วันเสาร์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2561



แทคติกที่ได้จากเกมฟุตบอลโลก

ภาพจาก www.tv5.co.th
                                   เกมการแข่งขันฟุตบอลโลกกำลังเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ หลายเกมเป็นเกมคุณภาพมีความเข้มข้นของเกมการแข่งขัน ซึ่งในแต่ละเกมให้ข้อคิดที่มีประโยชน์สำหรับผู้เล่นและโค้ชที่จะนำมาพัฒนาศักยภาพของแต่ละคนและทีม
                                    
 ภาพจาก www.youtube.com
                                      ในเกมการแข่งขันระหว่างทีมโปรตุเกส-สเปน เป็นเกมหนึ่งที่เข้มข้น มีหลายคนพูดว่าน่าจะเป็นเกมในรอบชิงชนะเลิศด้วยซ้ำ เพราะทั้ง 2 ทีมมีผู้เล่นระดับซุปเปอร์สตาร์หลายคน แทคติกของแต่ละทีมจะเป็นไปตามศักยภาพของผู้เล่นและแผนที่โค้ชวางไว้ ทีมโปรตุเกสจะเล่นแบบตั้งรับให้ปลอดภัยแล้วอาศัยการส่ง-รับบอลอย่างรวดเร็วไม่ครองบอลนาน และใช้ความสามารถของ โรนัลโด้และผู้เล่นแนวรุกที่มีความเร็วสูงเล่นเกมรุกโต้สวนกลับอย่างเร็ว ส่วนทีมสเปน เน้นการครองเกมโดยการส่ง-รับบอล ขึงเกมรุกแล้วเข้าทำประตูเพราะผู้เล่นส่วนใหญ่มีประสบการณ์สูงและเล่นกันมานานแบบรู้ใจกัน

ภาพจาก www.kodbaball.com

                                      เกมการแข่งขันระหว่างทีมเยอรมันนี-เกาหลีใต้ เป็นเกมหนึ่งที่น่าสนใจทีมเยอรมันนียังใช้มาตรฐานการเล่นที่เป็นเอกลักษณ์เดิม เน้นเล่นกันเป็นระบบมีรูปแบบการเข้าทำประตูที่หลากหลาย ที่ผลการแข่งขันต่ำกว่ามาตรฐาน น่าจะมาจากขุมกำลังที่ขาดความสมดุล ผู้เล่นมากประสบการณ์ก็เริ่มโรย ผู้เล่นหนุ่มก็ขาดประสบการณ์ในเกมใหญ่ ทำให้การประสานงานในเกมการเล่นขาดๆเกินๆไม่ลงตัว ส่วนทีมเกาหลีใต้ มีจุดเด่นเรื่องความมีวินัยและมีความมุ่งมั่งตั้งใจสูงอยู่แล้วประกอบกับโค้ชทำการบ้านมาดีเตรียมแผนการรับมือทีมเยอรมันนีมาอย่างดี  ทำให้ต่อสู้ในเกมได้อย่างสนุกตื่นเต้น และที่สำคัญผู้เล่นมุ่งมั่นเกับเกมใจสู้ช่วยกันเล่น  และมีการพัฒนาเทคนิคการเล่นเข้าสู่ระดับมาตรฐานสากลไปแล้ว เช่นสามารถใช้ความอดทนตั้งเกมรับป้องกันเกมรุกของทีมเยอรมันนีได้อย่างเหนียวแน่น อีกทั้งผู้รักษาประตูโชว์ฟอร์มการป้องกันประตูได้อย่างโดดเด่น และเล่นเกมที่เหมาะสมเมื่อตัดบอลได้เปิดบอลระยะไกลทันทีให้กองหน้าพาบอลไปยิงประตู   เช่นเมื่อเห็นว่าผู้รักษาประตู ของทีมเยอรมันนีออกมาจากเขตประตูบุกขึ้นมาเล่นเกมรุกแล้วพลาดทำให้เสียการครองบอลไปในช่วงท้ายเกม

ภาพจาก www.prachachat.net

                                     เกมคู่ระหว่างเบลยี่ยม-ญี่ปุ่น ก็เป็นอีกเกมหนึ่งที่น่าสนใจ แม้ว่าทีมญี่ปุ่นที่มีมีมาตรฐานต่ำกว่า แต่สามารถทำสถานะการณ์ช็อกโลกในเกมการแข่งขันครึ่งเวลาแรกโดยยิงประตูขึ้นนำถึง 2 ประตู ซึ่งโค้ชทีมญี่ปุ่นทำการบ้านมาดีเตรียมแผนการเล่นมาอย่างดีโดยเน้นการมีวินัยในการเล่น  แบบอดทนตั้งเกมรับให้เหนียวแน่น และอาศัยการรุกโต้สวนกลับซึ่งมีโอกาสยิงประตูเพียง 4 ครั้งสามารถทำได้ถึง 2 ประตู ส่วนทีมเบลเยี่ยมที่มีผู้เล่นระดับซุปเปอร์สตาร์เกือบทั้งทีมต้องทำงานอย่างหนัก โดยเฉพาะโค้ชได้แก้เกมและกระตุ้นให้ผู้เล่นๆแบบคุมสถานะกาณ์ กดดันขึงเกมรุกไว้แล้วใช้แทคติกการเข้าทำประตูแบบต่างๆมาโจมตี ด้วยศักยภาพและประสบการณ์ที่เหนือกว่าสร้างความกดดันจนทำให้ทีมญี่ปุ่นเสียสมาธิ ทำให้การประกบตัวมีความผิดพลาดระบบการป้องกันมีช่องว่าง โอกาสจึงเป็นของทีมเบลเยี่ยมบุกเข้าทำประตูเบียดแซงชนะไปแบบหืดขึ้นคอ

ภาพจาก www.vaaju.com

                                      เกมคู่ระหว่างฝรั่งเศส-อุรุกวัย เกมนี้ทั้ง 2 ทีมมีชื่อชั้นใกล้เคียงกัน ซึ่งมาจากคนละทวีป แต่เกมการเล่นอาจจะไม่เร้าใจอย่างที่ควรจะเป็น เพราะทีมอุรุกวัยมีสภาพทีมที่ไม่สมบูรณ์แนวรุกขาด เอดินสัน คาวานี่ ที่บาดเจ็บทำให้เกมรุกไม่สามารถสร้างความกดดันได้มากเท่าที่ควรทั้งๆที่สามารถเปิดเกมรุกพาบอลมาถึงหน้าประตูได้ ส่วนทีมฝรั่งเศสที่มีผู้เล่นที่สดกว่ามีขุมกำลังพร้อมทั้งกองหน้า กองกลางและกองหลัง เน้นการเล่นแบบไม่ครองบอลนาน ส่ง-รับอย่างเร็วและใช้ความเร็วของกองหน้าพาบอลไปกดดันเพื่อขยายแนวรับของทีมอุรุกวัยที่แข็งแกร่งให้เปิดพื้นที่ว่าง เพื่อหาโอกาสยิงประตู และที่สำคัญคือการตัดสินใจผิดพลาดเล็กๆน้อยๆ อย่างเช่นผู้รักษาประตูเลือกทักษะในการป้องกันลูกที่ยิงมาพลาดทำให้เสียประตูที่ 2 ทีมจึงพ่ายแพ้ไปในเกมนี้

ภาพจาก www.khobsanam.com

                                      เกมคู่ระหว่างบราซิล-เบลเยี่ยม คู่นี้เป็นอีกเกมหนื่งที่น่าจะเป็นเกมนัดชิงชนะเลิศเหมือนกัน เพราะเป็นเกมระหว่างทีมเต็งหนึ่งกับเต็งสองมาเจอกัน ซึ่งเป็นเกมที่ดุเดือดเข้มข้นตื่นเต้นตลอดทั้งเกม ทีมบราซิลเป็นทีมที่มีผู้เล่นประสบการณ์สูงเล่นในสไตล์อเมริกาใต้ใช้ความสามารถเฉพาะตัวกระชาก ลากเลี้ยงพาบอลไปสลับกับการเล่นสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมทีมแบบมีจิตนาการและสร้างสรรค์ ซึ่งยากต่อการคาดเดา โดยมีเนมาร์, คูตินโญ่ และคอตต้า เป็นตัวสร้างเกมกดดัน ส่วนทีมเบลเยี่ยมที่มีผู้เล่นเด่นในสโมสรดังในยุโรป มีความสามารถและประสบการณ์สูงเช่นกัน เช่น อาร์ซา, เดอ บรอยน์ และลูกากู จะเล่นในสไตล์ของยุโรป ที่แต่ละคนจะมีบทบาทหน้าที่ในการสร้างสรรค์เกมตามที่ได้รับมอบหมายเล่นกันเป็นระบบ ซึ่งใช้เกมตั้งรับเหนียวแน่น เล่นอย่างมีวินัยและอดทนรอโอกาสโต้ด้วยเกมรุกสวนกลับอย่างเร็ว และที่สำคัญทั้งสองทีมต้องวางแผนในการหยุดตัวสร้างสรรค์เกมของคู่ต่อสู้ให้ได้ ทีมที่ทำได้จะสามารถลดเกมรุกที่มีประสิทธิภาพลงไป และที่สำคัญ คูร์ตัวส์ ผู้รักษาประตูทีมเบลเยี่ยมได้โชว์การป้องกันลูกยิงที่อันตรายได้ประมาณ 8 ครั้ง จึงช่วยให้ทีมเบลเยี่ยมเอาชนะทีมเต็งหนึ่งที่มีเกมรุกที่ดุดันเข้าสู่รอบต่อไปได้
                                      ข้อสังเกตุเล็กๆน้อยๆอาจจะเป็นแนวทางที่ผู้เล่นและโค้ชนำไปใช้ แต่ต้องพิจารณานำไปใช้ให้เหมาะสมกับสถานะการณ์และโอกาส จึงจะเกิดผลที่ดีในการพัฒนาผู้เล่นและทีมต่อไป
                                  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น