โค้ชสำคัญอย่างไรในวงการฟุตบอล
โค้ชเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่่สร้างทีมฟุตบอลให้ประสบความสำเร็จ และช่วยพัฒนานักกีฬาและวงการฟุตบอลให้มีคุณภาพและมาตรฐานที่สูงขึ้น แต่การทำงานของโค้ชบางครั้งยังไม่เป็นที่ถูกใจของผู้ชมหรือผู้ที่เกี่ยวข้อง ดังจะเห็นได้จากคำวิพากษ์วิจารณ์ว่า ทำไมจัดผู้เล่นแบบนี้ เปลี่ยนตัวไม่ถูกต้อง ทำไมไม่เล่นแบบนี้ หรือทำไมจึงฝึกซ้อมแบบนี้เป็นต้น
ผู้วิจารณ์ไม่ได้เป็นผู้ลงมือปฏิบัติ แต่นั่งดูอยู่ด้านนอกอาจจะมีมุมมองที่แตกต่างจากโค้ชที่ฝึกหรือทำหน้าที่อยู่ในขณะนั้นซึ่งจะเข้าทำนองคำพังเพยไทยที่ว่า ทำขนมเบื้องด้วยปาก คือการพูดว่าทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ดูเป็นสิ่งที่ง่าย แต่ถ้าลงมือทำจริงๆมันยากกว่าที่คิด ดังนั้นควรทำใจเป็นกลางคิดได้แต่ไม่ควรวิจารณ์การทำงานของโค้ช เพราะบางที่ผลที่เกิดขึ้นอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีผู้ปกครองบางท่านส่งลูกหลานมาฝึกซ้อม เห็นว่าเด็กของตนได้รับการแนะนำและฝึกไปได้ในระดับหนึ่งแต่ยังไม่ก้าวหน้าดีพอ อย่างที่ผู้ปกครองคิด จึงพยายามให้คำแนะนำเอง โดยบอกให้เด็กทำอย่างนั้นอย่างนี้เพื่อต้องการให้เด็กเล่นได้อย่างที่ต้องการ ซึ่งอาจจะลืมไปว่าการทำอย่างนั้นไปสร้างความกดดันให้เด็กเพิ่มมากขึ้น เพราะวุฒิภาวะและขีดความสามารถของเด็กแต่ละคนไม่เท่ากันเด็กจึงยังไม่สามารถทำทักษะนั้นได้ในช่วงเวลานั้น
โดยปกติแล้วคนส่วนใหญ่ ก่อนที่จะมาทำหน้าที่โค้ชได้นั้น บุคคลนั้นต้องมีความรู้ผ่านการอบรมหลักสูตรการเป็นผู้ฝึกสอนในระดับต่างๆมาก่อน มิใช่ว่าใครอยากเป็นก็เข้าไปทำหน้าที่โค้ชเองเลย เพราะถ้าไม่มีความรู้จริงๆแล้วเมื่อเข้าไปทำหน้าที่จะพบว่ามีปัญหาในขณะที่ทำงานมากมาย แม้ว่าโค้ชที่ผ่านการอบรมมาแล้ว เมื่อเวลาทำงานจริงๆก็มีปัญหาอยู่เช่นกัน แต่ได้นำเอาความรู้ที่มีอยู่มาจัดการกับปัญหานั้นได้อย่างและเหมาะสมถูกต้องมากกว่า นอกจากนั้นแล้วการฝึกซ้อมเพื่อพัฒนาเด็กต้องทำตามลำดับเป็นขั้นเป็นตอน เด็กจึงมีการพัฒนาพื้นฐานความสามรถด้านทักษะได้ครบถ้วน รู้และเข้าใจเทคนิค แท็คติค รวมถึงยุทธวิธีการเล่นได้สมบูรณ์แบบมากที่สุด
ดังนั้นโค้ชจึงเป็นบุคคลสำคัญที่มีส่วนในการพัฒนานักกีฬาและวงการฟุตบอล ปัจจุบัน
โค้ชฟุตบอลในประเทศไทยที่กำหนดไว้ตามระดับมาตรฐานของฟีฟามีหลายระดับ
1. ระดับ T-License
2 .ระดับ C-License
3. ระดับ B-License
4 .ระดับ A-License
หลักสูตรของโค้ชแต่ละระดับจะมีหัวข้อและเนื้อหาที่แตกต่างกัน โดยสาระต่างๆจะมีรายละเอียดที่เพิ่มสูงขึ้นตามลำดับ เพื่อมุ่งพัฒนาขีดความสามารถของนักกีฬาให้ดีขึ้นในทุกๆด้านตามลำดับขั้น ไม่ควรเร่งรีบฝึกแบบข้ามขั้นตอน เพียงหวังจะให้เด็กนั้นชนะในเกมส์การแข่งขั้นเมื่ออยู่ในช่วงวัยเด็ก เพราะถ้ากลุ่มเด็กที่ได้รับการฝึกตามลำดับขั้นจะมีความสามารถด้านทักษะพื้นฐานดีแต่เกมส์การแข่งขันยังไมได้รับการพัฒนาเต็มรู้แบบ จึงทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร แต่เมื่อใดที่เด็กกลุ่มนี้ได้รับการฝึกครบทุกขั้นแล้วพวกเขาเหล่านี้จะมีความสามารถในการเล่นได้สมบูรณ์แบบมากกว่า ผลสุดท้ายเด็กกลุ่มนี้จะมีการพัฒนาและมีขีดความสามารถการเล่นที่สูงและยั่งยืนกว่าเสมอ
ดังนั้นโค้ชจึงเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนานักกีฬาและวงการฟุตบอลอย่างแท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โค้ชในระดับ T-Licensec และ C-License จะเป็นบุคคลที่ควรได้รับคำยกย่องว่าเป็นผู้ที่สำคัญที่สุดในการพัฒนานักกีฬาฟุตบอลมากกว่าโค้ชที่ทำหน้าที่ในระดับที่สูงขึ้นไปอีกเพราะถ้าเด็กไม่ได้รับการฝึกที่ถูกต้องมาแล้ว เมื่อเติบโตขึ้นมาจึงมารับการฝึกแล้วการพัฒนาสามารถทำได้แต่ผลพัฒนาจะมีผลสัมฤทธิ์จะไม่มีสมบูรณ์แบบอย่างที่ควรจะเป็น
ขอเป็นกำลังใจให้กับโค้ชทุกท่านที่ได้ทำหน้าที่ฝึก สอน เด็กๆเพื่อให้มีทักษะพื้นฐานการเล่นฟุตบอลที่ถูกต้อง เพราะถ้าไม่มีพวกท่านทำหน้าที่อันสำคัญยิ่งตรงนี้แล้ว อนาคตจะมีนักกีฬาที่มีความสามารถดีๆ เพื่อเป็นกำลังของชาติไปสร้างผลงานและสร้างชื่อเสียงให้ประเทศชาติได้อย่างไร
สุดยอดครับ
ตอบลบ