วันอังคารที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2560



ไทยได้อะไรจาก..การแข่งขันรายการ M-150 Cup 2017

ภาพจาก www.pantip.com

                                     การแข่งขันฟุตบอล U-23 รายการ M-150 Cup 2017 ได้เสร็จสิ้นลงไปแล้ว แม้ว่าทีมชาติไทยชุดนี้ทำได้เพียงอันดับที่ 4 ซึ่งเป็นผลงานที่ไม่ดีอย่างที่หวัง หลายคนอาจจะไม่พอใจ กับผลของการแข่งขัน ยิ่งผลการแข่งขันที่แพ้ทีมเวียดนามในการชิงอันดับที่ 3 ด้วยแล้วยิ่งไปกันใหญ่ แต่ถ้าเปิดใจรับสถานะการณ์ แล้วพิจารณาให้ดี เพราะเหรียญยังมี 2 ด้าน ควรวิเคราะห์ข้อมูลจากสถานะการณ์นั้นว่าเป็นอย่างไร ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น แล้วหาวิธีการปรับปรุงแก้ไข ก็จะเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อทีมฟุตบอลไทย
                                    ข้อคิดที่น่าสนใจจากการแข่งขันรายการนี้
                                1. ด้านทัศนติ เรามีความเชื่อมั่นในตัวเองว่าทีมไทยมีศักยภาพดีในระดับเอเซีย เพราะเคยได้อันดับที่ 4 ในการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์มาแล้ว และเหนือกว่าทุกทีมในย่านอาเซี่ยน เลยทำให้ประมาท และมองข้ามการพัฒนาการทีมของทีมอื่นๆ
                              ข้อคิด..ต้องปรับทัศนคติ ไม่ควรติดยึดอยู่กับเรื่องในอดีต ว่าเราเคยมีผลงาน หรือเก่งเหนือทีมบางทีม และคงจะเป็นอย่างนั้นเสมอไป แต่ควรมองว่าความสามารถของเรานั้นสามารถเข้าใกล้กลุ่มระดับแนวหน้าของเอเซียแล้ว ดังนั้นควรมุ่งมั่นพัฒนาขีดความสามารถของตนเพิ่มมากยิ่งขึ้น เพื่อยกระดับขึ้นไปให้อยู่ในมาตรฐานเดียวกัน ถ้าทำเช่นนี้ศักยภาพของเราก็จะรักษาระยะห่างจากกลุ่มทีมที่อยู่ในอาเซี่ยนไว้ได้ตลอดไป

 ภาพจาก www.rakball.com

                              2. ด้านทักษะการเล่น ซึ่งผู้เล่นคิดว่ามีศักยภาพดี เพราะเล่นอยู่ในระดับลีกสูงสุดของประเทศ ซึ่งเป็นลีกในกลุ่มแนวหน้าของเอเซีย น่าจะมีประสบการณ์ที่เหนือกว่า สามารถเล่นได้ดีกว่าในเกมระดับชาติชุดเล็ก
                               ข้อคิด..ต้องเข้าใจว่าการที่ได้ขึ้นไปเล่นในลีกสูงสุดของประเทศ ไม่ใช่ว่าผู้เล่นคนนั้นมีความสามารถเก่งจริงๆ ที่เล่นได้ดีขนาดนั้นเพราะเพื่อนร่วมทีมที่โตกว่า มีประสบการณ์มากกว่า เปิดทางการเล่น สนับสนุน และช่วยเหลือในเกมการเล่น ทำให้เราสามารถสร้างผลงานที่ดีออกมาได้ง่าย แต่พอมาเล่นในทีมรุ่นราวคราวเดียวกัน จะสร้างผลงานไม่ลื่นไหล เพราะเพื่อนร่วมทีมมีเซนท์ในการเล่นบอลไม่เหนือกว่าไม่เหมือนอย่างที่เคยเล่นในบอลลีก จึงไม่สามารถเปิดทางการเล่น สนับสนุน หรือช่วยเหลือในการเล่น ได้อย่างที่ควรจะเป็น ผลงานการเล่นจึงออกมาไม่ดี
                              3. ด้านการฝึกซ้อม ช่วงนี้สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ มีนโยบายปรับการเตียมทีม โดยใช้โค้ชจากต่างชาติมาทำทีม น่าจะกระตุ้นเร้าให้นักกีฬามีวินัยดีขึ้น พัฒนารูปแบบ เกมการเล่นและสมรรถภาพทางกายให้ดีขึ้นกว่าที่ผ่านๆมา แต่ทำได้ไม่โดนใจกลุ่มที่มีบอลไทยอยู่ในสายเลือด
                               ข้อคิด..การฝึกซ้อมควรทำให้เหมาะกับผู้เล่นและทีม ซึ่งการฝึกควรทำเป็นขั้นเป็นตอนไม่ควรเร่งรัด เพราะนักกีฬาจะมีความรู้ความเข้าใจทุกรายละเอียดของเทคนิคและแทคติก รวมถึงสถานะการณ์ต่างๆที่พบจะต้องเล่นอย่างไรจึงเหมาะสมและได้เปรียบ และที่สำคัญต้องฝึกซ้อมรูปแบบที่ต้องใช้เล่นในเกมแข่งขันจริงๆให้มีความเข้าใจรูปแบบ วิธีการเล่นที่ตรงกัน จนเกิดความชำนาญเข้าขากันให้ได้ แต่ไม่ควรให้นักกีฬาเล่นด้วยจินตนาการของตนเองมากเกินไปเพราะจะทำให้เกมไม่ลื่นไหล ควรใช้เพื่อการแก้ปัญหาเฉพาะหรือเพื่อสร้างโอกาสของความได้เปรียบให้เกิดขึ้นเป็นหลักเท่านั้น

ภาพจาก www.smmsport.com

                              4. ด้านการประชาสัมพันธ์ ในแง่ของการโปรโมทตัวนักกีฬาและทีม ซึ่งมักจะให้การชื่นชมยกย่องนักกีฬาและทีม ทำนองว่าดีหรือเก่งขั้นเทพเหนือกว่า เด็กหรือทีมรุ่นเดียวกัน ทำให้นักกีฬามีลักษณะเชื่อมั่นในตัวเองคล้ายกับลักษณะในข้อที่ 1     
                              ข้อคิด..อันที่จริงก็เป็นดาบ 2 คม ถ้าในด้านดีจะเป็นแรงเสริมกระตุ้นให้นักกีฬามีความเชื่อมั่นในความสามารถของตนไม่ตื่นตกใจในเกมการแข่งขันใหญ่ๆ และช่วยกระตุ้นให้นักกีฬาหน้าใหม่พยายามพัฒนาตนให้เก่งหรือดียิ่งขึ้นเพื่อก้าวขึ้นไปเล่นในระดับที่สูงขึ้น มีจำนวนเพิ่มขึ้นทำให้เด็กต้องแข่งขันพัฒนาตนเองเสมอ และเป็นผลดีมีนักกีฬาดีๆมาให้เลือกใช้มากขึ้นด้วย ส่วนอีกด้านหนึ่งในแง่ลบ อาจจะทำให้นักกีฬาหลงตัวเองเพราะมองเห็นว่าในประเทศ คนอื่นๆมีความสามารถน้อยกว่า ขณะปัจจุบันแม้ว่าเราไม่ต้องพัฒนาความสามารถอะไรเพิ่มเลย คนอื่นๆยังเล่นสู้เราไม่ได้เลย ซึ่งอาจทำให้นักกีฬาผู้นั้นขาดการพัฒนาที่เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง เมื่อเวลาล่วงเลยไปจึงพบว่ายังมีข้อบกพร่องอีกหลายอย่างที่รอการแก้ไข ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นแล้วอาจจะสายเกินกว่าที่จะแก้ไขได้..เป็นต้น
                              การแพ้ในเกมการแข่งขันในรายการนี้เพื่อทดสอบทีมเป็นสิ่งที่ดี โค้ชจะได้เห็นความบกพร่องจุดอ่อนของผู้เล่นและทีม จะได้จัดวางตัวผู้เล่นได้อย่างเหมาะสม ปรับแก้ไขให้ทีมมีความสมบูรณ์ มีแทคติกการเล่นที่ดีขึ้น และความสัมพันธ์ในทีมมีความลงตัวสัมพันธ์กันมากขึ้น ทีมมีความสมบูรณ์พร้อมทำศึกใหญ่ในการชิงแชมป์เอเซียต่อไป.......    

                                    

วันอังคารที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2560



ได้อะไรจากเกม ไทย vs ญี่ปุ่นใน M-150 cup 2017

ภาพจาก www.rakballthai.com

                       การแข่งขันฟุตบอลรายการ M-150 cup 2017 ที่สนาม ไอ-โมบาย สเตเดียม จ.บุ์รีรัมย์เป็นการแข่งขันในรุ่นอายุไม่เกิน 23 เมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2560 ทีมชาติไทยพบกับทีมญี่ปุ่น ผลการแข่งขัน ทีมไทย ชนะ 2:1 ประตู...ผลของการแข่งขันทำให้คนไทยมีความสุข เพราะระยะหลังๆมานี้การแข่งขันรายการต่างๆทีมชาติไทยเอชนะทีมญี่ปุ่นไม่ได้ เพราะทีมญี่ปุ่นยกระดับมาตรฐานการเล่นฟุตบอลขึ้นสู่ระดับโลกไปแล้ว ถ้าคิดง่ายๆแสดงว่าทีมไทยช่วงนี้ได้ยกระดับมาตรฐานสูงขึ้น แต่ถ้าพิจารณาให้ละเอียดว่ามีการพัฒนาไปมากน้อยเพียงใด
                              จากเกมการแข่งขันจะเห็นได้ว่าทีมไทยชุดนี้มีสมรรถภาพร่ากายดีขึ้น สามารถเคลื่อนที่ขึ้นลงช่วยกันได้เพิ่มมากขึ้น มีรูปแบบการเล่นชัดเจนเพิ่มขึ้นในบางอย่าง เช่นทีมไทยจะใช้แทคติกโยนลูกโด่งเข้าโจมตีแนวรับของทีมญี่ปุ่น ซึ่งส่งผลให้ทีมญี่ปุ่นพลาดเสียประตูที่ 1 โดยผู้รักษาประตูออกมาตัดบอลที่ทีมไทยโยนเข้าไปกดดันแล้วรับบอลพลาด บอลหลุดมาเข้าทางฝ่ายไทยทำให้ยิงเข้าประตูไป ส่วนลูกที่ 2 ฝ่ายไทยโยนบอลข้ามแนวรับของญี่ปุ่น ผู้เล่นกองหน้าทีมไทยใช้ตวามเร็ววิ่งโฉบเอาบอลหลุดเข้าไปยิงประตูทันที ส่วนการเล่นแบบอื่นไม่ว่าจะใช้ผู้เล่นที่มีความเร็วเพื่อเจาะทางด้านข้างก็ไม่สามารถสร้างเกมกดดันให้เห็นได้ชัดเจน หรือการเล่นบอลสั้นโดยการต่อบอลเพื่อทำชิ่งและเล่นแบบเจาะตามช่องเพื่อทะลุผ่านแนวรับเข้าไปก็ไม่สามารถทำได้ชัดเจนเช่นกัน..ทั้งๆที่ทีมญี่ปุ่นชุดนี้น่าจะมีอายุโดยเฉลี่ยน้อยกว่าและคงไม่ใช่ชุดที่จะใช้แข่งขันในรายการชิงแชมป์เอเซีย
 
 ภาพจาก www.football-tribe.com

                               ส่วนทีมญี่ปุ่น ผู้เล่นแต่ละคนที่ลงไปเล่นในสนาม ไม่มีอาการตื่นสนาม ไม่ตกใจหรือกังวลใจที่ต้องเจอคู่ต่อสู้ที่รุ่นใหญ่กว่า ทุกคนเล่นอย่างเต็มที่ เล่นอย่างมีวินัย แม้บางครั้งมีความผิดพลาดบ้าง เขาก็ตั้งใจและที่สำคัญคือเล่นตามรูปแบบและระบบที่ฝึกซ้อมมา นอกจากนั้นเขาต้องเล่นตามที่โค้ชกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด จะไม่เล่นนอกเหนือแบบที่กำหนดการเล่นจึงมีรูปแบบที่ชัดเจนผู้เล่นแต่ละคนจะเคลื่อนที่ทำทาง สนับสนุนทั้งเกมรุกและถอยกลับลงมารับกันทั้งทีม เช่นเกมรุกเข้าทำประตูเขาครองบอลแล้วเคลื่อนที่ทำทาง ทำให้สามารถเจาะทะลุแนวรับหลุดเดี่ยวเข้าไปยิงประตูได้ถึง 2 ครั้งแต่ทีมไทยโชคดีที่ผู้รักษาประตูวิ่งออกมาบล็อคไว้ได้ ไม่เช่นนั้นผลการแข่งขันอาจจะไม่เป็นอย่างที่เห็นก็เป็นได้
                              ถ้ามาพิจารณาดูว่ามีจุดใดบ้างที่น่าจะเป็นข้อสังเกต..ซึ่งถ้าปรับเปลี่ยนแล้วทีมไทยชุดนี้จะยก ระดับความสามารถสูงขึ้นและจะทำผลงานออกมาได้ตามเป้าหมายที่ต้องการได้นั้น..
                       1.ต้องกำหนดรูปแบบในการเล่นที่ชัดเจนในการขึ้นเกมรุกและการเข้าทำประตูที่เหมาะกับทีม และฝึกซ้อมเข้มให้มีความสัมพันธ์ เข้าขากันมากที่สุดแบบมองตาก็รู้ใจทำนองนั้นเป็นต้น
                       2.ต้องสร้างให้มีวินัยในการเล่น  เช่นเมื่อเจอสถานะการณ์แบบนี้  จะต้องเล่นแบบที่เราซ้อมมาเท่านั้นไม่ควรเล่นเป็นอย่างอื่นที่ไม่ได้ซ้อมกันมา เพราะจังหวะการเล่นจะพลาดไม่ลงตัว
                    3.ต้องปรับทัศนคติ ด้านความคิดสร้างสรรค์ของผู้เล่น แบบไม่ปิดกั้นที่มีจินตนาการในการเล่น แต่ต้องแนะนำให้เลือกที่จะเล่นในสถานะการณ์ที่ได้เปรียบแต่ต้องถูกต้องเหมาะสม มิใช่คิดและเล่นตามความต้องการของตนเอง ซึ่งเขาสามารถทำได้แต่ไม่เหมาะกับโอกาสและช่วงเวลานั้นๆ ซึ่งจะทำให้การเเล่นของทีมไม่ลื่นไหล ติดๆขัดๆโอกาสที่ดีจะหลุดลอยไป
                        4.ต้องสร้างจิตสำนึกในการมีวินัยในเกมรับให้มากขึ้น    โดยสร้างให้ผู้เล่นทุกคนต้องถอยกลับลงมาช่วยป้องกันทันที ที่ฝ่ายเราเสียการครอบครองบอลไป..เป็นต้น.

วันพฤหัสบดีที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2560



สัญชาตญาณกับการเป็น..โค้ช


ภาพจาก www.jingjonews.com

                                ทำไมโค้ชที่ทำหน้าที่ในการคุมทีมต่างๆจึงประสบความสำเร็จไม่เหมือนกัน..ทั้งๆที่โค้ชแต่ละคนนั้นผ่านการอบรมในหลักสูตรตามมาตรฐานของฟีฟ่ามาด้วยกัน..?
                                  ความจริงโค้ชทุกคมมีความรู้ความสามารถเหมือนๆกัน เพียงแต่การนำความรู้ออกมาใช้ได้มากกว่ากัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าโค้ชที่มีแบบฝึกมาใช้ฝึกนักกีฬามากกว่าจะประสบความสำเร็จมากกว่า เพราะการฝึกนั้นอาจจะไม่ตอบโจทย์ ของการปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องหรือการพัฒนาได้จริง ซึ่งแตกต่างจากโค้ชอีกคนหนึ่งที่จัดการฝึกในส่วนที่จำเป็นแล้วตอบโจทย์ได้ถูกต้อง จะทำให้ทำผลงานได้ดีกว่าเสมอๆ
                               สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งที่อาจจะนึกไม่ถึง คือ..การมีสัญชาตญาณพิเศษ ที่บางคนมักจะพูดแบบเล่นๆว่า"มีเซนท์" ซึ่งถ้าโค้ชคนใดมีสิ่งนี้อยู่มากจะดลจิตให้เกิดความรู้สึกอะไรบางอย่างในสถานะการณ์ที่พบอยู่นั้น แล้วจึงนำมาเป็นข้อคิดในการตัดสินใจกระทำอะไรบางอย่างออกมาเพื่อให้เกิดผลรับที่ดีได้ อย่างเช่น...

 ภาพจาก www.pantip.com

                             โค้ชบางคนเห็นเด็กคนหนึ่งที่กำลังเล่นฟุตบอลอยู่ การเล่นนั้นเป็นปกติไม่แตกต่างจากกลุ่มเพื่อนๆ แต่เด็กคนนั้นมีอะไรบางอย่างที่เข้าตาโค้ช จึงได้รับโอกาสในการไปฝึกพัฒนาศักยภาพจนเก่งขึ้นมาเป็นยอดนักเตะได้..เช่น อาจารย์ประวิทย์ ไชยสาม อดีตโค้ชทีมชาติไทย สมัยที่ยังทำหน้าที่โค้ชเยาวชนสังกัดกรมพลศึกษา ได้พบเด็กคนหนึ่งรู้สึกพอใจจึงชักนำฝึกและพัฒนา ผลสุดท้ายเด็กคนนั้นก้าวขึ้นมาเป็นยอดศูนย์หน้าของเมืองไทยและของเอเซีย นักฟุตบอลผู้นั้นคือเพชฌฆาตหน้าหยก..คุณปิยะพงษ์ ผิวอ่อน นั่นเอง

 ภาพจาก www.pantip.com

                              โค้ชบางคนสามารถคาดสถานะการณ์ล่วงหน้าได้..เช่น คาดว่าโค้ชทีมคู่ต่อสู้น่าจะคิดอะไรอยู่ และน่าจะใช้แผนและวิธีการอะไรมาจัดการกับทีมของตน ดังนั้นเขาจึงเตรียมแผนและวิธีการที่เหมาะสมไว้รับมือคู่ต่อสู้ได้อย่างถูกต้อง ทำให้ทีมไม่เสียเปรียบ แล้วอาจจะวางแผนโต้ย้อนกลับทำให้เกิดผลการแข่งขันออกมาได้ดีกว่าอีกด้วย ซึ่งอาจจะเห็นได้จากโค้ชของทีมสโมสรยักษ์ใหญ่ในทุกลีก..หรือโค้ชของทีมเล็กที่สามารถทำให้ทีมพลิกล็อกค์เอาชนะทีมใหญ่ๆมาได้เป็นต้น...

 ภาพจาก www.hotlinesoccer.com

                                 ดังนั้นโค้ชที่มีความสามารถดี นอกจากมีความรู้ดีและสามารถนำความรู้ไปใช้พัฒนางานได้จริงแล้ว ยังต้องมีเซนท์พิเศษในการคาดการณ์ต่างๆว่าสิ่งหรือสถานะการณ์ที่จะต้องพบเจอข้างหน้านั้น จะมีแนวโน้มเป็นอย่างไร อ่านเกมการเล่นว่าน่าจะเป็นอย่างไร แล้วมาวางแผนการเล่นให้กับทีม พร้อมเตรียมการแก้ไขสถานะการณ์เกมที่น่าจะเกิดขึ้นไว้ล่วงหน้า พร้อมทั้งสามารถแก้เกมที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้านั้นได้ถูกต้อเหมาะสมได้ ย่อมส่งเสริมผลงานให้สำเร็จเป็นที่ยอมรับของคนทั่วไป....
                               

วันพุธที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2560



สัญชาตญาณ..ของนักฟุตบอล.

ภาพจาก www.matichon.co.th

                                   มนุษย์เรามีบางสิ่งบางอย่างที่มีค่าซ่อนอยู่ภายในตัว ถ้าลองเฝ้าสังเกตดูตัวเองสักระยะหนึ่ง จะพบว่าตัวตนที่แท้จริงของเราน่าจะมีอะไรเป็นศักยภาพพิเศษอยู่ด้วย   คงไม่ใช่มีอำนาจหรือพลังพิเศษเหมือนยอดมนุษย์ในนิยาย    แต่สิ่งที่มีอยู่ในตัวน่าจะเป็นสัญชาตญาณประจำตัวของแต่ละบุคคล ซึ่งถ้าเรารู้แล้วสามารถดึงเอาออกมาใช้ให้เหมาะสมกับโอกาส ย่อมจะทำให้บุคคลนั้นมีศักยภาพเพิ่มขึ้นได้แน่นนอน
                                  นักฟุตบอลบางคนพลาดโอกาสที่จะแสดงศักยภาพที่ดีที่สุดของตนออกมา เพราะตนเองค้นไม่พบสิ่งที่ดีในตัวและโค้ชก็มองไม่เห็นเช่นกัน จึงเล่นได้ไม่โดดเด่นอย่างที่ควรจะเป็น ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง
                                สัญชาตญาณบางอย่างที่สังเกตเห็นได้จากพฤติกรรมที่แสดงออกมาของนักฟุตบอลแต่ละคนนั้น อย่างเช่น

 ภาพจาก www.pokerdee.info

                              เราจะเห็นเด็กบางคนชอบ รอบอลอยู่บริเวณหน้าประตูของคู่ต่อสู้และพยายามหาบอลแล้วนำไปยิงประตูเสมอๆ ยิ่งถ้าเขามีทักษะในการยิงประตูที่ดีด้วยแล้ว เด็กคนนั้นน่าจะมีสัญชาตญาณในการเล่นกองหน้าตัวเป้าที่ดีได้

 ภาพจาก www.minrror.co.uk

                              ส่วนเด็กบางคนจะมีความเป็นห่วงกังวลไม่ต้องการเป็นผู้แพ้ จึงไม่ละทิ้งบริเวณพื้นที่หน้าประตูของฝ่ายตนเอง    และพยายามต่อสู้เพื่อไม่ให้คู่ต่อสู้เข้ามายิงประตู ลักษณะดังกล่าวนี้น่าจะมีสัญชาตญาณในการเล่นกองหลัง

      ภาพจาก www.penditfootballcom

                              ส่วนเด็กอีกกลุ่มหนึ่งอาจจะมั่นใจในตัวเองว่ามีความสามารถดีพอควร สามารถครองบอลได้ดี   สนับสนุนเพื่อนที่เล่นกองหน้าและสามารถพาบอลทะลุเข้าไปยิงประตูด้วยตัวเองได้ด้วย   ลักษณะเช่นนี้น่าจะมีสัญชาตญาณในการเล่น   ตำแหน่งหน้าต่ำหรือกองกลางตัวรุก

 ถาพจาก www.fansided.com

                             ส่วนเด็กที่มีความขยัน ดุดัน วิ่งไล่ ใจสู้เป็นพิเศษ เป็นห่วงทีมจึงสนับสนุนการเล่นทั่วไปทั้งกองหน้าและกองหลังมากหน่อย   เด็กลักษณะนี้น่าจะมีสัญชาตญาณในการเล่นตำแหน่งกองกลางตัวรับ

 ภาพจาก www.edition.cnn.com

                             ส่วนเด็กบางคนที่อาจจะเห็นว่าเขามีทักษะการใช้เท้าเล่นกับบอลได้ไม่ค่อยดี แต่เขาชอบเกมฟุตบอลมีความอยากเล่นและที่สำคัญยิ่งถ้ามีลักษณะไม่กลัวลูกบอลที่พุ่งเข้ามาหาตัว กลุ่มนี้เหมาะที่จะลองมาฝึกเป็นผู้รักษาประตูเป็นต้น
                            หากได้ค้นพบความพิเศษที่มีในตัวแล้ว หรือโค้ชก็เห็นเช่นกัน ถ้าได้มีโอกาสพัฒนาทักษะ เทคนิคและแทคติกเฉพาะตำแหน่งได้อย่างถูกต้องเหมาะสมแล้วเด็กเหล่านั้นจะมีโอกาสในการพัฒนาศักยภาพให้สูงขึ้น สามารถเล่นได้อย่างโดดเด่นในอนาคตแน่นอน.....

วันอาทิตย์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2560



พื้นที่.ที่สำคัญและเป็นอันตราย..!!


ภาพจาก www.euro 2016.siamsport.co.th

                                 หลายท่านอาจจะมองข้ามหรือยังไม่เข้าใจเกี่ยวกับพื้นที่ของสนามฟุตบอล..ว่าบริเวณใดบ้างในสนามฟุตบอลที่มีความสำคัญและจำเป็นใช้ในการเล่น เพื่อสร้างความได้เปรียบ จริงๆแล้วทุกพื้นที่บนสนามมีความสำคัญทั้งหมด เพียงแต่พื้นที่นั้นๆจะส่งผลต่อการเล่นมากน้อยเพียงใด...
                            ถ้าเราลองพิจารณาพื้นที่ ที่ส่งผลในการเล่นอย่างมากนั้น ว่าจะอยู่บริเวณใดบ้าง..
                             1.บริเวณแนวกลางด้านหน้าประตู..ภายในเขตโทษ


                                บริเวณดังกล่าวจะเป็นพื้นที่สำคัญในการเล่นเกมรุก เพราะพื้นที่นี้จะสร้างโอกาสการเข้าทำประตูได้มากที่สุด ผู้เล่นกองหน้าสามรถใช้พื้นที่นี้เพื่อวิ่งโฉบเข้าไปหาบอลที่ส่งผ่านจากด้านข้างเข้ามา หรือเจาะทะลวงโดยการรับบอลจากการส่งผ่านตามช่อง การทำชิ่ง การเลื้ยงกระชากบอลหลบเข้าไปยิง และการยิงซ้ำหรือการยิงบอลจากการส่งย้อนคืนกลับมาด้านหลัง..
                             2.บริเวณหลังแนวรับระหว่างแบ็คกับเซ็นเตอร์แบ็ค... 




                               บริเวณดังกล่าวจะเป็นพื้นที่สำคัญในการสร้งความกดดันให้กับแนวรับอย่างมาก เพราะเมื่อฝ่ายรุกสามารถพาบอลเข้าในพื้นที่นี้ได้ ถ้าการป้องกันตามไม่ทันฝ่ายรุกสามารถพาบอลเข้าไปยิงประตูได้ทันที แต่ถ้ามีผู้เล่นฝ่ายรับเข้ามาป้องกัน ฝ่ายรุกยังสามารถ สร้างเกมรุกกดดันด้วยการ ผ่านบอลเข้าพื้นที่หน้าปากประตู หรือตักบอลโยนข้ามแนวรับข้ามไปลงบริเวณเสาสอง หรือส่งบอลย้อนตัดหลังแบ็คกลับเข้ามา เพื่อให้กองหน้าเข้ายิงประตู..
                            3.บริเเวณแนวกลางด้านหน้าประตู..นอกเขตโทษ



                                บริเวณนี้จะเป็นพื้นที่ที่ห่างจากประตูออกมา แต่ถ้าฝ่ายรุกสามารถครอบครองบอลได้ในพื้นที่ดังกล่าวนี้ หากมีโอกาส สามารถยิงประตูในระยะไกลได้ทันที..
                             4.บริเวณแดนกลางของสนาม...


                                 บริเวณดังกล่าว แม้ว่าจะอยู่ห่างจากพื้นที่หน้าประตูออกมามากก็ตาม บริเวณนี้ก็ยังมีความสำคัญมาเช่นกัน เพราะแต่ละทีมจำเป็นต้องพยายามยึดครองพื้นที่นี้ไว้ เพื่อจะได้กดดันสร้างเกมรุกในรูปแบบต่างๆได้ ดังนั้นถ้าฝ่ายใดครอบครองบอลในพื้นที่นี้ได้ก็จะไม่มีโอกาสเสียประตูได้ง่าย แต่จะเป็นฝ่ายตรึงเกมรุกกดดันเข้าใส่ฝ่ายรับ แล้วสร้างโอกาสการเข้าทำประตูตามสถานะการณ์ที่เปิดในขณะนั้นๆเป็นต้น..
                               ความสำคัญของพื้นที่ในสนามแข่งขัน จะมีผลต่อการเล่นของทุกทีม ดังนั้นโค้ช และนักกีฬาจำเป็นต้องทำความเข้าใจให้ได้มากที่สุด เพราะเมื่อรู้และเข้าใจแล้วทั้งทีมฝ่ายรุก และทีมฝ่ายรับจะได้หาวิธีการเล่นในแต่ละพื้นที่่ให้ได้อย่างเหมาะสม และเลือกเทคนิค แทคติกการเล่นให้ได้เปรียบมากที่สุดในแต่ละสถานะการณ์ ซึ่งจะส่งผลทำให้มีโอกาสได้รับชัยชนะในเกมนั้นได้ไม่ยาก......

วันอาทิตย์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2560



จุดเล็กๆของความผิดพลาด..ที่ไม่ควรมองข้าม..!!!

ภาพจาก www.fathailand.org
                                    เรามักจะเห็นเกมฟุตบอลที่เล่นกันอยู่ แล้วเกมสะดุดบ่อยๆทำให้เกมการเล่นไม่ลื่นไหล หลายคนอาจจะโทษสิ่งต่างๆทั่วไป เช่นทักษะไม่ดี เทคนิคหรือแทคติกการเล่นไม่ดีจึงทำให้เกิดความผิด ซึ่งความคิดเห็นต่างๆนั้นถูกต้องทั้งหมด  แต่ทีมต่างๆก็พยายามปรับแก้ ในบางทีมสามารถแก้ไขได้แต่มีอีกหลายๆทีมยังปรับแก้ไม่สำเร็จ สถานะการณ์ดังกล่าวก็ยังเกิดขึ้นซ้ำๆอีก
                                  ถ้ามองภาพความบกพร่องที่เกิดขึ้นทั้งทักษะ เทคนิคและแทคติกนั้น เป็นการมองจุดบกพร่องในภาพรวม ซึ่งบางครั้งก็สามารถแก้ไขได้ ส่วนที่ยังแก้ไขไม่ได้คงต้องมองหาจุดที่ใช่ให้พบ เพื่อจะปรับแก้ให้ตรงจุดที่แท้จริง จุดเล็กๆที่ถูกมองข้ามไปอาจจะช่วยแก้ข้อบกพร่องนั้นได้
                                 สิ่งนั้นคือ.....การสร้างความเข้าใจ หรืออาจจะกล่าวว่าการสร้างความรู้ความเข้าใจในการเล่นที่ถูกต้องและเหมาะสมให้เกิดขึ้นในตัวของนักฟุตบอลให้ได้แล้ว จะช่วยให้ผู้เล่น เล่นผิดพลาดน้อยลง

ภาพจาก www.pantip.com

                                   ถ้าจะกล่าวแบบเข้าใจง่ายๆ   ไม่ต้องเป็นหลักทางวิชาการ   โดยธรรมชาติของมนุษย์จะสามารถทำสิ่งต่างๆได้ดีนั้นจะต้องได้รับการสั่งการจากสมองลงไป ดังนั้นถ้าแต่ละคนได้รับหรือเรียนรู้บางสิ่งบางอย่าง ว่าทำอะไร จะต้องทำอย่างไร  ทำกับใคร ทำที่ไหน ทำเมื่อไรและทำเพราะอะไร แล้วสามารถบันทึกไว้ในสมอง หากจะต้องกระทำสิ่งนั้นอีกก็สามารถกระทำได้โดยง่ายและถูกต้อง ซึ่งอาจจะแตกต่างจาก การกระทำบางอย่างโดยวิธีทำซ้ำๆจนเป็นอัตโนมัติ ถ้าขาดการเพิ่มเติมรายละเอียดต่างๆให้ครบ ก็ยังสามารถกระทำสิ่งนั้นได้ แต่อาจจะไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็น โดยเฉพาะในเกมการแข่งขันฟุตบอลด้วยแล้ว สถานะการณ์มีการเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา หากนักกีฬาคนนั้นได้รับการฝึกให้เล่นแบบอัตโนมัติอย่างเดียว เขาก็สามารถเล่นได้ในระดับหนึ่ง เมื่อพบกับคู่ต่อสู้ที่ดีหรือสถานะการณ์เปลี่ยนไปเขาอาจจะทำกิจกรรมนั้นไม่สำเร็จ เพราะเขาไม่ได้ถูกฝึกให้วิเคราะห์ว่าสถานะการณ์ดังกล่าวนั้นควรทำอย่างไร จึงจะเหมาะสมและได้เปรียบ แล้วจึงเลือกวิธีการเล่นที่ดีที่สุดออกมาใช้ แต่เรามักจะเห็นนักฟุตบอลหลายๆคนที่มีทักษะดีแต่พอเล่นในเกมทำได้ไม่ดี เพราะนักฟุตบอลเหล่านั้นเล่นตามความเคยชินแบบที่ตนเองอยากเล่น เหมือนกับจะต้องโชว์ความสามรถของตนก่อนทุกครั้งจึงทำให้โอกาสที่จะได้เปรียบในสถานะการณ์เกมนั้นหายไป วิธีการปรับแก้ให้นักกึฬาสามารถเล่นได้แบบที่กล่าวมาแล้วนั้นจำเป็นต้องใช้เวลาในการฝึกเพื่อการพัฒนา เพราะนักกีฬาจำเป็นต้องสร้างประสบการณ์ โดยการฝึกในสถานการณ์นั้นบ่อยๆให้เขาฝึกคิดและตัดสินใจเลือกวิธีการเล่นเอง แต่ถ้าทำได้ไม่ดีโค้ชต้องมีหน้าที่อธิบายชี้แนะในสิ่งที่ควรทำ ที่ว่าต้องทำแบบนั้นเพราะอะไร  เมื่อทำแล้วต้องเป็นวิธีที่ดีกว่าหรือดีที่สุด จะทำให้นักกีฬาจำเทคนิคการเล่นที่ถูกต้องเหมาะสมติดตัวไปใช้เล่นได้ดีต่อไป


ภาพจาก www.zimbio.com

                                   การฝึกด้วยวิธีการดังกล่าวมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ควรฝึกให้กับนักฟุตบอลตั้งแต่เด็ก เพราะเด็กที่เริ่มต้นมาฝึกแล้วได้เรียนรู้วิธีการเล่นที่ถูกต้องไปตั้งแต่เริ่มแรก ย่อมทำให้รู้และเข้าใจเทคนิควิธีการเล่นที่เหมาะสมถูกต้องในแต่ละสถานะการณ์ เมื่อเติบโตได้ก้าวขึ้นไปเล่นในระดับที่สูงขึ้นก็จะคิดตัดสินใจในการเล่นได้รวดเร็วและถูกต้องเหมาะสมเสมอๆ ความผิดพลาดในการเล่นจะลดลงไปทันที นักฟุตบอลที่เล่นได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมในทุกๆสถานะการณ์เกม จึงได้รับการชื่นชมยกย่องให้เป็นซุปเปอร์สตาร์ระดับโลกในที่สุด
                                        

วันพฤหัสบดีที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2560



ทำไม..ดูฟุตบอลไทยแล้วอึดอัด.!!!

ภาพจาก www.work point tv.com

                              แฟนพันธ์แท้ฟุตบอลไทย ที่มีฟุตบอลไทยอยู่ในสายเลือด ย่อมต้องรักผูกพันเชียร์ให้กำลังใจทีมฟุตบอลไทยทุกชุด ให้ชนะคู่แข่งขันได้ทุกครั้ง และอยากเห็นทีมชาติไทยผ่านเข้าไปร่วมแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเหมือมกับทีมชั้นนำชาติอื่นๆ
                                 การร่วมแรงร่วมใจเชียร์และชมจึงเป็นภาระกิจหลักของคนไทย แต่หลายคนจะรู้สึกอึดอัดในขณะที่กำลังชมการแข่งขัน ซึ่งเป็นความรู้สึกหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด ที่เห็นนักฟุตบอลเล่นแล้วไม่ถูกใจ หรือไม่เล่นอย่างที่เราคิด จึงเล่นผิดพลาดเสมอๆ เราลองมาพิจารณาดูซิว่าสาเหตุนั้นน่าจะเกิดมาจากอะไร
                                 ถ้าพิจารณาเป็นส่วนๆน่าจะเป็นดังนี้
                             1.ด้านนักกีฬา จะพบว่าบางคนมักจะเล่นตามความคิดของตนเองเป็นหลัก ซึ่งบางครั้งเทคนิคและวิธีการที่เล่นนั้นไม่สร้างความได้เปรียบในสถานะการณ์เกมในขณะนั้น สาเหตุเพราะ
นักกีฬาคนนั้นอาจจะมีความเข้าใจเกมการเล่นไม่ดี หรือไม่สามารถเล่นตามแผนที่กำหนดได้ หรือมักจะ
เล่นโชว์ความสามารถของตนเองก่อนเสมอ เมื่อเห็นว่าสถานะการณ์คับขันแล้วจึงส่งบอลให้เพื่อนร่วมทีมแบบให้พ้นๆตัวไป เกมจึงไม่ลื้นไหลอย่างที่ควรจะเป็น
                              2.ด้านผู้ฝึกสอน ทุกคนมีความรู้ความสามารถ แต่อาจจะมองข้ามจุดเล็กๆบางจุดไปเช่น ไม่ได้เน้นให้นักกีฬารู้และเข้าใจเทคนิคและวิธีการเล่นว่าแบบไหนที่สร้างความได้เปรียบในแต่ละสถานะการณ์ แล้วดำเนินการฝึกซ้อมให้ชำนาญและเกิดความเข้าใจเมื่อพบเจอสถานะการณ์ต่างๆนักกีฬาสามารถนำเอาวิธีการเล่นที่เหมาะสม มาใช้ เพื่อสร้างความได้เปรียบในการเล่นได้เสมอ
                              3. ด้านการบริหารจัดการทีม ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการบริหารจัดการทีม ควร
มี นโยบายและรูปแบบระบบของทีมที่ชัดเจน ซึ่งต้องพิจารณาว่าระบบและสไตล์การเล่นใดที่เหมาะสมกับสภาพขอมทีมไทยมากที่สุด ไม่ควรเปลี่ยนแปลงไปมา ซึ่งจะทำให้นักกีฬาแต่ละชุดได้ฝึกการเล่นไปในทางเดียวกัน เมื่อมีการเปลี่ยนโค้ชหรือก้าวขึ้นไปเล่นในชุดที่สูงขึ้น ก็สามารถเล่นได้เหมาะสมและ เล่นไปในแนวทางเดียวกัน จึงจะไม่เกิดความสับสน
                              ดังนั้นถ้าองค์ประกอบทั้ง 3 ส่วนที่กล่าวมาผู้เกี่ยวข้องแต่ละส่วนจำเป็นต้องปรับปรุงในส่วนที่บกพร่องอยู่นั้นให้เหมาะสมถูกต้อง รูปแบบเทคนิคและวิธีการเล่นของนักกีฬาและทีมจะเล่นในรูปแบบการเล่นสากล ตามสถานะการณ์ที่ควรจะเป็น เกมจะดูลื้นไหล ผู้ชมจะสนุกและไม่อึดอัดในเวลาชมและเชียร์อีกต่อไป ซึ่งจะเป็นแนวทางให้ทีมก้าวไปสู่ความสำเร็จได้ในอนาคตอีกด้วย..

วันพฤหัสบดีที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2560



พื้นที่ที่ควรใช้ในเกมรุก

ภาพจาก www.youtube.com

                                  ในการเปิดเกมรุกควรกระทำหลังจากที่สามารถตัดบอลมาครอบครองได้ ดังนั้นผู้เล่นฝ่ายรุกต้องมีความเข้าใจตรงกันว่า ทีมเราควรจะเปิดเกมรุกไปที่ตรงไหนและที่บริเรณใด จึงจะเกิดความได้เปรียบ...


   ภาพที่ 1

                                จากภาพที่ 1 เมื่อได้ครองบอลในแดนหลังหน้าประตูของตนเอง พื้นที่ที่ควรใช้ในการเล่นเกมรุก อันดับแรกคือพื้นที่สีเหลืองที่อยู่ในแดนหน้า ซึ่งเป็นการเล่นแบบโต้รุกเร็ว( Counter Attack ) เปลี่ยนจากเกมรับเป็นเกมรุกทันที โดยส่งบอลไปให้ผู้เล่นแดนหน้าเพื่อสร้างความได้เปรียบเพราะแนวรับจะมีผู้เล่นจำนวนน้อย และถ้าผู้เล่นกองหน้าของทีมเรามีความเร็วด้วยแล้วยิ่งสร้างโอกาสในการทำประตูได้มากขึ้น แต่ถ้าไม่สามารถส่งบอลไปที่พื้นที่สีเหลืองได้เนื่องจากคู่ต่อสู้กดดันไว้ ดังนั้นผู้เล่นทุกคนต้องรู้ทันทีว่าจะต้องส่งบอลเพื่อขึ้นเกมรุกด้วยความปลอดภัยให้ได้ จึงควรส่งบอลไปทางด้านข้างของสนามที่เป็นพื้นที่สีแดงทันที
                               

ภาพที่ 2

                            จากภาพที่ 2 ซึ่งเป็นสถานะการณ์ที่ต่อเนื่องจากภาพที่ 1 (หลังจากที่บอลถูกส่งจากแดนหลังมาพักที่พื้นที่ด้านข้าง) แนวทางการส่งควรส่งบออลให้กินแดนไปด้านหน้า ดังนั้นควรส่งเป็นแนวตรงขนานไปกับเส้นข้างสนาม   เช่นส่งบอลในพื้นที่สีแดง 1 ให้หมายเลข 3 เล่น หรือส่งบอลข้ามไปยังพื้นที่สีแดง 2 ให้ผู้เล่นหมายเลข 4 เล่น  ส่วนอีกวิธีหนึ่งเมื่อไม่สามารถส่งบอลไปในแนวตรงได้เนื่องจากมึคู่ต่อสู้ยืนป้องกันอยู่   ดังนั้นจึงควรส่งบอลในแบบสลับฟันปลากับเพื่อนร่วมทีม เช่นจากผู้เล่นหมายเลข 2 ส่งบอลไปยังพื้นที่สีเหลือง ให้ผู้เล่นหมายเลข 5 แล้วส่งสลับให้ผู้เล่นหมายเลข 6 แล้วส่งมาที่ผู้เล่นหมายเลข 7 แล้วส่งต่อให้หมายเลข 6 เล่นต่อไป

ภาพที่ 3

                               จากภาพที่ 3 เมื่อสามารถครองบอลได้ในแดนกลางสนาม ดังนั้นสิ่งที่ควรทำคือต้องพยายามส่งบอลให้ผู้เล่นกองหน้าในพื้นที่สีส้ม 5, 6, 7, และ 8, แต่ถ้ายังไม่สามารถส่งได้ควรส่งบอล ในพื้นที่สีเหลืองขวางสนามเพื่อเปลี่ยนแนวทางการโจมตี จากซ้ายไปขวาหรือขวามาซ้ายสลับไปมาอย่างเร็วเพื่อหาโอกาสเจาะทะลุผ่านแนวรับ หรือส่งทะลุผ่านให้ผู้เล่นหมายเลข 7, หรือ 8, เพื่อพาบอลไปยิงประตูต่อไป

ภาพที่ 4

                              จากภาพที่ 4 เมื่อผู้เล่นหมายเลข 5 ได้ครอบครองบอล ควรพาบอลหลบผ่านจากด้านข้างเข้าไปในพื้นที่สีเหลืองที่อยู่บริเวณใกล้เส้นประตู ดังนั้นควรส่งให้เพื่อนร่วมทีมเพื่อยิงประตูในพื้นที่สีส้มที่ 1, 2, และ 3 คือบริเวณเสาหนึ่ง บริเวณตรงกลาง และเสาสอง ซึ่งแล้วแต่สถานะกาณ์ที่ดีที่สุด แต่ถ้าไม่สามารถส่งได้เนื่องจากคู่ต่อสู้ลงมาป้องกันใกล้บริเวณหน้าประตู ให้ส่งบอลย้อนกลับออกมาในพื้นที่สีเหลือง เพื่อให้ผู้เล่นหมายเลข 4 ยิงประตูทันที ดังนั้นทั้งผู้ส่งบอล และผู้ที่วิ่งเข้ามาช่วยเล่นต้องรู้และเข้าใจวิธีการเล่นเหมือนกัน เกมการเล่นจึงจะมีประสิทธิภาพมากที่สุด

วันพฤหัสบดีที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2560



สิ่งที่ได้ใน..ซีเกมส์ครั้งที่ 29..

ภาพจาก www.cheerkeela.com

                            ประการแรก ต้องขอชื่นชมและขอบคุณทีมงานและนักฟุตบอลทีมชาติไทยชุดชนะเลิศในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ที่ประเทศมาเลเซีย 2017 ซึ่งทุกคนได้ทุ่มเทฝ่าฟันอุปสรรคและความกดดันจากคำวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ จนผลสุดท้ายสามารถรักษามาตรฐานของผลการแข่งขันเป็นแชมป์ได้เหรียญทองแห่งศักดิ์ศรีได้อีก 1 สมัย...
                             ประการที่สอง เราต้องเปิดใจวิเคราะห์ สภาพและมาตรฐานของฟุตบอลทีมชาติไทยในขณะนี้ว่า น่าจะไม่ใช่อย่างที่เราคิด ที่ว่า ฟุตทีมชาติไทยมีมาตรฐานเหนือกว่าทุกๆปรเทศในแถบอาเซี่ยนต่อไปอีกแล้ว ด้วยเหตุผลจากการแข่งขันในเกมส์นี้ แม้ว่าจะเสียประตูน้อยเพียงประตูเดียว แต่ก็ทำประตูได้ไม่มากและไม่ค่อยประทับใจ ซึ่งในหลายลูกเกิดจากความผิดพลาดของคู่ต่อสู้ นั่นก็แสดงให้เห็นว่าทีมต่างๆนั้นมีการพัฒนาการเล่นขึ้นมาอย่างมาก อาจจะพูดได้ว่าตอนนี้พวกเขาหายใจรดต้นคอเราแล้ว ดังนั้นผู้ที่เกี่ยวข้องต้องรีบกลับมาปรับแผน และวางยุทธศาสตร์ในการพัฒนาฟุตบอลของชาติไทยให้ครบวงจร ทั้งระยะสั้นและระยะยาวเพื่อเป็นการพัฒนาอย่างยั่งยืน 
                            ประการที่สาม   ทั้งๆที่เรามีความเชื่อมั่นในตัวเองว่านักฟุตบอลไทยมีทักษะและความสามารถโดดเด่น มีประสบการณ์ในเกมการเล่นในลีกอาชีพในประเทศที่เหนือกว่านุกฟุตบอลชาติอื่นๆ บางทีความเชื่อมั่นในตัวเองสูงแบบนี้อาจจะทำให้นักฟุตบอลหลงตัวเอง และประเมินคู่ต่อสู้ต่ำไป ทำให้ประมาท เลยมุ่งมั่นในการพัฒนาตนเองน้อยลง การพัฒนาจึงเกิดขึ้นแบบเดินไปทีละก้าว ในขณะเดียวกันชาติอื่นๆเขายอมรับว่าเขามีความสามารถต่ำกว่าเขาจึงมุ่งมั่นทุ่มเทฝึกเพื่อพัฒนาอย่างมาก เปรียบการพัฒนาเป็นแบบวิ่งเพื่อที่จะยกระดับมาตรฐานให้ทันหรือเหนือกว่าทีมชาติไทย
                           ประการที่สี่   ถ้าพิจารณาสมรรถภาพร่างกายของนักฟุตบอล จากที่เห็นตั้งแต่เล่นชุด U-19 ปีเป็นต้นมาจนถึงชุด U-23 ปี ต้องยอมรับว่านักฟุตบอลแต่ละคนมีสภาพร่างกายที่แข็งแรง ร่างกายมีกล้ามเนื้อที่ใหญ่และแข็งแกร่งมากขึ้น เพราะผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องบอกว่าใช้วิทยาศาสตร์เข้ามาเสริมด้านสมรรถภาพ แต่ถ้าพิจารณาอย่างละเอียดมากขึ้นจะเห็นได้ว่า นักฟุตบอลมีกล้ามเนื้อที่ใหญ่และแข็งแรงขึ้น แต่สภาพการเคลื่อนที่ด้านความเร็วและความคล่องแคล้วว่องไวลดลง ซึ่งจะเห็นได้จากการที่จะใช้ความเร็วในการเล่นในเกมการแข่งขันไม่ได้เปรียบคู่ต่อสู้อย่างเห็นได้ชัดเจน สิ่งที่กล่าวมานี้น่าจะมีความเข้าใจในเรื่องการนำวิทยาศาสตร์เข้ามาใช้ยังไม่ถูกต้องนัก เพราะสิ่งที่ทำอยู่นำนั้นคือการนำนักฟุตบอลเข้าไปฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อด้วย ลูกน้ำหนักหรือเครื่องบริหารกาย (Weight Trainning ) ซึ่งเรื่องนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการพัฒนาสมรรถภาพทางกายของนักฟุตบอล เพราะการเล่นฟุตบอลต้องใช้สมรรถนะอีกหลายอย่างเช่น ต้องพัฒนาด้านความคล่องแคล่งว่องไว ด้านความเร็ว ความอดทน ความอ่อนตัว ความเร็วและอดทน และด้านพลัง เป็นต้น ซึ่งจะเห็นได้จากสมรรถนะทางกายของนักฟุตบอลที่ฝึกเตรียมไว้เล่นในลีกอาชีพในยุโรป และอเมริกาใต้...ส่วนคำว่านำวิทยาศาสตร์มาช่วยเสริมสมรรถภาพร่างกายนั้นไม่ใช่เพียงสร้างความแข็งแรงของร่างกายเท่านั้น ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องนำเข้ามาเสริมอีกเช่น ด้านจิตวิทยา ด้านโภชนาการ ด้านทักษะทางกลไกการเคลื่อนไหว เป็นต้น....
                          ดังนั้นผู้เกี่ยวข้องต้องวางแผนในการพัฒานาในทุกด้านให้มีความครอบคลุมและละเอียดมายิ่งขึ้นเพื่อความยิ่งใหญ่ของทีมชาติไทยในอนาคต...
                          

วันจันทร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2560



สิ่งที่สำคัญและจำเป็นสำหรับนักกีฬา

ภาพจาก Alamy stock photo

                             องค์ประกอบบางอย่างที่นักกีฬาบางคน อาจจะมองข้ามไป ซึ่งองค์ประกอบบางอย่างนั้นอาจจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยสร้างและเสริมให้ นักกีฬาผู้นั้นประสบความสำเร็จได้โดยง่าย เรื่องดังกล่าวนี้เป็นข้อคิดเตือนใจนักกีฬามาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว
                                  สมัยกรีกโบราณได้มีการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกขึ้นและมีนักกีฬาที่มีความสามารถเข้าร่วมในการแข่งขัน นักกีฬาที่ชนะเลิศจะได้รับการยกย่องสรรเสริญเป็นที่ยอมรับและชื่นชมในหมู่คนทั่วไป ซึ่งบุคคลในยุคนั้นได้กำหนด คติพจน์ (Motto) ไว้เป็นข้อคิดเตือนใจนักกีฬาดังนี้
                                     1. CITIUS = Faster = เร็วกว่า
                                     2. ALTIUS = Higher = สูงกว่า
                                     3. FORTIUS = Stronger = แข็งแรงกว่า
                                   จะเห็นได้ว่า คติพจน์ทั้ง 3 คำบอกสิ่งที่สำคัญเพื่อเตือนใจนักกีฬาให้เตรียมตัวมาให้พร้อมทุกด้านเพื่อจะก้าวไปสู่ชัยชนะ แต่ภูมิปัญญาของคนโบราณเขาซ่อนความลึกซึ้งไว้ในคำคมดังกล่าวนี้ เพราะสิ่งที่กล่าวสอนนั้น ไม่ใช่เพียงการแสดงศักยภาพออกมาทางด้านร่างกายเท่านั้น เช่นผู้ที่จะมีชัยชนะเหนือคนอื่นๆนั้นต้องมี ความเร็วที่มากกว่าคนอื่น มีความสามารถด้านการกีฬาสูงกว่าคนอื่น และต้องมีสภาพร่างกายที่แข็งแรงมากกว่าคนอื่นเพียงเท่านั้น แต่อันที่จริงจะต้องมีสิ่งอื่นเข้ามาสัมพันธ์ด้วย คือนักกีฬาจะต้องมีสภาพจิตใจที่แข็งแกร่ง มุ่งมั่นในการฝึกซ้อม อดทนต่ออุปสรรคและไม่เกรงกลัวคู่ต่อสู้ ต้องมีจิตใจที่เด็ดเดี่ยวสามารถตัดสินใจแก้ปัญหาแก้สถานะการณ์เกมได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว และประการที่สำคัญคือต้องเป็นนักกีฬาที่มีจิตใจสูง ยอมรับและสามารถปฏิบัติตามกฏกติกาได้อย่างดีไม่เอาเปรียบในการแข่งขันเพื่อให้ได้ชัยชนะอย่างขาวสอาด มีน้ำใจเป็นนักกีฬา ซึ่งนักกีฬาผู้นั้นจะเป็นผู้ที่มีความสามารถ ได้รับการยอมรับชื่นชมยกย่องอย่างสมเกียรติสมฐานะอย่างแท้จริง  (ข้อมูลจากสถาบันวิทยาการโอลิมปิคไทย)

ภาพจาก www.9sanam.com

                                   ขอฝากข้อคิดเห็นเกี่ยวกับนักฟุตบอลทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ ที่กำกังแข่งขันอยู่ที่ประเทศมาเลย์เซียในขณะนี้ ถ้าพิจารณาแล้วจะเห็นว่านักกีฬาชุดนี้ยังขาด 3 องค์ประกอบดังกล่าวไม่ว่าจะเป็นด้านความเร็วในการวิ่งและการส่งผ่านบอลให้กันและกันเล่นได้ ด้านรูปแบบการเล่นที่เหนือกว่าคู่ต่อสู้และด้านความแข็งแกร่งของตัวนักกีฬา ทำให้ทีมเล่นได้ไม่เหนือกว่าคู่ต่อสู้อย่างเห็นได้อย่างชัดเจน เพราะทักษะความสามารถและประสบการณ์ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าทุกทีม ดังนั้นถ้าเร่งปรับจุดบกพร่องดังกล่าวได้โดยเร็วแล้ว ความสำเร็จที่จะได้ชัยชนะและครองแชมป์อีกสมัยน่าจะไม่ใช่เรื่องยาก.ขอเป็นกำลังใจให้..สู้สู้นะ...

วันพฤหัสบดีที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2560



แนวคิดในการสร้างทีม

ภาพจาก www.pokerdee.info
                        โค้ชทุกคนและทีมทุกทีม มีเป้าหมายในการเล่นที่ไม่น่าจะแตกต่างกัน โดยต้องการเก็บชัยชนะในการแข่งขันทุกครั้ง แต่ในความเป็นจริงคงไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะต้องพบเจอกับงานที่หนักเช่นกันเพราะทีมคู่ต่อสู้ก็จะต้องการเช่นเดียวกัน
                          อย่างไรก็ตามโค้ชซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรงต้องหาแนวทางที่จะทำให้ทีมประสบความสำเร็จให้ได้ แนวคิดที่จะสร้างทีมให้ก้าวไปสู่ความสำเร็จในเบื้องต้น."หลังเหนียว - กลางแน่น - หน้าคม " ซึ่งจะทำให้มีความเป็นไปได้สูงทีเดียว

 ภาพจาก www.smmsport.com

                         การคิดต้องคิดอย่างเป็นระบบ..
                           1.เน้นระบบการป้องกันให้เหนียวแน่นไว้ก่อนเสมอ เพราะถ้าทีมสามารถป้องกันที่ดีได้ ทีมจะมีโอกาสเสียประตูน้อยมาก ดังนั้นทีมจะไม่แพ้ในเกมการแข่งขันนั้น
                                   2.เน้นการคุมสถานะการณ์แดนกลาง   เมื่อสามารถป้องกันเกมรุกได้ ทำให้คู่ต่อสู้ไม่สามารถยิงประตูได้แล้วเราควรสร้างระบบและวิธีการเล่นเพื่อครอบครองเกมการเล่นในแดนกลางไว้ให้ได้ เพื่อจะได้สร้างโอกาสเปิดเกมรุกได้มากขึ้น
                                   3.เน้นการเข้าทำประตู    โดยจัดระบบการรุกเข้าโจมตี   มีรูปแบบการเข้าทำประตูที่หลากหลายและมีประสิทธิภาพในการทำประตูได้สำเร็จ อย่างต่อเนื่องและแน่นอน

 ภาพจาก www.SoccerSuck.com

                                 ดังนั้น โค้ชที่ดีควรจะวางแผนการฝึกซ้อมเตรียมทีม และวางแผนการเล่นให้รอบคอบ ไม่ใช่มุ่งหวังตั้งใจเปิดเกมรุกบุกเพื่อเข้าทำประตูให้ได้เป็นอันดับแรก โดยให้ความสำคัญในการป้องกันเป็นอันดับรอง นักฟุตบอลของทีมก็จะพยายามเคลื่อนที่ไปข้างหน้าเพื่อสนับสนุนการรุกมากขึ้น ซึ่งอาจจะทำให้เคลื่อนที่หลุดออกไปจากตำแหน่งและพื้นที่ที่รับผิดชอบ และเมื่อเสียการครอบครองบอลไป ทำให้กลับมาป้องกันได้ไม่ทัน หรือการเล่นในเกมรับเสียความสมดุลย์ไป จีงอาจจะทำให้เสียประตูและพ่ายแพ้ได้ 



 ภาพจาก www.new-voice tv.co.th

                                  ในขณะนี้ทีมชาติไทยชุดใหญ่กำลังดำเนินการแบบแนวทางนี้อยู่ โดยโค้ชคน
ปัจจุบัน โค้ช มิโลวาล ราเยวัช ได้กล่าวไว้ตั้งแต่แรกเริ่มเข้ารับงานแล้วว่า ทีมชาติไทยเล่นได้ดีแต่มักเสียประตูบ่อย ดังนั้นต้องปรับผู้เล่นแนวรับใหม่ให้มีสมาธิ ปรับเทคนิคการป้องกันให้เหนียวแน่นมากยิ่งขึ้น และขณะนี้กำลังปรับระบบและกระบวนยุทธ์ของกองกลางอยู่ ในภาพรวมจะเห็นได้ว่ากำลังดีก้าวไปในทิศทางที่ดีขึ้นแม้ว่าจะเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ก็ตาม และยังเชื่อว่าโค้ช กำลังมาหาผู้เล่นกองกลางที่มีความสามารถคุมเกมและจ่ายบอลให้กองหน้าเพื่อเข้าทำประตูให้ได้เปรียบมากกว่านี้..(อาจจะให้ ธีราทร บุญมาทัน ขึ้นมาเล่นกลางเพื่อจ่ายบอล..ก็เป็นได้) ส่วนกองหน้าคงจะอยู่ในช่วงของการปรับแนวคิด เทคนิคและแทคติกการเล่นให้มีประสิทธิภาพต่อไป...พวกเราลองติดตามวิธีการทำหน้าที่ของโค้ชท่านนี้ดู ขอเป็นกำลังใจให้ทีมงานและนักฟุตบอลทีมชาติไทยทุกคน..สู้สู้นะครับ.
                               

วันพฤหัสบดีที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2560



ระบบและวินัย..ช่วยให้ได้ชัยชนะ..

 ภาพจาก www.90min.c0m

                              การแข่งขันฟุตบอล FIFA Confederations Cup 2017 ที่ประเทศรัสเซีย ซึ่งมีทีมที่เข้าร่วมแข่งขันถือว่าไม่ใช่ธรรมดา เพราะเป็นทีมแชมป์ของแต่ละทวีป ทีมที่เป็นแชมป์โลกและทีมเจ้าภาพร่วมด้วย ทุกทีมมีการเตรียมความพร้อมกันมาอย่างดี ผลการแข่งขันทุกคู่ออกมาแบบสูสีต้องลุ้นกันตลอดทั้งเกม

 ภาพจาก www.Kapook.com
                              เกือบทุกทีมจัดผู้เล่นชั้นนำมากันเต็มทีม ด้วยความคาดหวังในตำแหน่งแชมป์ในรายการนี้ มีก็แต่ทีมเยอรมันนีที่จัดผู้เล่นในชุดดาวรุ่งมาร่วมแข่งขัน ภายใต้การดูแลของทีมงานผู้ฝึกสอนชุดใหญ่เหมือนเคย หลายๆคนอาจจะมองว่าผลงานคงจะไม่ดี น่าจะไปไม่ได้ไกลในการแข่งขันครั้งนี้ แต่ผลของการแข่งขันสุดท้ายทีมเยอรมัน สามารถสร้างผลงานเป็นแชมป์ในรายการนี้ได้จริงๆ
                              อะไร..คือหัวใจของความสำเร็จ ของทีมเยอรมันในคร้้งนี้ ทั้งๆที่คู่ชิงชนะเลิศคือทีมชิลี ก็ไม่ใช่ธรรมดาผู้เล่นระดับโลกมากันเต็มทีมสร้างผลงานดีมาโดยตลอด ในเกมการแข่งขันยังสร้างเกมกดดันได้มากกว่าทีมเยอรมันตลอดทั้งเกมอีกด้วย

ภาพจาก www.Kapook.com

                                องค์ประกอบของความสำเร็จน่าจะมีดังนี้
                             1.การบริหารจัดการที่ดี..สมาคมฟุตบอลของเยอรมันมีแผนการพัฒนาฟุตบอลอย่างเป็นระบบระยาว มีรูปแบบและสไตล์การเล่นที่มีเอกลักษณ์เหมาะกับชาวเยอรมัน

 ภาพจาก www.Kapook.com

                            2.ทีมงานผู้ฝึกสอน.. ได้รับการพิจารณา คัดเลือกโค้ชที่มีความสามารถเข้ามาทำหน้าที่ ซึ่งโค้ช โยอาคิม เลิฟ และทีมงาน ต้องสามารถทำหน้าที่ตอบโจทย์เพื่อสนองความต้องการของสามคมได้ชัดเจน โดยรักษารูปแบบและสไตล์การเล่นของทีมไว้ รักษามาตรฐานความสามารถในการเล่นและผลงาน หรือพัฒนามาตรฐานความสามารถของทีมและพัฒนาศักยภาพของนักฟุตบอลระดับเยาวชนและดาวรุ่งให้มีประสบการณ์เพียงพอที่จะก้าวขึ้นมาแทนรุ่นพี่ๆที่จะโรยราไป..แนวทางเช่นนี้ที่เห็นเด่นชัดคือ..ในสมัยที่ฟร้านซ์ แบ็คเคนเบาวเออร์ ได้รับความไว้วางใจให้มาทำหน้าที่โค้ช ช่วงนั้นเขาวางแผนเตรียมนักฟุตบอลรุ่นหนุ่มอายุไม่เกิน 23 ปีไปแข่งขันในรายการชิงแชมป์ยุโรป ซึ่งทำผลงานได้ถึงตำแหน่งรองชนะเลิศ หลังจากนั้นได้พัฒนาต่อเนื่องอีก 2 ปี ต่อมาทีมชุดนี้เข้าร่วมแข่งขันในฟุตบอลโลก ซึ่งผลงานยอดเยี่ยมชนะเลิศเป็นแชมป์โลกในครั้งนั้น
                            3.การเล่นเป็นระบบ..    แม้ว่าในทีมจะมีนักฟุตบอลที่มีชื่อเสียง  และมีความสามารถระดับโลกอยู่ก็ตาม โค้ชจะกำหนดรูปแบบ วิธีการและกลยุทธ์การเล่นไว้ นักฟุตบอลทุกก็ต้องปฏิบัติตามตั้งแต่ฝึกซ้อม และนำไปใช้ให้ได้จริงตามที่กำหนดไว้ ไม่เล่นตามใจตนเองหรือโชว์การเล่นแบบตัวคนเดียว เพราะจะทำให้การเล่นไม่ลื่นไหลสัมพันธ์กัน เล่นแบบ Team work

 ภาพจาก www.banpolball.com

                              4.ความมีวันัย.. ต้องยอมรับว่าชาวเยอรมันนั้นมีวันัยและความรับผิดชอบในตัวสูงอยู่แล้ว พวกเขาจะเห็นผลประโยชน์ของส่วนรวมเป็นหลัก ดังนั้นนักฟุตบอลจึงปฏิบัติตามระบบ ตามเงื่อนไขที่โค้ชกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด ถ้าดูจากเกมนัดชิงชนะเลิศทีมเยอรมัน มีวินัยในเกมรับสูงมากช่วยกันป้องกันการบุกโจมตีของทีมชิลีไว้ได้อย่างเหนียวแน่น และอดทนรอโอกาสบุกโต้คืนเมื่อมีโอกาส และก็เล่นเป็นระบบ บังคับให้ผู้รัษาประตูของทีมชิลี ต้องวิ่งออกมาจากประตูเพื่อปิดมุมป้องกันการยิง จึงทำให้ผู้เล่นของทีมเยอรมันที่วิ่งเติมขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งที่ว่าง รอรับบอลที่เพื่อนส่งผ่ามมาให้ยิงเข้าประตูไปได้
                              5.ความมุ่งมั่นไม่ยอมแพ้..      สิ่งนี้ก็เป็นอีกประการหนึ่งที่เสริมแรง  ทำให้นักฟุตบอลของเยอรมันทุกคน ที่ได้ลงเล่นในทีมแล้วพวกเขาจะทุ่มเทตั้งใจเล่นอย่างจริงจัง และจะไม่ยอมหยุดถ้ายังไม่หมดเวลาการแข่งขัน
                                  องค์ประกอบทั้ง 5 ประการนี้เป็นสิ่งที่ส่งเสริมให้ทีมฟุตบอลประสบความสำเร็จได้จริง ท่านผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับภารกิจฟุตบอล น่าจะนำไปพิจารณาแล้วลองนำไปใช้ เพิ่อสร้างความสำเร็จในอนาคตได้เช่นกัน.....
                                


 

วันพุธที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2560



เริ่มต้นการเปลี่ยนแปลง..ภายใต้โค้ชคนใหม่..

ภาพจาก www.toptowin.net

                            การเข้ารับงานการเป็นโค้ช มิโลวาน ราเยวัช กับทีมชาติไทยชุดใหญ่ ภายใต้ระยะเวลาสั้นๆที่ต้องนำทีมแข่งในโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกที่เหลืออยู่ แม้ว่าทีมชาติไทยหมดโอกาสในการเข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายแล้วก็ตาม แต่เป็นเรื่องศักดิ์ศรีของประเทศ สปิริตของนักกีฬา และที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือความสามารถของโค้ชคนใหม่ ว่ามีมากน้อยเพียงใด
                         หลังจากเข้ารับงานโค้ชและทีมงาน  เริ่มงานโดยการกำหนดแผนการทำงาน แล้วส่ง ทีมงานออกไปตระเวนสังเกตการณ์ เสาะหานักฟุตบอลที่มีความสามารถเข้ามาเป็นตัวแทนทีมชาติไทยและดำเนินการฝึกซ้อมเตรียมทีมทันที ซึ่งทุกคนเฝ้าดูว่าจะทำได้ดีเพียงใด เพราะทราบอยู่แล้วว่าตัวหลักของทีมชาติชุดใหญ่นี้เป็นนักฟุตบอลที่อยู่ในทีมเอชซีจี เมืองทอง ที่นักบอลมีโปรแกรมการแข่งขันแน่นมากอยู่แล้ว อาจจะไม่สามารถมาร่วมทีมได้ทุกคน เพราะสภาพร่างกายอิดโรยจากการลุยงานมาอย่างหนัก ซึ่งเป็นโจทย์การบ้านข้ออยากทีเดียว ที่ให้โค้ชคนใหม่ต้องคิดแก้ปัญหา 
                         ด้วยความเป็นโค้ชอาชีพ โค้ชและทีมงานเรียกนักบอลที่เลือกไว้มาร่วมฝึกซ้อมตามแผนและแทคติกการเล่นที่กำหนดไว้ แล้วประเมินผู้เล่นโดยการประลองทีมอุ่นเครื่องกับทีมอุซเบกิสถาน ซึ่งผลการแข่งขันทีมไทยแพ้ 2:0 ประตู และต่อด้วยการแข่งขันฟุตบอลโลกคักเลือก โซนเอเซีย โดยพบกับทีม ยู เอ อี ผลการแข่งขันเสมอกันๆไป 1:1 ประตู
                         ถ้าสังเกตจะเห็นได้ว่าระบบ รูปแบบและแทคติกการเล่นของทีม มีการปรับเปลี่ยนตามแนวคิดของโค้ช ที่ได้เคยกล่าวไว้ตั้งแต่เริ่มเข้ามารับงาน ที่ว่าผู้เล่นทีมไทยมีทักษะดี ชอบเล่นเกมรุกแต่เกมรับยังมีปัญหาที่เสียประตูบ่อยๆ ดังนั้นจะเลือกใช้ผู้เล่นที่มีรูปร่างสูงใหญ่มาเล่นในแผงหลัง ส่วนเกมรับของทีมไทยจะเน้นการป้องกันและความมีวินัยของผู้เล่นเมื่อเป็นเกมรับเป็นหลัก โดยจะถอยลมารับเมื่อเสียการครองบอลไป จะช่วยกันปิดทางการเล่นและช่วยกันไล่แย่ง ส่วนเกมรุกจะเล่นโต้กลับทันทีเมื่อมีโอกาส ซึ่งเน้นโจมตีทางด้านข้าง และเน้นลูกตั้งเตะด้วยแทคติกต่างๆ

 ภาพจาก www.thairaath.co.th

                              สรุปการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ในช่วงแรกได้ดังนี้..
                           1.โค้ชมีความเป็นมืออาชีพ ไม่กังวลใจ ใช้ความรู้ความสามารถแก้ปัญหา
                        2.โค้ชเชื่อมั่นในตนเอง     กล้าที่จะใช้ผู้เล่นหน้าใหม่มาลงเล่นในเกมระดับชาติ จากตรงนี้ทำเกิดมิติใหม่ ทำให้นักเตะทุกคนพยายามแสดงศักยภาพที่ดีที่สุดออกมา อาจจะถูกใจโค้ชแล้วมีโอกาสติดทีมชาติได้เหมือนกัน ทำให้ตัวเลือกของทีมชาติจะมีเพิ่มมากขึ้น อันนี้จะเป็นสิ่งเร้าให้นักกีฬาแต่ละคนต้องพัฒนาตัวเองกันมากขึ้น ฐานกำลังด้านนักกีฬาที่ดีก็จะมีเพิ่มขึ้นด้วย
                          3.ปรับแทคติก และวินัยการเล่นเกมรับทั้งระบบ
                          4.แทคติกเกมการรุก เล่นตามสถานะการณ์ และความเหมาะสมกับทีม

                          ดังนั้นโค้ช..คงจะเห็นจุดบกพร่องในเกมรับที่ต้องปรับแก้ และจุดที่ต้องเสริมเพื่อให้ทีมมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นในเกมรุกต่อไป...ขอเป็นกำลังใจให้ทีมงานโค้ชและนักกีฬาทุกท่านนะครับ.. 

วันพุธที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2560



ข้อคิดจากเกมยูฟ่าแชมป์เปี่ยนลึก 2017.

  ภาพจาก www.simsport.com

                           ต้องขอแสดงความยินดีกับแฟนคลับของสโมสรรีล มาดริด ที่สามารถเก็บชัยชนะเหนือทีมสโมสรยูเวนตุส ครองความเป็นแชมป์ในถ้วยยุโรปในปี่นี้ และทำสถิติครองแชมป์เป็นสมัยที่ 12 เหนือสโมสรอื่นๆ
                            เกมการแข่งขันดำเนินไปด้วยความเร้าใจ แต่พวกเราชาวไทยแทบจะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับสโมสรเขาเลยจะมีก็เพียงแต่แอบปลื้มไปกับเขาด้วยเท่านั้น  แต่ถ้าคนใดที่มีฟุตบอลในสายเลือดจริงๆเมื่อชมการแข่งขันแล้วต้องได้ประโยชน์ทางด้านเทคนิคการเล่นฟุตบอลด้วย....
ข้อคิดอะไรบ้างที่มีในเกมการแข่งขันครั้งนี้.....
                            1. ความเป็นมืออาชีพของนักฟุตบอลทั้ง 2 ทีมเตรียมตัวมาอย่างดีมุ่งมั่นตั้งใจตลอดทั้งเกม
                               2.โค้ชทั้งคู่เตรียมการและพยายามวางแผนการเล่นเพื่อสร้างความได้เปรียบในเกม แต่ที่สำคัญการแก้เกมที่ตรงจุดกว่าจะทำให้ทีมได้เปรียบและทำให้มีโอกาสได้ชัยชนะมากว่าด้วย
                               3.ด้าน เทคนิคการเล่นที่ทั้ง 2 ทีมนำมาใช้ (เป็นไปตามหลักการและเทคนิคการเล่นสากล)
                             ด้านเทคนิคการเล่น ในเกมการแข่งขัน ที่เห็นเด่นชัดมีดังนี้

                              1.การส่งบอลกันในเกมเน้นทำด้วยความรวดเร็ว

                              2.เมื่อตัดบอลได้ เปิดเกมโต้กลับทันที
                              3.เกมรับเข้าประกบถึงตัว อย่างเร็วแบบไม่ให้ผู้เล่นฝ่ายรุกมีเวลาตั้งตัว
                             4.เทคนิคการรุก เน้นโจมตีจากทางด้านข้าง เปลี่ยนแกนการเล่นสลับด้านซ้าย-ขวา
                             5.เทคนิคการเข้ายิงประตู (การผ่านจากข้าง/การส่งตัดหลังแบ็ค/การยิงไกล)
                             


ภาพที่ 1

                           จากภาพที่ 1 ทีมรีล มาดริด บุกโจมตีทางด้านข้าง โดย โคร์ส(8) พาบอลขึ้นมาทางด้านซ้าย และส่งบอลเปลี่ยนแกนมาด้านขวาให้ เบนเซมาร์(9) แล้วส่งบอลต่อให้ โรนัลโด้(7) และโรนัลโด้ ส่งบอลต่อให้ การ์บาฆาว(2) ที่วิ่งเติมขึ้นมาจากด้านหลังในพื้นที่ด้านขวา เพื่อจะให้พาบอลผ่านแนวรับไป แต่กองหลังของทีม ยูเวนตุส รีบถอยลงไปรับต่ำใกล้หน้าประตู ทำให้ การ์บาฆาว ผ่านบอลจากด้านข้าง( Cross )เข้ามาด้านใน ข้างหน้าแนวรับหน้าประตูให้ โรนัลโด้ ที่วิ่งหาที่ว่าง เพื่อรอรับบอลแล้วยิงประตู

ภาพที่ 2

                              จากภาพที่ 2 ทีมยูเวนตุส ทำประตูคืน โดย โบนุชซี่(19) วางบอลไกลจากด้านขวาเกือบกลางสนาม ข้ามไปลงหลังแบ็คขวาของทีม รีล มาดริด ที่มี อเล็กซานโดร(12) วิ่งเติมขึ้นไปทางด้านซ้ายได้อย่างแม่นยำ เมื่อเห็นว่าแนวรับพุ่งความสนใจมาที่เขา อเล็กซานโดร สัมผัสบอลแรกโดยการส่งบอล( Cross )ย้อนกลับเข้ามาด้านหน้าประตูใ้ห้ อิกาวอิน(9) ที่รออยู่และพักบอลไว้หนึ่งจังหวะ เมื่อเห็นว่าไม่มีจังหวะยิงประตู และเห็นว่าเพื่อนน่าจะมีโอกาสดีกว่า จึงส่งบออลต่อให้ มานด์ซูคิช(17) ใช้ความสามารถเฉพาะยิงประตู

ภาพที่ 3

                              ภาพที่ 3 เบนเซม่า(9) ผู้เล่นของทีม รีล มาดริด ได้บอลจากเกือบกลางสนามเลี้ยงพาบอลไปทางซีกด้านซ้าย และส่งตัดหน้าแนวรับให้กับ โคร์ส(8) ที่ขยับมารอรับบอลแล้วยิงประตูทันที แต่แนวรับสกัดบอลย้อนออกมา ผู้เล่นแถวสอง อาเซนซิโอ(14) ที่คุมสถานะการณ์อยู๋ รีบฉวยโอกาสเข้าหาบอลแล้วยิงประตูในระยะไกลทันที่

ภาพที่ 4

                              จากภาพที่ 4 โมดริช(19) ของทีม รีล มาดดริด แย่งตัดบอลได้เปิเกมรุกทันที ส่งบอลให้ การ์บาฆาว(2) ที่ขยับเข้ามาช่วย แล้ววิ่งทำทางไปรับบอลจาก การ์บาฆาว ที่ส่งทะลุแนวรับมาให้ แล้วกระชากพาบอลไปถึงเส้นประตู ส่งบอลตัดหลังแนวรับย้อนกลับเข้ามา( Cut Back ) ให้ โรนัลโด ที่วิ่งโฉบตัดหน้ากองหลังเข้ายิงประตูทันที
 
ภาพที่ 5

                              จากภาพที่ 5 มาร์เซโล(12) ของทีม รีล มาดริด แย่งบอลได้ที่บริเวณข้างสนามด้านซ้าย โยกหลอก พาบอลขนานไปกับเส้นประตูหนีกองหลัง แล้วตวัดส่งบอลย้อนแนวรับกลับออกมาให้ เซอจิโร(20) ที่วิ่งโฉบมายังพื้นที่ว่าง เข้าหาบอลแล้วยิงประตูทันที
                                
                              แม้แต่ทีมสโมสรระดับแนวหน้าของโลก ก็ยังใช้หลักการและเทคนิคการเล่นตามศาสตร์สากลของฟุตบอลเหมือนกัน ซึ่งจะเห็นได้ว่า เกมรุกจะเน้นการโจมตีทางด้านข้างเป็นหลัก เพื่อขยายแนวป้องกันให้ถ่างออก บริเวณหน้าประตูจะได้มีพื้นที่ว่างมากขึ้น โอกาสการทำประตูจะเพิ่มมากขึ้นด้วย ส่วนเทคนิคการเข้าทำประตูแบบมาตรฐานที่มี 7 แบบ ได้ถูกนำมาใช้ครั้งนี้แล้วเกิดผลได้ประตูกัน ก็มี การผ่านจากด้านข้าง(Cross) การส่งตัดหลังแบ็คย้อนกลับมา(Cut Back) และการยิงไกลจากแถว 2 (Second Low/ Long Shoot) เป็นต้น