ทำไมโค้ช..สร้างผลงานได้แตกต่างกันมาก

ภาพจาก www.rua da judiaria.com

                                ปัจจุบันนี้โค้ชที่ทำหน้าที่ควบคุมทีมฟุตบอล จำเป็นต้องผ่านการอบรมการเป็นผู้ฝึกสอนในระดับต่างๆ ต้้งแต่ระดับ Intro, C, B, A, และ Pro Licence เพื่อที่จะทำงานได้ตั้งแต่ระดับรากหญ้าจนถึงระดับชาติและอาชีพ ตามเงื่อนไขของ AFC หรือ  FIFA ที่กำหนดไว้

                                  นั่นคือหลักการมาตรฐานที่เป็นแนวทางการพัฒนาวงการฟุตบอล  ซึ่งโค้ชจะต้องเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆให้ดีพอดังต่อไปนี้

                                    1.ด้านความรู้

                                    2.ด้านความคิดสร้างสรรค์

                                    3.ด้านประสบการณ์

ภาพจาก www.ball95.com

                               1.ด้านความรู้..โค้ชต้องผ่านการอบรมหลักสูตรในระดับต่างๆ เพื่อจะได้รู้แนวทางและขั้นตอนในการทำงาน เพื่อจะได้ทำงานในทุกระดับได้อย่างเหมาะสม

                               2.ด้านความคิดสร้างสรรค์..โค้ชต้องคิดสิ่งใหม่ๆมาช่วยเสริมความรู้ที่ใช้อยู่ในขณะนั้นไม่ว่าจะเป็นแบบฝึกใหม่ เทคนิคและเทคติกการเล่นในเกมรุก เกมรับรวมถึงการเข้าทำประตู เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันให้มากขึ้น

                               3.ด้านประสบการณ์..โค้ชต้องนำทีมไปประลองหรือแข่งขัน และต้องกล้าที่จะให้ทีมมีผลการแข่งขันพ่ายแพ้ด้วย เพราะถ้าเน้นให้ทีมได้รับชัยชนะเสมอเราจะรู้จุดแข็งของทีมในเกมรุกและผู้เล่นจะเกิดความมั่นใจสูงเกินไปทำให้เหลิงและประมาทได้..แต่ในเกมที่แพ้จะทำให้เห็นจุดอ่อนหรือข้อบกพร่องหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเกมรุกที่ขาดปประสิทธิภาพ ผู้เล่นบางคนหรือบางตำแหน่งมีความบกพร่องผิดพลาด เกมรับที่ยังไม่สมดุลย์ รวมทั้งผู้เล่นควรได้รับการปรับปรุงแก้ไขและสร้างความมุ่งมั่นให้เกิดขึ้นได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย

 ภาพจาก www.thaivip2541.com

                               แต่ในความเป็นจริงเราจะพบว่าโค้ชเหล่านี้ไม่ได้ประสบความสำเร็จเหมือนกันทุกคน..ทั้งๆที่ผ่านการอบรมมีความรู้ในมาตรฐานเดียวกัน..ที่เป็นเช่นนี้เพราะโค้ชที่ประสบความสำเร็จต้องมีคุณสมบัติพิเศษมากหรือเหนือกว่าโค้ชคนอื่นโดยทั่วๆไป..

 ภาพจาก www.slots-21.info

                               คุณสมบัติที่โค้ชเก่งๆมีมากกว่าโค้ชทั่วไปดังนี้...
                                1.ความละเอียดรอบคอบ..วิเคราะห์สภาพของผู้เล่นและทีมทั้งทีมตัวเองและคู่ต่อสู้ทุกมิติ แล้วนำข้อมูลมาใช้ในการหาแนวทางและวิธีการพัฒนาแก้ไขให้ดียิ่งขึ้น
                                2.เทคนิคการถ่ายทอดแผนและกิจกรรมการฝึก ให้ผู้เล่นสามารถทำได้สำเร็จตามจุดประสงค์ของแบบฝึกแต่ระแบบฝึกที่โค้ชต้องการนั้น
                                3.ความสามารถในการดึงศักยภาพในตัวของผู้เล่นให้นำออกมาใช้ได้มากที่สุด เพื่อให้ผู้เล่นสามารถเล่นได้ดีเต็มศักยภาพเหมาะสมกับบทบาทหน้าที่ในตำแหน่งที่ได้รับมอบหมายและแทคติกตามแผนที่กำหนดได้อย่างดี
                                4.ความสามารถในการสร้างความสัมพันธ์ของผู้เล่นในทีมทั้งผู้เล่น 11 ตัวจริงและผู้เล่นสำรอง ให้สามารถผสมผสานการเล่นทั้งเกมรุก เกมรับตามแผนและรูปแบบที่กำหนดเพื่อให้เล่นร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
                                5.สิ่งสุดท้ายคือ"โชค" ซึ่งโค้ชแต่ละคนจะมีวาสนาไม่เหมือนกัน บางคนมีคุณสมบัติของโค้ชที่ดีทุกอย่าง ทำผลงานได้ดีมากๆแต่..ไปไม่ถึงจุดสูงสุดก็มี ถึงอย่างไรโค้ชที่มีลักษณะเช่นนี้ถือว่าเป็นโค้ชที่มีคุณภาพคนหนึ่ง......เพราะสามารถพัฒนาและยกระดับคุณภาพของผู้เล่นและการเล่นของทีมให้สูงขึ้น..ควรได้รับการยกย่องชื่นชมเช่นกัน
                               ดังนั้นโค้ชแต่ละท่านคงต้องหันมาสำรวจตนเองว่าเรานั้นยังมีส่วนหนึ่งส่วนใดบ้างที่น่าจะพัฒนาเพิ่มขึ้นเพื่อเป็นยอดโค้ชคนต่อไป..ไม่ควรเชื่อมั่นในตัวเองมากเกินไปเปรียบเสมือนน้ำเต็มแก้วอยู่อย่างเดิม.. 

ทำไมมีผู้เล่นดีมากแต่ทีมไม่ประสบความสำเร็จ.!!

ภาพจาก ww.khobsanam.com

                                          ปกติทีมฟุตบอลทุกทีมต้องการมีผู้เล่นที่มีความสามารถดีมากๆอยู่ในทีมเพื่อสร้างผลงานที่ดีหรือเพื่อการชนะเลิศในการแข่งขันรายการต่างๆ แต่บางครั้งก็อาจจะไม่เป็นไปอย่างที่คาดหวัง ซึ่งหลายท่านอาจจะมีความสงสัยคาใจอยู่ ดังนั้นลองวิเคราะห์กันดูว่าทำไมทีมใหญ่ๆที่มีผู้เล่นระดับซุเปอร์สตาร์ของโลกอยู่ในทีมแต่ไม่สามารถสร้างผลงานให้ไปยืนในตำแหน่งแชมป์รายการระดับโลกได้อย่างที่ควรจะเป็น..

                                         ในช่วงนี้อย่างเช่นทีมอาร์เจนติน่าที่มีผู้เล่นซุเปอร์สตาร์ระดับโลกที่ตระเวณไปเล่นให้ทีมสโมสรดังในลีกใหญ่ของประเทศต่างๆ และได้สร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมให้ต้นสังกัดได้อย่างต่อเนื่อง ได้มารวมกันอยู่ในทีมมากมาย อย่างเช่น ลิโอเนล เมสซี , เซอร์ฆิโอ อาเกวโร , ฮิฆัวอิน, อังเฆล ดิ มาริอา, เป็นต้น แต่ไม่สามารถทำผลงานในนามทีมชาติให้ประสพความสำเร็จเป็นแชมป์ในรายการระดับโลกได้เลย...ที่เป็นเช่นนี้น่าจะมาจากสาเหตุต่อไปนี้

ภาพจาก www.critica.com.pa

                                 1. ผู้เล่นที่เด่นมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก ทำให้คู่ต่อสู้ระมัดระวังเป็นพิเศษพยายามเรียนรู้เทคนิคการเล่นและเตรียมการณ์มาอย่างดีในการประกบติดตามและรุมแย่งบอล เพื่อตัดผู้เล่นคนนี้ออกจากเกมให้ได้ เกมของทีมคู่ต่อสู้จะลดศักยภาพลงมาทันที
                                 2. ผู้เล่นที่โดดเด่นในทีมมีหลายคน ถ้าแต่ละตนมีความมั่นใจในตนเองสูงก็จะและเชื่อมั่นในพื่อนร่วมทีมน้อย จะพยายามเดินเกมการเล่นด้วยตัวเองเป็นหลักทำให้การทำงานกับเพื่อนร่วมทีมลดน้อยหรือหายไป
                                 3. ถ้าผู้เล่นที่เด่นแต่มีความเกรงใจเพื่อนร่วมทีมที่เด่นเหมือนๆกันมากเกินไป ก็จะส่งบอลไปให้ผู้เล่นนั้นเสมอ โดยไม่เล่นตามศักยภาพที่ตนเองมี (อย่างเช่น เควิน เดอ บรอยน์ เล่นได้โดดเด่นในทีม แมนเชสเตอร์ซิตี้ เมื่อเล่นทีมชาติร่วมกับ เอเดน อาซาร์ เขาป้อนบอลให้ อาซาร์ มากเกินไปจนทำให้ศักยภาพการเล่นเขาเหมือนผู้เล่นระดับปานกลาง) จะทำให้ทีมมีศักยภาพลดลง
                                 4. ระยะเวลาการรวมตัวของผู้เล่นเหล่านี้เพื่อเล่นในเกมทีมชาติ จะมีเวลาในการรวมตัวฝึกซ้อมร่วมกันน้อยมาก
                                 5. เนื่องมาจากข้อที่ 4 ถ้าไม่มีรูปแบบในการฝึกซ้อมที่สามารถดึงศักยภาพที่ดีที่สุดของผู้เล่นแต่ละคนออกมาเพื่อสร้างความสัมพันธ์ของผู้เล่นและแทกติกการเล่นที่ดีพอ จะยิ่งทำให้ประสิทธิภาพการเล่นของทีมลดลงด้วยเช่นกัน

 ภาพจาก wwwinfobae.com

                                     ดังนั้นผู้เล่นแต่ละคนต้องมีทัศนคติที่ถูกกต้อง โค้ชก็ต้องมียุทธวิธีและรูปแบบในการฝึกซ้อมที่เหมาะสมในการดึงความสามารถของผู้เล่นออกมาให้ได้มากที่สุดและนำมาร่วมเล่นกันอย่างมีความสัมพันธ์ในทีมให้ได้มากที่สุดจึงจะลงปัญหาเหล่านี้ลงไปได้....    

บทบาทหน้าที่ของผู้รักษาประตู

 ภาพจาก www.soccersuck.com

                                   ผู้รักษาประตูถือว่าเป็นด่านสุดท้ายที่มีความสำคัญอย่างมากต่อผลการแข่งขันแพ้หรือชนะของทีม ดังนั้นควรมีลักษณะดังนี้

ภาพจาก www.konruay.com

                                      คุณสมบัติของผู้รักษาประตู

                                       1. ร่างกายสูง มีปฏิกิริยาตอบสนองดี มีความคล่องตัวสูง

                                     2. มีทักษะในการใช้มือป้องกันประตูดี

                                     3. มีจิตใจแข็งแกร่ง กล้าได้กล้าเสีย

                                     4. มีสมาธิ ติดตามเกมการเล่นตลอดเวลา

                                     5. มีทักษะในการใช้เท้าและศรีษะเล่นบอลได้ดี

 ภาพจาก www.dw.com

ภาพจาก www.hugball.net

 ภาพจาก www.dw.com

                                      บทบาทหน้าที่ของผู้รักษาประตู

                                     1. คาดการณ์อ่านเกมการเล่น พร้อมวางแผนการป้องกันประตู

                                     2. สั่งการณ์ เพื่อสร้างความสัมพันธ์การป้องกันร่วมกับกองหลัง

                                     3. บังทิศทาง และปิดมุมการยิงประตู

                                     4. ใช้อวัยวะต่างๆของร่างกายป้องกัน เพื่อไม่ให้ลูกบอลเข้าประตู

                                     5. เปิดเกมรุก เพื่อสร้างความได้เปรียบด้วยมือและเท้า

ภาพจาก www.dailynay adiganta.com

 ภาพจาก www.khaosod.co.th

ภาพจาก www.m.thsport.com

                                      พื้นที่ที่ผู้รักษาประตูรับผิดชอบ

                                     1. บริเวณ 6 หลา และ 18 หลาหน้าประตู

                                     2. บริเวณพื้นที่หน้าเขต 18 หลา หลังแนวกองหลัง (เซ็นเตอร์ตัวสุดท้าย)

                                     3. บริเวณพื้นที่หน้าประตูของคู่ต่อสู้ (ช่วยทำประตูเมื่อมีสกอร์ตามและใกล้จะหมดเวลาการแข่งขัน)
                                   ผู้รักษาประตูที่ดีจะเป็นกำลังสำคัญของทีม ที่จะเสริมให้ทีมมีความแข็งแกร่งสร้างความอุ่นใจให้เพื่อนร่วมทีม และมีส่วนส่งผลการแข่งขันที่ดีให้ทีมทีมอีกด้วย...

บทบาทหน้าที่ของกองหลัง

ภาพจาก www.mirror.co.uk

                                        ผู้เล่นกองหลังมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าผู้เล่นอื่นๆ เพราะเป็นขุมกำลังที่ระมัดระวังป้องกันเพื่อไม่ให้ทีมพ่ายแพ้ บทบาทหน้าที่ของกองหลังมีดังนี้..

                                                                    
                                          คุณสมบัติของผู้เล่นกองหลัง
                                          1. มีร่างกายสูงใหญ่แข็งแกร่ง และมีความเร็ว
                                          2. มีทักษะต่างๆและเล่นบอลกลางอากาศได้ดี
                                       3. มีไหวพริบในการไล่แย่งและสกัดบอลได้ดี
                                       4. มีจิตใจเป็นนักสู้ สามารถเล่นภายใต้สถานะการณ์กดดันได้ดี มุ่งมั่นที่จะป้องกันและต่อสู้แบบไม่ยอมแพ้

                                      

ภาพจาก www.thepuardian.com

                                          บทบาทหน้าที่ของผู้เล่นกองหลัง

 ภาพจาก www.telegraph.co.uk

                                         1. วางแนวรับเพื่อป้องกันการโจมตีจากกองหน้าของฝ่ายรุก
                                         2. วางระบบการป้องกันทั้งการคุมพื้นที่ และการประกบชิดติดตัว
                                      3. บีบพื้นที่ปิดทางการเล่น ไล่เบียดแย่งบอล
                                      4. ทำลายจังหวะ สกัดกันการยิงประตู และตั้งกำแพงป้องกันประตู
                                      5. เปิดบอลไปสู่พื้นที่ปลอดภัย และเปิดเกมรุกแบบโต้สวนกลับเร็ว
                                      6. สนับสนุนเกมรุกบริเวณหน้าประตู เมื่อเล่นลูก Set play

www.football-lineups.com

                                          พื้นที่ที่กองหลังรับผิดชอบ

                                        1. พื้นที่ด้านหน้าแนวเขตโทษ และพื้นที่หน้าประตูของทีมตนเอง

                                        2. พื้นที่ในแดนกลางสนาม เพื่อสนับสนุนเกมรุก

                                        3. พื้นที่หน้าประตูของคู่ต่อสู้ เมื่อกองหลังที่มีความสูงขึ้นไปช่วยทำประตู
                                       

 กองหลังต้องทำหน้าที่สกัดและป้องกันคู่ต่อสู้ไม่ให้มีโอกาสในการโจมตีเพื่อเข้าทำประตูแล้วยังสนับ

 สนุนกองกลางและกองหน้าให้ทำหน้าที่ ในการทำเกมรุกโจมตีคู่ต่อสู้ให้ดีที่สุดอีกด้วย

บทบาทหน้าที่ของผู้เล่นกองกลาง

ภาพจาก www.ikivo.com

                                       กองกลางถือได้ว่าเป็นหัวใจของทีม เป็นผู้ขับเคลื่อนการเล่นทั้งเกมรุกและเกมรับ ดังนั้นผู้เล่นกองกลางจึงต้องมีภาระมากพอสมควร หน้าที่ของผู้เล่นกองกลางจึงมีดั้งนี้

ภาพจาก www.sites.google.com

                                       คุณสมบัติของผู้เล่นกองกลาง
                                       1. มีทักษะการครองบอลดี ส่งบอลได้เร็วแม่นยำ ยิ่งประตูดี
                                       2. มีความแข็งแกร่ง เร็ว ว่องไว วิ่งได้ตลอดเกม
                                       3. มีเทคนิคการเปลี่ยนแกนการเล่น อย่างชาญฉลาดสร้างสรรค์เกมได้ดี
                                       4. มีจิตใจมุ่งมั่นในการเล่นเพื่อชัยชนะ ทั้งเกมรุกและเกมรับ

ภาพจาก www.redkites music.com

                                       บทบาทหน้าที่ของกองกลาง

                                       1. ควบคุมสถานะการณ์เกมทั้งรุกและรับในแดนกลางสนาม

                                       2. สร้างสรรค์เกมรุกผ่านบอลทะลุทะลวงให้กองหน้าในแนวตรงกลางและด้านข้างเข้ายิงประตู

                                       3. สนับสนุนเกมรุกด้วยการเปลี่ยนแกนซ้าย-ขวา เติมเกมขึ้นไปช่วยทำประตูและยิงไกลจากแถวที่สอง

                                       4. สนับสนุนเกมรับลงมาช่วยเกมรับโดยการชลอเกม บีบกระชับปิดพื้นที่ ประกบตัวเบียดไล่แย่ง

 ภาพจาก www.springnews.co.th

                                      
                                       พื้นที่ที่กองกลารับผิดชอบ

                                       1. พื้นที่แดนกลางของสนาม

                                       2. พื้นที่แนวกลางหน้าเขตโทษและด้านข้าง

                                       3. พื้นที่แนวกลางหน้าเขตโทษและด้านข้างหน้าแนวรับของตนเอง

                                    ผู้เล่นกองกลางจึงเปรียบเสมือนห้องเครื่องของทีม ที่ต้องขับเคลื่อนทีมให้ไปในทิศทางใด เพื่อสร้างความได้เปรียบในเกมการเล่นและจะส่งผลให้ทีมประสบความสำเร็จได้ชัยชนะดังนั้นจึงต้องทำงานอย่างหนักตลอดทั้งเกมการแข่งขัน...
                                      
                                       

หน้าที่และเทคนิคการเล่นของปีก

ภาพจาก www.kingfut.com

                                        ในการเล่นเกมรุกจำเป็นต้องเปิดการโจมตีทางด้านข้างผสมกับการโจมตีตรงบริเวณด้านหน้าประตู ดังนั้นผู้เล่นปีกจึงมีความสำคัญ เทคนิคการเล่นของปีกมีดังต่อไปนี้..

                                         คุณสมบัติของผู้เล่นตำแหน่งปีก

 ภาพจาก www.siamsport.co.th

                                         1. มีทักษะในการครองบอล กระชากลากเลี้ยงพาบอลได้ดี
                                         2. มีความเร็วแข็งแกร่งว่องไว
                                       3. มีความสามารถเล่นบอลในพื้นที่แคบได้ดี
                                       4. มีความชำนาญในการยิงประตูจากทางด้านข้าง(มุมแคบ)ของประตู

ภาพจาก www.sport.mthai.com

                                        บทบาทหน้าที่ของผู้เล่นตำแหน่งปีก
                                       1. สร้างเกมรุกบุกโจมตีทางด้านข้าง
                                       2. เปิดบอลจากด้านข้างเข้าหน้าประตูให้กองหน้ายิงประตู
                                       3. สนับสนุนและเติมเกมเพื่อเข้าทำประตู
                                       4. เคลื่อนที่ลงมาช่วยป้องกันเมื่อเป็นฝ่ายรับ 

                                           พื้นที่ที่ปึกรับผิดชอบ 
                                          1. พื้นที่แนวด้านข้างของสนาม.เพื่อเจาะทะลุทะลวงผ่านไปสู่หลังแนวรับ

                                          2. พื้นที่ด้านในแนวด้านหน้าประตู เพื่อสร้างเกมรุกหรือหาโอกาสยิงประตู

 
                                          3. พื้นที่แนวกลางสนามเพื่อช่วยกองกลางเล่นเกมรับ

                                          4. พื้นที่แนวด้านข้างในแดนทีมตัวเอง เพื่อช่วยป้องกันเมื่อเป็นเกมรับ 

                                          หน้าที่ตำแหน่งปีกมีความสำคัญต่อเกมรุกและช่วยสร้างโอกาสในการเข้าทำประตูของกองหน้าให้มีเพิ่มมากยิ่งขึ้น เพราะปีกที่สามารถเจาะทางด้านข้างทะลุผ่านแนวรับเข้าไปได้จะสามารถดึงผู้เล่นกองหลังที่คุมอยู่หน้าประตูให้ออกมาป้องกัน ทำให้แนวรับด้านหน้าประตูเปิดออกมีพื้นที่ว่างให้โจมตีได้มากขึ้นด้วย
                                       เกมการเล่นปัจจุบันผู้เล่นตำแหน่งปีกจะต้องทำงานหนักเพิ่มขึ้นนอกจากต้องสร้างเกมรุกแล้ว ยังต้องเคลื่อนที่กลับลงมาเล่นเกมรับช่วยกองกลางและกองหลังป้องกันเกมรุกของคู่ต่อสู้อีกด้วย ทำให้ทีมมีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น...                                    

หน้าที่และเทคนิคของตำแหน่งกองหน้า..

ภาพจาก www.youtube.com

                                      ตำแหน่งผู้เล่นในทีมทุกๆตำแหน่ง มีความสำคัญต่อผลการแข่งขันของทีมเหมือนๆกัน เพียงแต่บทบาทหน้าที่ในแต่ละตำแหน่งจะมีภาระการทำหน้าที่ที่แตกต่างกัน ดังนั้นแต่ละตำแหน่งจึงมีหน้าที่เฉพาะตัว และต้องทำงานประสานซึ่งกันและกันจึงจะทำให้ทีมมีประสิทธิภาพสูงสุด

                           ตำแหน่งกองหน้า

 ภาพจาก www.dpa-international.com

                                      คุณสมบัติของผู้เล่นกองหน้า..
                                    1. มีทักษะการยิงประตูทั้งลูกเรียดและลูกกลางอากาศด้วยเท้าและศรีษะ
                                    2. มีความแข็งแกร่งและความเร็วสูง
                                  3. มีสัญชาติญาณเพชฌฆาต กระหายและพยายามทำประตูตลอดเวลา

 ภาพจาก www.khaosod.co.th

                                      ตำแหน่งผู้เล่นกองหน้ามีบทบาทหน้าที่ ที่สำคัญต่อทีมดังนี้..
                                    1. สร้างเกมรุกกดดันคู่ต่อสู้
                                  2. สร้างโอกาสการเข้าทำประตู
                                  3. ยิงประตูคู่ต่อสู้ให้ได้ ในทุกครั้งที่มีโอกาส (Finishing)
                                  4. ช่วยDelayชลอการเปิดบอลโต้รุกเร็วจากผู้รักษาประตูและกองหลังเมื่อเสียการครองบอลไป
                                   พื้นที่ที่ผู้เล่นกองหน้ารับผิดชอบ..
                                    1. พื้นที่ในกรอบ 18 หลาเขตโทษหน้าประตูคู่ต่อสู้..เพื่อหาจังหวะยิงประตู

                                    2. พื้นที่หลังแนวรับ ด้านข้างกรอบเขตโทษทั้งสองด้าน..เพื่อหาจังหวะรับบอล แล้วสร้างจัหวะหาโอกาสเข้าทำประตู หรือผ่านบอลให้เพื่อนร่วมทีมยิงประตู

                                  3. พื้นที่หน้ากรอบเขตโทษ..เพื่อเคลื่อนตัวหนีตัวประกบลงมารับบอล หรือดึงคู่ต่อสู้ให้ตามมาเพื่อเปิดพื้นที่ให้เพื่อนร่วมทีมพุ่งเข้าทำประตูในพื้นที่ว่างหน้าประตูแทน

                                  อย่างไรก็ตามผู้เล่นกองหน้าต้องพยายามหาโอกาสจบด้วยการยิงประตูให้ได้ในทุกครั้งที่มีโอกาส เพราะเพื่อนร่วมทีมต้องทำงานหนักในการแย่งบอลกลับมาแล้วลำเลียงบอลมาส่งให้ทำประตู ดังนั้นจึงต้องพยายามทำให้สำเร็จ มิฉะนั้นจะกดดันทำให้เพื่อนร่วมทีมดันขึ้นไปในแดนหน้าเพื่อยิงประตูแทน แต่ถ้าเติมขึ้นไปแล้วยังทำประตูไม่ได้   จะเป็นผลเสียเพราะทรงของทีมที่เป็นแนวรับและตำแหน่งผู้เล่นนั้น จะเสียความสมดุลย์ไป....
                           

ระบบการเล่นสำคัญอย่างไร..

ภาพจาก www.pepperrr.net

                                      หลายคนอาจจะสงสัยว่าทีมของตนควรจะเล่นด้วยระบบการเล่นอย่างไรดี หรือมองเห็นว่าระบบนี้น่าสนใจเพราะเห็นว่ายุคนี้หหลายทีมใช้เล่นกัน...ไม่ว่าจะเป็นระบบ 4:4:2,  4:3:3, 3:5:2,หรือ 4:2:3:1 เป็นต้น

                                        อันที่จริงระบบการเล่นจึงมีความสำคัญอย่างมากต่อทีมดังนี้

                                      1. เป็นรูปแบบในการจัดขุมกำลังผู้เล่นทั้งกองหลังกองกลางและกองหน้า

                                      2. เป็นแนวทางในการกำหนดรูปแบบและแผนการเล่นของทีม

                                      3. เป็นกรอบที่กำหนดในการจัดผู้เล่นที่เหมาะสมลงในตำแหน่งต่างๆ

                                      4. กำหนดแทคติกในการเล่นเฉพาะตัวทั้งเกมรับและเกมรุก รวมถึงการหมุนเวียนตำแหน่งผู้เล่นในเกมการเล่น

                                      5. สร้างความแข็งแกร่งและประสิทธิภาพของทีมอีกด้วย
                                      ระบบการเล่นต่างๆนั้นมีจุดเด่นดีที่แตกต่างกัน..ดังนั้นจึงควรจะเลือกระบบที่เหมาะสมกับทีมมาใช้ ไม่ใช่นำมาใช้เพราะเห็นว่าระบบนี้เกำลังเป็นที่นิยมหรือเพียงแต่คิดว่าชอบระบบนี้เท่านั้น เพราะมันมีรายละเอียดบางประการมากกว่าที่บางคนคิด จึงต้องพิจารณาให้รอบคอบเสียก่อน
                                    ข้อควรคำนึงในการเลือกระบบการเล่นมาใช้
                                    1.โค้ชเข้าใจรูปแบบและแทคติกการเล่นของระบบนั้นดีหรือไม่
                                    2. ผู้เล่นที่มีอยู่ของทีมเหมาะกับระบบนั้นหรือไม่
                                    3. โค้ชสามารถสอนและฝึกแทคติการเล่นระบบนั้นได้ดีหรือไม่
                                    4. ผู้เล่นสามารถเข้าใจแทคติกการเล่นระบบนั้นและนำไปใช้ได้จริงเพียงใด
                                    5. ถ้าผู้เล่นไม่สามารถทำได้ควรพิจารณาระบบที่ผู้เล่นของทีมถนัดจะทำได้ดีกว่า และควรปรับหรือสร้างแทคติกการเล่นเฉพาะทีมให้ชำนาญ เพื่อประสิทธิภาพของทีมทีดีเพิ่มขึ้น

การวิวัฒนาการรูปแบบการเล่นของฟุตบอล

ภาพจาก www.msn.com

                                   รูปแบบการเล่นฟุตบอลมีการพัฒนาเป็นระยะๆตามยุคสมัย รูปแบบการเล่นแต่ละยุคจะสร้างการเล่นที่มีความโดดเด่นจนเป็นความประทับใจและที่สำคัญคือส่งผลให้เกิดความสำเร็จในการแข่งขัน

ภาพจาก  www.amarin TV.com

                                 1.ในยุคแรกของรายการแข่งขันฟุตบอลโลก สมัยนั้นผู้เล่นมีทักษะความสามารถที่ดีในระดับหนึ่ง จะเน้นการเล่นเกมรุกเป็นหลักโดยการส่งบอลไปข้างหน้าเพื่อเข้าทำประตู ทีมที่ประสบความสำเร็จเป็นแชมป์โลกทีมแรกคือทีม อุรุกวัย  ซึ่งจะเน้นการเล่นโดยใช้วิธีเล่น ที่หนักและดุดันเปิดเกมรุกเต็มพิกัด จนได้รับฉายาติดหูว่าเป็นทีมจอมโหด

 ภาพจากก www.gclub899.com

                                2. ยุคต่อมามีการพัฒนารูปแบบวิธึการเล่นที่เป็นรูปแบบมากขึ้น จนถึงยุคที่ทีมบราซิลสร้างความประทับใจ มีวิธีการเล่นแบบใช้ทักษะและเทคนิคการเล่นเฉพาะตัวในการวาดลวดลายการเล่นแบบพลิ้วไหวด้วยลีลาหลบหลีกหลอกล่อ เน้นเล่นโดยใช้ความสามารถเฉพาะตัวเป็นหลัก และจัดผู้เล่นให้เล่นกันอย่างเป็นรูปแบบและมีระบบชัดเจน ช่วงนั้นเล่นได้โดดเด่นด้วยระบบ 4:2:4  จนสร้างผลงานชนะเลิศฟุตบอลโลกได้ถึง 5 สมัย

 ภาพจาก www.hugball.net

                               3. ยุคต่อมาทีมจากทวีปยุโรปพยายามหาเทคนิควิธีและการเล่นแบบใหม่ๆที่จะเอาชนะสไตล์การเล่นที่ทีมบราซิลหรืออเมริกาใต้ใช้อยู่ ซึ่งประเทศเยอรมันนีที่ขึ้นชื่อเรื่องระเบียบวินัยและมีระบบในการทำงานอย่างมาก อีกทั้งเน้นการสร้างสมรรถภาพทางกายให้แข็งแรงอยู่แล้ว ทีมเยอรมันจึงประยุกต์เข้ามาใช้พัฒนาการเล่นให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพราะต้องใช้พละกำลังและความอดทนอย่างมากที่จะไล่ล่ากดดันเพื่อเอาชนะ เทคนิคการเล่นสไตล์ของบราซิล รวมถึงการเล่นที่เป็นระบบมีรูปแบบการเล่นเฉพาะโดยเน้นการเล่นบอลกับพื้น รับส่งบอลแบบเท้าสู่เท้าที่มีความแม่นยำมากขึ้น ซึ่งระบบการเล่นได้ปรับเป็น 4:3:3 และในที่สุดทีมเยอรมัน ก็ประสบความสำเร็จสามารถได้เป็นแชมป์โลกถึง 4 สมัย

ภาพจาก www.jeuxvideo.com

                             4. เทคนิคการเล่นเริ่มมีความหลากหลายออกไป การที่จะเอาชนะคู่แข่งขันจึงเป็นแทคติกและกลยุทธ์ที่แปลกออกไป ทีมอิตาลีก็เป็นมหาอำนาจอีกทีมหนึ่งที่เล่นได้ดุดันและเหนียวแน่นจึงเน้นเกมรับเป็นหลักเลยทำให้เกมการแข่งขันไม่ค่อยตื่นเต้นเร้าใจเพราะเล่นแบบระวังตัวมากเกินไป ระบบการเล่นจึงปรับเป็น 4:4:2 แต่อย่างไรก็ตามเทคนิคแบบนี้ทำให้ทีมอิตาลีสร้างผลงานเป็นแชมป์โลกได้ถึง 4 สมัยเช่นกัน

 ภาพจาก www.es-la.facebook.com

                            5. อันที่จริงระบบการเล่นที่ผ่านๆมาอาจจะมีโค้ชหลายๆทีมนำไปใช้บ้างแล้ว แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จสูงสุด เลยยังไม่เป็นที่ยอมรับ ส่วนในยุคปัจจุบันจึงได้นำระบบการเล่นต่างมาใช้กันตามความเหมาะสมของแต่ละทีม และได้คิดระบบใหม่ๆมาใช้ เช่นระบบ 1:3:3:3 ที่ทีมเนเธอร์แลนด์ โดยเฉพาะ โยฮัน ครัฟ เริ่มนำระบบนี้มาใช้ มีเทคนิคการเล่นแบบ Total ซึ่งไม่จำเป็นต้องเล่นแบบอาศัยผู้เล่นซุเปอร์สตาร์เป็นตัวหลักในการเล่น โดยให้ผู้เล่นเคลื่อนที่หมุนเวียนเปลี่ยนตำแหน่งทดแทนกันในการเล่นทั้งเกมรับและเกมรุก เกมการแข่งขันมีความแปลกใหม่เร้าใจ แต่โชคยังไม่เข้าข้าง ทำให้ทีมเนเธอร์แลนด์ทำผลงานได้แค่รางวัลรองชนะเลิศเท่านั้น ต่อมาโค้ชหลายๆคนพยายามนำเทคนิคนี้ไปใช้เล่นร่วมกับระบบการเล่นใหม่ๆที่คิดขึ้นมา ในปัจจุบันมีระบบการเล่นที่ใช้กันหลากหลายเช่น ระบบ 3:5:2 ระบบ 5:3:2 ระบบ 3:4:2:1 ระบบ 4:3:2:1 เป็นต้น เทคนิควิธีการเล่นใหม่ๆได้ถูกนำมาใช้ จึงทำให้ทีมสเปน และทีมฝรั่งเศสประสบความสำเร็จชนะเลิศเป็นแชมป์โลกได้เช่นกัน ส่วนโค้ชในระดับสโมสรที่นำเทคนิคนี้มาพัฒนาให้เล่นแบบ Combination สร้างผลงานได้ดี ได้แก่โค้ช เป็ป กวาดิโอล่า สามารถทำให้ผู้เล่นในทีมเล่นผสมผสานกันได้อย่างลงตัวจนสร้างความสำเร็จให้กับทีมได้อย่างดี

ภาพจาก www.filgoal.com

ภาพจาก www.pantip.com

                             โค้ชที่ต้องทำหน้าที่คงต้องพิจารณาว่าจะนำระบบการเล่นแบบไหนมาใช้กับทีมและจะพัฒนาผู้เล่นในทีมด้วยเทคนิคและแทคติกการเล่นอย่างไร ให้เหมาะสมกับทีมมากที่สุดเพื่อสร้างผลงานให้ประสบความสำเร็จให้ได้ต่อไป....