วันพุธที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2560



ฝึกทักษะการเล่นเกมรุกให้มีประสิทธิภาพ(ตอนที่ 3)

ภาพจาพ workpointtv.com

                                   ในเกมรุกบางครั้งก็ไม่สามารถเจาะผ่านแนวรับเข้าไปได้ง่ายอย่างที่คิดแม้ว่าใช้เทคนิคการเล่นทางกว้าง และเปิดเกมทะลุทะลวงแล้วก็ตาม ดังนั้นจึงต้องใช้เทคนิคการรุกอย่างอื่นเข้ามาช่วย เทคนิคที่เต้องนำมาใช้ก็คือ การเคลื่อนที่ของผู้เล่น (Mobility) เพื่อทำให้โอกาสในเกมรุกมีเพิ่มมากยิ่งขึ้น  
                                ทำไมผู้เล่นจึงต้องเคลื่อนที่  เพราะปกติก็เคลื่อนที่อยู่แล้ว.?..คำตอบก็คือ..การเคลื่อนที่นั้นต้องเป็นการเคลื่อนที่อย่างมีรูปแบบ เป็นระบบและเหมาะสมกับสถานะการณ์มากที่สุด.. เราสามารถฝึกเทคนิคนี้ได้ดังนี้

 ภาพที่ 1
                               จากภาพที่ 1..ฝึกด้วยเกมลิงชิงบอล 5:3 มีผู้เล่นฝ่ายรุก 5 คน ฝ่ายรับ 3 คน.ในพื้นที่ 10 x 20 หลา โดยฝ่ายรุกต้องพยายามรับ-ส่งบอลกันให้ได้นานที่สุด โดยใช้ทุกวิธีการทั้งส่งทางกว้าง ส่งผ่านแนวกลาง การส่งคืนกลับมาข้างหลังและเปลี่ยนแนวส่งย้อนกลับด้านซ้าย-ขวาหรือส่งข้ามระยะไกล เพื่อไม่ให้เสียการครอบครองบอล

ภาพที่ 2

                                  จากภาพที่ 2..จะเห็นได้ว่าฝ่ายรุกที่กำลังถูกกดดันจากฝ่ายรับ ที่มีผู้เล่น 3 คนเตรียมเข้าแย่งบอลจากฝ่ายรุกหมายเลข 1 เข้าประกบผู้เล่นหมายเลข 2 และมีอีกคนหนึ่งยืนดักอยู่ตรงกลาง(ในภาพที่1)..ดังนั้นฝ่ายรุกต้องพยายามส่งบอลต่อกันโดยฝ่ายรุกหมายเลข 1 ส่งบอลแนวกว้างมาให้หมายเลข 2 แล้วส่งต่อไปถึงหมายเลข 5 ซึ่งฝ่ายรับทั้ง 3 คนต้องเคลื่อนตัวติดตาม แนวป้องกันจะถูกขยายออกไป.... เพื่อสร้างเกมรุกให้หลากหลายแบบ ฝ่ายรุกหมายเลข 4 และ 3 ต้องเคลื่อนที่ไปยังพื้นที่ว่างเพื่อช่วยสนับสนุนการเล่นของหมายเลข 5 ซึ่งจะเห็นได้ว่าหมายเลข 3 เคลื่อนที่เข้ามาช่วยรับบอลตรงกลางแล้วเปิดเกมส่งบอลไปให้หมายเลข 1 ที่เคลื่อนที่ขึ้นไปรับบอลแล้วส่งบอลต่อไปให้ หมายเลข 4 ที่เคลื่อนมาช่วยเล่นได้อีกครั้งหนึ่ง ฝ่ายรับจะป้องกันได้ยากมากขึ้น

ภาพที่ 3
                                                        
                                 จากภาพที่ 3..จะเป็นตัวอย่างแนวทางการเล่นอีกสถานะการณ์หนึ่ง เช่นเมื่อฝ่ายรุกหมายเลข 3 รับบอลได้แล้ว จึงส่งบอลให้หมายเลข 2 ที่เคลื่อนที่มาช่วยแล้วสามารถส่งบอลไปให้หมายเลข 4 หรือหมายเลข 1 ที่เคลื่อนที่มาช่วยได้อีกเช่นกัน
                                  ส่วนในเกมการแข่งขันจริงสามารถนำเอาเทคนิคการเล่นนี้ไปใช้   เพื่อสร้างโอกาสในการโจมตีและเจาะทะลุแนวรับเข้าไปยิงประตูได้มากขึ้น

ภาพที 5

                       จากภาพที่ 5..ฝ่ายรุก 6 คนบุกเข้าโจมตีฝ่ายรับที่มีจำนวนเท่ากัน ซึ่งฝ่ายรับเข้าประกบแบบตัวต่อตัว ฝ่ายรุกจึงโจมตีทางด้านข้างก่อน

ภาพที่ 6

                           จากภาพที่ 6..ฝ่ายรุกโจมตีแนวรับได้ยาก ถ้าผู้เล่นฝ่ายรุกยืนรอรับบอลในตำแหน่งที่ยืนอยู่เดิมของตน ดังนั้นผู้เล่นฝ่ายรุกต้องสร้างโอกาส โดยการเคลื่อนตัวหาที่ว่างและเคลื่อนที่ทดแทนตำแหน่งกัน การเล่นต่อเนื่องมาจากภาพที่ 5..ผู้เล่นฝ่ายรุกหมายเลข 3 เคลื่อนที่หนีตัวประกบลงมารับบอลจากหมายเลข 2 แล้วส่งบอลไปให้ผู้เล่นหมายเลข 5 ที่เคลื่อนที่ขึ้นมาช่วยเล่น ในขณะเดียวกันพื้นที่ด้านหลังของหมายเลข 3 ที่เคลื่อนที่ลงมาจะว่าง ผู้เล่นหมายเลข 4 ต้องเคลื่อนที่ออกไปแทนเพื่อที่จะสร้างโอกาสให้หมายเลข 2 มีช่องทางในการส่งเพิ่มได้อีกช่องทางหนึ่ง แต่การเคลื่อนที่ออกไปด้านหลังหมายเลข 3 แม้ว่าไม่ได้รับบอล ก็สามารถสร้างประโยชน์ให้กับทีมได้ เพราะเป็นการเปิดพื้นที่หน้าประตูให้ว่างมากขึ้น ทำให้ปีกซ้ายหมายเลข 6 วิ่งโฉบเข้ามารับบอลจากการส่งของหมายเลข 5 แล้วพาบอลทะลุผ่านแนวรับเข้าไปยิงประตูได้ง่ายมากขึ้น ซึ่งจะเห็นได้ว่าการโจมตีของฝ่ายรุกเริ่มต้นจากด้านปีกขวา แต่การเคลื่อนที่ของผู้เล่นอย่างมีรูปแบบและสัมพันธ์กัน จะสร้างโอกาสการเจาะทะลุผ่านแนวป้องกันของฝ่ายรับเข้าไปได้ และจบด้วยผู้เล่นจากทางด้านซ้ายมีโอกาสการพาบอลเข้าไปยิงประตูได้เป็นต้น ตัวอย่างนี้เป็นแนวทางการเล่นพื้นฐานสามารถนำไปปรับหรือต่อยอดการเล่นเกมรุกแบบอื่นๆต่อไป ลองนำไปฝึกกันดูนะครับ



                    
































ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น