ข้อคิด..พิชิตฝัน..(ตอน5)
ภาพจาก กึฬา-Mthai
ภาพจาก กึฬา-Mthai
ด้านผู้ฝึกสอน(โค้ช) หลายคนคิดและเชื่อมั่นในตัวเองว่าสามารถเป็นโค้ชฟุตบอลได้ เพราะมีประสบการณ์ด้านฟุตบอลมามาก เช่นเคยเป็นนักฟุตบอลของสโมสรหรือระดับทีมชาติ เคยศึกษาหาความรู้ ฟังการวิพากษ์วิจารณ์จากผู้บรรยายเกมการแข่งขันฟุตบอลมามาก
หรือแม้แต่เคยผ่านการอบรมการเป็นโค้ช Licence ระดับต่างๆมาแล้วก็ตาม เมื่อทำหน้าที่ผู้ฝึกสอนแล้วใช่ว่าจะประสบผลสำเร็จในการทำงานทุกคน มิเช่นนั้นแล้วโค้ชที่เรียนจบระดับ Pro Liceence มาแล้วทุกคนเมื่อรับงานทำทีม ผลงานน่าจะต้องออกมาดีได้แชมป์หรือไม่ก็ต้องอยู่ในระดับหัวตารางในลีกไม่เกินอันดับที 4 เป็นต้น ซึ่งมีเพียงโค้ชหน้าเดิมๆที่ทำผลงานดีจริงๆเพียงไม่กี่คนเท่านั้น
อย่างไรก็ตามโค้ชที่มีความสามารถดีจะต้องมีบางอย่างพิเศษกว่าคนอื่นๆ ต้องเป็นผู้ที่มีศักยภาพทั้งทางด้านความรู้ มีเทคนิคการฝึก มีความสามารถในการแก้เกมแล้วก็ตาม แต่ยังมีข้อคิดบางอย่างที่น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับโค้ชดังนี้
1.ต้องไฝ่รู้ โค้ชต้องสนใจไข่วคว้าหาความรู้ แนวคิดเกี่ยวกับเทคนิคและวิวัฒนาการการฝึกและการเล่นฟุตบอลแบบใหม่ๆเสมอๆ
2.คิดสร้างสรรค์ โค้ชต้องมีความคิดใหม่ๆ เกี่ยวกับแบบฝึก รูปแบบวิธีการฝึก รูปแบบแทคติกการเล่นต่างๆที่เหมาะสมกับทีม สร้างเสริมความสัมพันธ์ในการเลนของผู้เล่นในทีม และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน
3.คิดต่างอย่างมีระบบ โค้ชต้องกล้าที่จะปรับกระบวนการทั้งด้านความคิด แบบฝึก เทคนิดและแทคติก ยุทธวิธีการเล่นให้แตกต่างออกไปบ้าง ตามความเหมาะสมภายใต้ความเป็นไปได้จริง โดยการประยุกต์ความรู้และวิวัฒนาการณ์ใหม่ๆที่ศึกษานั้นมาใช้ แม้ว่าเป็นสิ่งที่ดีมีผลสำเร็จมาแล้วก็ตาม คนอื่นก็รู้เช่นกัน ซึ่งแนวทางดังกล่าวนี้กำลังจะถูกโค้ชคนอื่นๆหาวิธีการเอาชนะอยู่แล้ว แต่ถ้าเรายึดตามแนวนั้นมาใช้ อาจจะไม่ใช่วิธีการที่ดีที่สุดเพราะเรากำลังตามหลังเทคนิคนั้นไม่น้อยกว่า 4 ปีเพราะเราเลียนแบบที่เข้าเคยสำเร็จแล้วมาใช้ วิธีการเล่นของทีมเราอาจจะไม่ได้เปรียบคู่ต่อสู้เช่นกัน
4.ต้องคาดการณ์ อ่านเกมได้ดี โค้ชต้องมีสัญชาตญาณพิเศษ สามารถเดาใจคู่ต่อสู้ได้ คาดการณ์ว่าคู่ต่อสู้มองทีมเราเป็นอย่างไรมีจุดอ่อนตรงไหน แล้วจะโจมตีทีมเราอย่างไร ดังนั้นเราควรจะเตรียมการป้องกันไว้อย่างไร และเราจะโต้คืนอย่างไร แล้วจึงดำเนินการวางแผนการเล่นแบบแผนที่ 1 แผนที่ 2 หรือแผนที่ 3 เพื่อให้ลูกทีมเล่นต่อไป
ไฝ่รู้/คิดสร้างสรรค์/เห็นต่าง
ภาพจาก Daily Mail
แต่มีโค้ชบางคนที่ผ่านการอบรมโค้ชมาและมีความสามารถเป็นนักฟตบอลระดับชาติเข้ามาทำหน้าที่ผู้ฝึกสอนแล้วสร้างความสำเร็จออกมาได้ดีก็มี
ภาพจาก Kapook.com
ในประเทศไทยมีโค้ชบางท่านที่มีคุณสมบัติแบบ Hybrid เป็นการผสมผสานระหว่างโค้ชกับครูพลศึกษาในคนเดียวกัน ซึ่งโค้ชแบบนี้ได้สร้างผลงานไว้ทั้งในระดับสโมสรและระดับชาติมากแล้วเช่นกันอย่างเช่น อาจารย์ประวิทย์ ไชยสาม อาจารย์อาจหาญ ทรงงามทรัพย์และอาจารย์ชาญวิทย์ ผลชีวินเป็นต้น ซึ่งโค้ชเหล่านี้จะมีความละเอียดอ่อนมีเทคนิคการสอนที่ดี สามารถฝึก สอน และแก้ไขข้อบกพร่องให้นักกีฬาได้อย่างเหมาะสม ใส่ใจดูแลการพัฒนาการและความประพฤติของนักกึฬาอีกด้วย ซึ่งจะเห็นได้ว่านักกีฬาที่ได้ผ่านการฟูกฝักจากโค้ชที่มีลักษณะแบบนี้มา จะให้ความเคารพนับถือและเกรงใจโค้ชเหล่านี้มากทีเดียว ดังนั้นโค้ชกลุ่มนี้ควรจะได้ดูแลนักฟุตบอลระดับเยาวชนตั้งแต่ชุด 14 ปีขึ้นไปถึงชุด 23 ปีน่าจะเป็นผลดีมากที่สุด
ภาพจาก OKNtion
1.ต้องไฝ่รู้ โค้ชต้องสนใจไข่วคว้าหาความรู้ แนวคิดเกี่ยวกับเทคนิคและวิวัฒนาการการฝึกและการเล่นฟุตบอลแบบใหม่ๆเสมอๆ
2.คิดสร้างสรรค์ โค้ชต้องมีความคิดใหม่ๆ เกี่ยวกับแบบฝึก รูปแบบวิธีการฝึก รูปแบบแทคติกการเล่นต่างๆที่เหมาะสมกับทีม สร้างเสริมความสัมพันธ์ในการเลนของผู้เล่นในทีม และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน
3.คิดต่างอย่างมีระบบ โค้ชต้องกล้าที่จะปรับกระบวนการทั้งด้านความคิด แบบฝึก เทคนิดและแทคติก ยุทธวิธีการเล่นให้แตกต่างออกไปบ้าง ตามความเหมาะสมภายใต้ความเป็นไปได้จริง โดยการประยุกต์ความรู้และวิวัฒนาการณ์ใหม่ๆที่ศึกษานั้นมาใช้ แม้ว่าเป็นสิ่งที่ดีมีผลสำเร็จมาแล้วก็ตาม คนอื่นก็รู้เช่นกัน ซึ่งแนวทางดังกล่าวนี้กำลังจะถูกโค้ชคนอื่นๆหาวิธีการเอาชนะอยู่แล้ว แต่ถ้าเรายึดตามแนวนั้นมาใช้ อาจจะไม่ใช่วิธีการที่ดีที่สุดเพราะเรากำลังตามหลังเทคนิคนั้นไม่น้อยกว่า 4 ปีเพราะเราเลียนแบบที่เข้าเคยสำเร็จแล้วมาใช้ วิธีการเล่นของทีมเราอาจจะไม่ได้เปรียบคู่ต่อสู้เช่นกัน
4.ต้องคาดการณ์ อ่านเกมได้ดี โค้ชต้องมีสัญชาตญาณพิเศษ สามารถเดาใจคู่ต่อสู้ได้ คาดการณ์ว่าคู่ต่อสู้มองทีมเราเป็นอย่างไรมีจุดอ่อนตรงไหน แล้วจะโจมตีทีมเราอย่างไร ดังนั้นเราควรจะเตรียมการป้องกันไว้อย่างไร และเราจะโต้คืนอย่างไร แล้วจึงดำเนินการวางแผนการเล่นแบบแผนที่ 1 แผนที่ 2 หรือแผนที่ 3 เพื่อให้ลูกทีมเล่นต่อไป
ไฝ่รู้/คิดสร้างสรรค์/เห็นต่าง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น