ฝึกเล่นปีก..กันดีกว่า!! (ตอนที่ 2)
จากตอนที่แล้ว จะทราบถึงพื้นที่ ที่ผู้เล่นตำแหน่งปีกต้องรับผิดชอบในการเล่นกันไปแล้ว ตอนนี้จะกล่าวถึงว่าจะเล่นกันอย่างไร
2. บทบาทหน้าที่ของปีกในการสร้างสรรค์เกมรุก
ภาพที่ 1
จากภาพที่ 1 บทบาทหน้าที่ของปีก คือต้องใช้ความสามารถสร้างสรรค์เกมรุกในพื้นที่ด้านข้างของสนาม
ภาพที่ 2
จากภาพที่ 2 เมื่อปีกได้ครองบอล ต้องพยายามพาบอลหลบหลีกผู้เล่นฝ่ายรับ โดยการพาบอลเข้ามาทางด้านในเพื่อหลอกให้คู่ต่อสู้ขยับตามมา เมื่อได้โอกาสให้พาบอลหลบย้อนกลับออกทางด้านนอก แล้วกระชากบอลทะลุผ่านแนวรับไป
ภาพที่ 3
จากภาพที่ 3 ในบางโอกาส ปีกอาจจะหลอกล่อคู่ต่อสู้ ทำทีว่าจะพาบอลทะลุผ่านไปทางด้านนอกแนวขนานเส้นข้าง เมื่อเห็นว่าคู่ต่อสู้ขยับตามมาปิดทางแต่เปิดพื้นที่ด้านในไว้ ให้พาบอลย้อนกลับหลบมาทางด้านในแล้วกระชากบอลทะลุผ่านแนวรับเข้าไปทันที
ภาพที่ 4
จากภาพที่ 4 ถ้าปีกได้ครองบอลแล้วแต่ไม่มีโอกาสที่ดี หรือไม่มั่นใจว่าจะพาบอลผ่านคู่ต่อสู้ไปได้ คงต้องหาตัวช่วยโดยส่งบอลให้เพื่อนร่วมทีมเพื่อทำชิ่ง (wall pass) ให้บอลทะลุผ่านแนวรับเพื่อให้ปีกเคลื่อนที่ไปเล่นด้านหลังแบ็คทันที เพราะการที่สามารถพาบอลผ่านแบ็คไปได้จะสร้างความกดดันให้ผู้เล่นแนวรับที่คุมสถานะการณ์บริเวณหน้าประตู
ต้องรีบเคลื่อนตัวออกมาป้องกัน
ทำให้ขุมกำลังหรือโซนการป้องกันนั้นถูกบังคับให้ขยายออกไป
พื้นที่บริเวณหน้าประตูจะเปิดกว้าง มีช่องว่างให้กองหน้าฝ่ายรุกเข้าโจมตีได้มากขึ้นทันที
ภาพที่ 5
จากภาพที่ 5 นอกจากการพาบอลไปสร้างเกมรุกทางด้านข้างของสนามแล้ว ปีกยังมีหน้าที่ในกการเปิดบอลให้ผู้เล่นกองหน้าเพื่อเข้าประตูอีกด้วย อย่างเช่น..
1. เมื่อปีกไม่สามารถพาบอลไปได้ด้วยตนเอง แต่พื้นที่ด้านหลังแบ็คมีที่ว่างให้โจมตี ผู้เล่นกองหน้าหมายเลข 9 สามารถเคลื่อนที่ตัดออกไปรับบอลเพื่อสร้างเกมรุกกดดันต่อไป
2. ถ้าเห็นว่าหลังแนวรับมีที่ว่างแล้วสามารถส่งบอลตัดทะลุผ่านแนวป้องกันให้กองหน้าหมายเลข 10 พุ่งโฉบเอาลูกบอลเข้าไปยิงประตู ให้รีบดำเนินการทันที
3. ถ้าแนวรับของคู่ต่อสู้เคลื่อนตัวบีบเข้ามา และเปิดพื้นที่ฝังตรงข้ามด้านเสาไกล ให้ส่งบอลโยนโด่งข้ามแนวรับไปให้ผู้เล่นหมายเลข 11 เข้าทำประตูทันที
ในการเล่นจะเล่นในรูปแบบใดให้เล่นตามสถานะการณ์เกมที่คู่ต่อสู้เปิด และที่สำคัญจำเป็นต้องฝึกซ้อมกันให้เกินความชำนาญสัมพันธ์กัน การเล่นจึงจะมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น