วันพุธที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2560



ข้อคิดจากเกมยูฟ่าแชมป์เปี่ยนลึก 2017.

  ภาพจาก www.simsport.com

                           ต้องขอแสดงความยินดีกับแฟนคลับของสโมสรรีล มาดริด ที่สามารถเก็บชัยชนะเหนือทีมสโมสรยูเวนตุส ครองความเป็นแชมป์ในถ้วยยุโรปในปี่นี้ และทำสถิติครองแชมป์เป็นสมัยที่ 12 เหนือสโมสรอื่นๆ
                            เกมการแข่งขันดำเนินไปด้วยความเร้าใจ แต่พวกเราชาวไทยแทบจะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับสโมสรเขาเลยจะมีก็เพียงแต่แอบปลื้มไปกับเขาด้วยเท่านั้น  แต่ถ้าคนใดที่มีฟุตบอลในสายเลือดจริงๆเมื่อชมการแข่งขันแล้วต้องได้ประโยชน์ทางด้านเทคนิคการเล่นฟุตบอลด้วย....
ข้อคิดอะไรบ้างที่มีในเกมการแข่งขันครั้งนี้.....
                            1. ความเป็นมืออาชีพของนักฟุตบอลทั้ง 2 ทีมเตรียมตัวมาอย่างดีมุ่งมั่นตั้งใจตลอดทั้งเกม
                               2.โค้ชทั้งคู่เตรียมการและพยายามวางแผนการเล่นเพื่อสร้างความได้เปรียบในเกม แต่ที่สำคัญการแก้เกมที่ตรงจุดกว่าจะทำให้ทีมได้เปรียบและทำให้มีโอกาสได้ชัยชนะมากว่าด้วย
                               3.ด้าน เทคนิคการเล่นที่ทั้ง 2 ทีมนำมาใช้ (เป็นไปตามหลักการและเทคนิคการเล่นสากล)
                             ด้านเทคนิคการเล่น ในเกมการแข่งขัน ที่เห็นเด่นชัดมีดังนี้

                              1.การส่งบอลกันในเกมเน้นทำด้วยความรวดเร็ว

                              2.เมื่อตัดบอลได้ เปิดเกมโต้กลับทันที
                              3.เกมรับเข้าประกบถึงตัว อย่างเร็วแบบไม่ให้ผู้เล่นฝ่ายรุกมีเวลาตั้งตัว
                             4.เทคนิคการรุก เน้นโจมตีจากทางด้านข้าง เปลี่ยนแกนการเล่นสลับด้านซ้าย-ขวา
                             5.เทคนิคการเข้ายิงประตู (การผ่านจากข้าง/การส่งตัดหลังแบ็ค/การยิงไกล)
                             


ภาพที่ 1

                           จากภาพที่ 1 ทีมรีล มาดริด บุกโจมตีทางด้านข้าง โดย โคร์ส(8) พาบอลขึ้นมาทางด้านซ้าย และส่งบอลเปลี่ยนแกนมาด้านขวาให้ เบนเซมาร์(9) แล้วส่งบอลต่อให้ โรนัลโด้(7) และโรนัลโด้ ส่งบอลต่อให้ การ์บาฆาว(2) ที่วิ่งเติมขึ้นมาจากด้านหลังในพื้นที่ด้านขวา เพื่อจะให้พาบอลผ่านแนวรับไป แต่กองหลังของทีม ยูเวนตุส รีบถอยลงไปรับต่ำใกล้หน้าประตู ทำให้ การ์บาฆาว ผ่านบอลจากด้านข้าง( Cross )เข้ามาด้านใน ข้างหน้าแนวรับหน้าประตูให้ โรนัลโด้ ที่วิ่งหาที่ว่าง เพื่อรอรับบอลแล้วยิงประตู

ภาพที่ 2

                              จากภาพที่ 2 ทีมยูเวนตุส ทำประตูคืน โดย โบนุชซี่(19) วางบอลไกลจากด้านขวาเกือบกลางสนาม ข้ามไปลงหลังแบ็คขวาของทีม รีล มาดริด ที่มี อเล็กซานโดร(12) วิ่งเติมขึ้นไปทางด้านซ้ายได้อย่างแม่นยำ เมื่อเห็นว่าแนวรับพุ่งความสนใจมาที่เขา อเล็กซานโดร สัมผัสบอลแรกโดยการส่งบอล( Cross )ย้อนกลับเข้ามาด้านหน้าประตูใ้ห้ อิกาวอิน(9) ที่รออยู่และพักบอลไว้หนึ่งจังหวะ เมื่อเห็นว่าไม่มีจังหวะยิงประตู และเห็นว่าเพื่อนน่าจะมีโอกาสดีกว่า จึงส่งบออลต่อให้ มานด์ซูคิช(17) ใช้ความสามารถเฉพาะยิงประตู

ภาพที่ 3

                              ภาพที่ 3 เบนเซม่า(9) ผู้เล่นของทีม รีล มาดริด ได้บอลจากเกือบกลางสนามเลี้ยงพาบอลไปทางซีกด้านซ้าย และส่งตัดหน้าแนวรับให้กับ โคร์ส(8) ที่ขยับมารอรับบอลแล้วยิงประตูทันที แต่แนวรับสกัดบอลย้อนออกมา ผู้เล่นแถวสอง อาเซนซิโอ(14) ที่คุมสถานะการณ์อยู๋ รีบฉวยโอกาสเข้าหาบอลแล้วยิงประตูในระยะไกลทันที่

ภาพที่ 4

                              จากภาพที่ 4 โมดริช(19) ของทีม รีล มาดดริด แย่งตัดบอลได้เปิเกมรุกทันที ส่งบอลให้ การ์บาฆาว(2) ที่ขยับเข้ามาช่วย แล้ววิ่งทำทางไปรับบอลจาก การ์บาฆาว ที่ส่งทะลุแนวรับมาให้ แล้วกระชากพาบอลไปถึงเส้นประตู ส่งบอลตัดหลังแนวรับย้อนกลับเข้ามา( Cut Back ) ให้ โรนัลโด ที่วิ่งโฉบตัดหน้ากองหลังเข้ายิงประตูทันที
 
ภาพที่ 5

                              จากภาพที่ 5 มาร์เซโล(12) ของทีม รีล มาดริด แย่งบอลได้ที่บริเวณข้างสนามด้านซ้าย โยกหลอก พาบอลขนานไปกับเส้นประตูหนีกองหลัง แล้วตวัดส่งบอลย้อนแนวรับกลับออกมาให้ เซอจิโร(20) ที่วิ่งโฉบมายังพื้นที่ว่าง เข้าหาบอลแล้วยิงประตูทันที
                                
                              แม้แต่ทีมสโมสรระดับแนวหน้าของโลก ก็ยังใช้หลักการและเทคนิคการเล่นตามศาสตร์สากลของฟุตบอลเหมือนกัน ซึ่งจะเห็นได้ว่า เกมรุกจะเน้นการโจมตีทางด้านข้างเป็นหลัก เพื่อขยายแนวป้องกันให้ถ่างออก บริเวณหน้าประตูจะได้มีพื้นที่ว่างมากขึ้น โอกาสการทำประตูจะเพิ่มมากขึ้นด้วย ส่วนเทคนิคการเข้าทำประตูแบบมาตรฐานที่มี 7 แบบ ได้ถูกนำมาใช้ครั้งนี้แล้วเกิดผลได้ประตูกัน ก็มี การผ่านจากด้านข้าง(Cross) การส่งตัดหลังแบ็คย้อนกลับมา(Cut Back) และการยิงไกลจากแถว 2 (Second Low/ Long Shoot) เป็นต้น

 



 






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น