้วยจินตนาการของตนเองมากเกินไปเพราะจะทำให้เกมไม่ลื่นไหล ควรใช้เพื่อการแก้ปัญหาเฉพาะหรือเพื่อสร้างโอกาสของความได้เปรียบให้เกิดขึ้นเป็นหลักเท่านั้น
ภาพจาก www.smmsport.com
4. ด้านการประชาสัมพันธ์ ในแง่ของการโปรโมทตัวนักกีฬาและทีม ซึ่งมักจะให้การชื่นชมยกย่องนักกีฬาและทีม ทำนองว่าดีหรือเก่งขั้นเทพเหนือกว่า เด็กหรือทีมรุ่นเดียวกัน ทำให้นักกีฬามีลักษณะเชื่อมั่นในตัวเองคล้ายกับลักษณะในข้อที่ 1
ข้อคิด..อันที่จริงก็เป็นดาบ 2 คม ถ้าในด้านดีจะเป็นแรงเสริมกระตุ้นให้นักกีฬามีความเชื่อมั่นในความสามารถของตนไม่ตื่นตกใจในเกมการแข่งขันใหญ่ๆ และช่วยกระตุ้นให้นักกีฬาหน้าใหม่พยายามพัฒนาตนให้เก่งหรือดียิ่งขึ้นเพื่อก้าวขึ้นไปเล่นในระดับที่สูงขึ้น มีจำนวนเพิ่มขึ้นทำให้เด็กต้องแข่งขันพัฒนาตนเองเสมอ และเป็นผลดีมีนักกีฬาดีๆมาให้เลือกใช้มากขึ้นด้วย ส่วนอีกด้านหนึ่งในแง่ลบ อาจจะทำให้นักกีฬาหลงตัวเองเพราะมองเห็นว่าในประเทศ คนอื่นๆมีความสามารถน้อยกว่า ขณะปัจจุบันแม้ว่าเราไม่ต้องพัฒนาความสามารถอะไรเพิ่มเลย คนอื่นๆยังเล่นสู้เราไม่ได้เลย ซึ่งอาจทำให้นักกีฬาผู้นั้นขาดการพัฒนาที่เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง เมื่อเวลาล่วงเลยไปจึงพบว่ายังมีข้อบกพร่องอีกหลายอย่างที่รอการแก้ไข ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นแล้วอาจจะสายเกินกว่าที่จะแก้ไขได้..เป็นต้น
การแพ้ในเกมการแข่งขันในรายการนี้เพื่อทดสอบทีมเป็นสิ่งที่ดี โค้ชจะได้เห็นความบกพร่องจุดอ่อนของผู้เล่นและทีม จะได้จัดวางตัวผู้เล่นได้อย่างเหมาะสม ปรับแก้ไขให้ทีมมีความสมบูรณ์ มีแทคติกการเล่นที่ดีขึ้น และความสัมพันธ์ในทีมมีความลงตัวสัมพันธ์กันมากขึ้น ทีมมีความสมบูรณ์พร้อมทำศึกใหญ่ในการชิงแชมป์เอเซียต่อไป.......