วันพุธที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2561



ทำไมทีมชาติไทยจึง..ยังประสบความสำเร็จ.!!

ภาพจาก www.alamy.com

                               ความสำเร็จของทีมชาติไทย..เป็นสิ่งที่ชาวไทยกำลังรอคอย อยากให้เกิดขึ้นโดยเร็ว อันที่จริงผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายทั้งผู้บริหารสมาคมฟุตบอลฯ สต้าฟโค้ช นักฟุตบอล ภาครัฐ เอกชน และแฟนคลับ ได้ร่วมด้วยช่วยกันสนับสนุนเพื่อให้ฝันเป็นจริง..
                             เราเคยมองกันว่าทีมชาติไทยมีข้อบกพร่องหลายอย่างทำให้ทีมมีศักยภาพต่ำกว่าชาติอื่นๆในระดับเอเซีย ยุโรป และอเมริกาใต้เป็นต้น ทั้งๆที่ในระดับเยาวชน เด็กไทยได้รับคำชมว่ามีทักษะฟุตบอลที่ดี มีการสร้างประสบการณ์โดยการพัฒนาระบบการแข่งขันยกระดับสู่ลีกอาชีพเต็มตัว ทำให้การพัฒนาด้านความมีระเบียบวินัยที่เคยเป็นปัญหาสำคัญของนักฟุตบอลไทย ซึ่งสามารถทำได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม..
                             อย่างไรก็ตามในการแข่งขันระดับที่สูงขึ้น..ทีมชาติไทย.ยังไม่สามารถก้าวข้ามผ่านไปได้ แต่ก็อยู่ในระดับใกล้เคียงมากแล้ว ทำให้ชาวไทยทุกคนรอลุ้นกันอยู่..
                            แต่ถ้าจะร่วมด้วยช่วยกัน น่าจะมีบางอย่างที่ยังขาดไป จึงทำให้ศักยภาพของทีมชาติไทยยังมาไม่เต็ม ซึ่งทีมไทยน่าจะทำได้ดีมากกว่านี้...การที่ทีมไทยมักจะสดุดในเกมการแข่งขันตั้งแต่ระดับชิงแชมป์เอเซียขึ้นไป..ซึ่งจะเห็นได้จากเกมการเล่นจะไม่สามารถเดินเกมรุก-รับได้ลื่นไหลอย่างที่ต้องการ หรือไม่สามารถทำเกมกดดันได้อย่างต่อเนื่อง การเล่นจึงติดๆขัดๆ ดูอึดอัดไม่สบายใจ
                            ถ้าผู้เล่นสามารถเล่นกันได้อย่างเข้าขาสัมพันธ์กัน เกมการเล่นก็น่าจะทำได้ดีกว่าที่เป็นอยู่...หลายคนน่าจะมองเห็นเช่นเดียวกัน...โดยสต้าฟโค้ชและทีมเทคนิคต้องเตรียมการและวางแผนการฝึกซ้อมให้เป็นระบบ  มีรูปแบบการเล่นในสถานะการณ์ต่างๆที่เป็นของทีมเราเอง อย่างชัดเจน และทำการฝึกซ้อมซ้ำๆบ่อยๆเพื่อสร้างความสัมพันธ์ (Combination) ให้เกิดความชำนาญแล้วเล่นกันได้อย่างเป็นอัตโนมัติ เมื่อเราเห็นว่าจุดบกพร่องอื่นๆสามารถพัฒนาได้บ้างแล้ว ลองดูจุดอ่อนที่ว่านี้อีกอย่าง ซึ่งน่าจะเป็นจุดที่สำคัญในช่วงนี้ จะทำให้ผู้เล่นมีแนวคิดในการเล่นในสถานะการณ์ต่างๆนั้นได้ถูกต้องตรงกัน รู้บทบาทหน้าที่ว่าแต่ละคนจะต้องเคลื่อนที่อย่างไร ไปที่ไหน เมื่อไหร่ แและต้องเล่นกันอย่างไรจึงจะได้เปรียบ ที่สำคัญเมื่อสถานะการณ์เปลี่ยนไป แต่ละคนต้องทำหน้าที่ของตนอย่างไรให้มีความสัมพันธ์กันทั้งเกมรุกและเกมรับเป็นต้น...
                            การเพิ่มศักยภาพด้านนี้จะเสริมให้ทีมชาติไทยสามารถเล่นเกมได้หลากหลาย มีความลื่นไหลสัมพันธ์กันสร้างความกดดันให้กับทีมคู่ต่อสู้ได้มากยิ่งขึ้น และจะส่งผลให้ทีมไทยสามารถก้าวข้ามอุปสรรคไปสู่จุดหมายที่ต้องการได้ไม่ช้า....

วันอังคารที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2561



เซนส์ (sense) ของนักฟุตบอล..!!

ภาพจาก www.khaosod.co.th
 
                                  คงจะเคยได้ยินคำพูดที่ว่า นักฟุตบอลคนนี้เซนส์ดี บางคนเซนส์ไม่ดี..แล้วเราสงสัยบ้างไหมว่าคืออะไร และถ้าจะพัฒนานักฟุตบอลให้มีเซนส์ดีขึ้น จะสามารถทำได้หรือไม่ ?..
                                 คำว่าเซนส์ (sense) หมายถึง..การรับรู้ ความเข้าใจ ประสาทสัมผัส เชาว์ปัญญา หรือความฉลาด ดังนั้นในความหมายที่ว่า นักฟุตบอลคนนี้เซนส์ดี ให้เข้าใจแบบง่ายๆน่าจะเป็นว่า นักฟุตบอลคนนั้นมีทักษะดี มีความเข้าใจการเล่นดี มีเชาว์ปัญญาสามารถเล่นได้อย่างชาญฉลาด...
                                โดยปกติมนุษย์เราจะถูกธรรมชาติโปรแกรมเอาไว้แล้วว่าจะเรียนรู้เพื่อพัฒนาควบคู่กับการเจริญเติบโตอย่างไร แต่ถ้าจะพูดให้เข้าใจง่ายๆน่าจะเป็นดังนี้..
                                 ระบบประสาทที่เกี่ยวข้องกับการรับรู้และการตอบสนองของมนุษย์เป็นกระบวบการทำงานในระดับเซลล์ซึ่งเป็นไปตามธรรมชาติที่ซับซ้อน เราคงไม่ต้องรู้ในรายละเอียดมากเกินไป จะขอกล่าวโดยสรุปเพื่อความเข้าใจดังนี้..ถ้าเราเรียนรู้และฝึกกิจกรรมการเล่นฟุตบอลไปแล้ว ระบบประสาทจะรับรู้และส่งรายละเอียดต่างๆนั้นไปที่สมองส่วนกลาง เพื่อประมวลผลเลือกเฟ้นหาสิ่งที่ดีบันทึกเก็บเอาไว้ และเมื่อใดที่เราอยู่ในสถานะการณ์ที่ต้องการนำทักษะมาใช้ ระบบประสาทจะประมวลผลแล้วสมองที่เก็บข้อมูลจะสรรหาข้อมูลที่เหมาะสมที่สุดส่งผ่านกลับมาให้ร่างกายได้แสดงพฤติกรรมออกมา..ดังนั้นถ้าได้เตรียมการสร้างข้อมูลเพื่อการรับรู้ที่ดีไว้ เวลาที่จะต้องนำออกมาใช้ก็จะทำผลงานได้ดีเช่นกัน..

 ภาพจาก www.youtube.com

                      แนวคิดการฝึกเพื่อพัฒนาเซนส์ให้เกิดขึ้นในนักฟุตบอล..จะขึ้นกับสิ่งต่างๆดังนี้
                            1.ระยะเวลา บางคนมีต้นทุนเชาว์ปัญญาดีจะสามารถเรียนรู้ได้รวดเร็ว ส่วนบางคนมีต้นทุนเชาว์ปัญญาน้อยกว่าอาจจะต้องใช้เวลาในการเรียนรู้มากขึ้น
                             2.เทคนิคการฝึก  กระบวนการฝึกต้องจัดให้ครบทุกด้านทั้งด้านความรู้ในสาระเนื้อหา และความหลากหลายของแบบฝึกกรรมที่เสริมทักษะ เทคนิค และแทคติกในเกมการเล่นที่ถูกต้องในสถานะการณ์ต่างๆ
                             3.ตัวของผู้รับกาฝึก ควรต้องมีความมุ่งมั่นตั้งใจ มีวินัย มีกระบวบกระคิดวิเคราะห์ที่ดี และสามารถสังเคราะห์ เลือกกิจกรรม ที่มีวิธีการเล่นที่ดีมีความเหมาะและสร้างความได้เปรียบในแต่ละสถานะการณ์นั้นออกมาใช้ได้มากที่สุด
                            โดยสรุปโค้ชต้องเตรียมกระบวนการเพื่อพัฒนานักกีฬาของตนให้เหมาะสมตามธรรมชาติการพัฒนาของแต่ละบุคคล อย่างไรก็ตามถ้าได้สร้างความเข้าใจให้เกิดขึ้น ร่วมกับการฝึกปฎิบัติควบคู่กันไป และได้ให้โอกาสทดลองนำไปใช้ในสถานะการณ์ที่เหมือนจริงบ่อยๆแล้ว การพัฒนาเซนส์ในการเล่นฟุตบอลให้เกิดขึ้นในตัวนักกีฬา..สามารถทำได้ไม่ยาก.....

วันอังคารที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2561



วางผู้เล่นให้เป็น..ระบบทีม

ภาพจากก www.esdfanalysis.com
                         การจัดระบบทีมเป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งในเกมการเล่น โดยปกติในการรบ กองทัพต้องจัดรูปแบบกระบวนทัพอย่างเป็นระบบ..เช่น ทัพหน้า ปีกซ้าย ปีกขวา กองหนุน และทัพหลังเพื่อสร้างความสมดุลย์ในกองกำลังเพื่อการรบ การแข่งขันฟุตบอลก็เช่นเดียวทีมก็ต้องจัดขุมกำลังให้สมดุลย์ ดังนั้นจะเห็นได้ว่าแต่ละทีมจะต้องมีขุมกำลังทั้ง กองหลัง กองกลาง กองหน้าเป็นต้น ซึ่งเราจะพบว่าทีมแต่ละทีมจะเลือกการจัดระบบผู้เล่นของทีมหลายอย่าง โดยจัดวางผู้เล่นเป็นขุมกำลังจาก กองหลัง กองกลาง และกองหน้า อย่างเช่น..ระบบ 4:2:4, 4:3:3,  4:4:2,  3:4:3,  3:5:2,  5:3:2, ฯ ซึ่งการจัดวางผู้เล่นในระบบต่างๆนั้นไม่ควรกำหนดเอง หรือเพราะเหตุผลว่าเราชอบระบบนั้นๆ..ในความเป็นจริงโค้ชแต่ละคนต้องพิจารณาว่าทีมของตนเองนั้นควรจะจัดขบวนทัพในระบบการเล่นแบบใดจาก..... 
               ข้อคิด..ดังต่อไป
                      1.ขีดสมรรถนะของนักกีฬาตนเอง
                        - ผู้เล่นแต่ละตำแหน่งมีความสามารถอย่างไร ควรจัดขุมกำลังแบบใดจึงทำให้ทีมมี
                          ความสมดุลย์มากที่สุด
                      2.แทคติกและกลยุทธ์ที่จะใช้
                        - โค้ชอาจจะเน้นแทคติกในการเล่นแบบใด เช่นเน้นเกมรุก เกมรับ หรือเน้นกอง
                           กลางแน่น ก็จัดวางผู้เล่นในระบบที่ต้องการ
                       3.สภาพทีมของคู่ต่อสู้
                       - จากศักยภาพและขีดความสามารถของผู้เล่นของทีมคู่ต่อสู้นั้น เราควรจะจัดขบวน
                         ทัพอย่างไรที่จะต่อสู้ได้ดี มีความสมดุลย์ หรือเสียเปรียบน้อยที่สุด
                      4.ผู้เล่นนั้นเข้าใจและสามารถเล่นระบบนั้นได้ดี
                       - สิ่งที่สำคัญที่สุด พึงระลึกเสมอว่าจะใช้ระบบใดก็ตาม ต้องสร้างให้ผู้เล่นทุกคนมี
                         ความเข้าใจ สามารถเล่นในระบบนั้นได้อย่างสัมพันธ์กันอย่างดี จึงควรจะนำมาใช้
                         เล่น แต่ถ้ายังไม่เข้าใจแล้วนำมาใช้เล่นก็จะทำได้ไม่ดี ถ้าเป็นเช่นนี้ ไม่สมควรนำมา
                         ใช้เล่น เพราะไม่คุ้มกับผลการแข่งขันที่จะเกิดขึ้น..ข้อแนะนำ..ควรใช้ระบบที่ใช้อยู่
                         เดิมน่าจะดีกว่า เพราะผู้เล่นจะไม่กังวลใจ และจะเล่นกันได้สัมพันธ์กันมากกว่า..
                      ตัวอย่างการวางตัวผู้เล่นในระบบต่างๆ..ซึ่งเป็นแบบปกติทั่วไป ที่เคยใช้กันมาแล้วสร้างผลงานที่ดีในรายการแข่งขันระดับโลกมาแล้ว....
             

                        ระบบการเล่นแบบ 3:3:4  แบบนี้จะเน้นที่เกมรุก ซึ่งในทุกๆแบบตำแหน่งการยืนของผู้เล่นแต่ละคนจะเชื่อมโยง ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน จะมีลักษณะคล้ายรูปสามเหลี่ยมเชื่อมต่อกันทุกพื้นที่ เพื่อช่วยเหลือกันและปิดช่องว่างให้มากที่สุด



                        ระบบการเล่นแบบ 3:3:3:1 การเล่นระบบนี้ก็ยังเน้นที่เกมรุก และที่สำคัญผู้เล่นต้องมีเทคนิคการเล่นดี มีความเข้าใจเกมใกล้เคียงกัน เพราะทุกคนต้องสามารถหมุนเวียนสลับตำแหน่งซึ่งกันและกันได้ ทุกส่วนจะช่วยกันเล่นทั้งเกมรุก และเกมรับ


                       ระบบการเล่นแบบ 3:4:3 การเล่นระบบนี้จะเน้นขุมกำลังในแดนกลางเพิ่มมากขึ้น เพื่อครองความได้เปรียบในแดนกลางให้ได้ก่อน แล้วสร้างเกมรุกในโอกาสต่อไป


                        ระบบการเล่นแบบ 4:2:4 การเล่นระบบนี้เน้นเกมรุกเต็มตัว แต่ก็ไม่ประมาทจึงจัดแนวรับไว้ 4 คน และที่สำคัญต้องมั่นใจว่ากองกลางเพียง 2 คนนั้นจะต้องเป็นผู้เล่นที่มีเทคนิคความสามารถในการเล่นสูงกว่าคู่ต่อสู้และมีสมรรถภาพร่างกายเยี่ยมยอดวิ่งไล่ จ่ายบอลและครองแดนกลางได้ดีกว่าแน่นอน                           

                 

                        ระบบการเล่นแบบ 4:3:3 การเล่นจะเน้นความสมดุลย์เพิ่มขึ้นระหว่างแดนกลางและแดนหน้า ส่วนกองหลังก็เน้นปลอดภัยและไม่ประมาท
 
                  
                        ระบบการเล่นแบบ 4:4:2 ระบบการเล่นนี้จะเน้นความปลอดภัยในเกมรับเพิ่มขึ้น จึงจัดขุมกำลังในแดนกลางเพิ่มเป็น 4 คนเพื่อพยายามควบคุมเกมในแดนกลางให้ได้ ก่อนที่คู่ต่อสู้จะหลุดไปสู่กองหลัง และยังสร้างโอกาสในเปิดเกมรุกได้ในโอกาสต่อไป


                       ระบบการเล่นแบบ 3:5:2 ระบบการเล่นนี้จะเน้นการชิงความได้เปรียบในแดนกลางให้ได้มากที่สุด เพื่อทำลายเกมรุกของคู่ต่อสู้ให้ได้ก่อน แล้วจึงสร้างโอกาสในเกมรุกกลับต่อไป


                        ระบบการเล่นแบบ 5:3:2 ระบบการเล่นนี้เน้นความปลอดภัยมากขึ้น โดยจัดผู้เล่นกองหลังไว้ 5 คนแล้วใช้กองกลาง 3 คน เมื่อสามารถคุมแดนหลังไว้ได้แล้วจึง สร้างโอกาสเปิดเกมรุก
กลับต่อไป


                        ระบบการเล่นแบบ 4:5:1 หรือ 5:4:1 ระบบการเล่นนี้จะเน้นความปลอดภัยในการเล่นเกมรับสูงสุด แนวรับทั้งกองกลางและกองหลังจะมีผู้เล่นมากที่สุด และทิ้งกองหน้าไว้เพียงคนเดียว 
ดังนั้นเมื่อตัดบอลได้ต้องใช้วิธีการเล่นเกมรุกกลับแบบการโต้รุกกลับอย่างเร็วเป็นหลัก..เป็นต้น
                        ดังนั้นการจะเลือกใช้ระบบทีมแบบใดมาใช้นั้น ต้องคำนึงถึงองค์ประกอบต่างๆให้ดีเพื่อประสิทธิภาพและความสมดุลย์ของทีม ซึ่งจะส่งผลต่อความสำเร็จของทีมได้ต่อไป ส่วนที่เห็นว่ามีระบบการเล่นอื่นๆที่แตกต่างจากที่นำเสนอเป็นตัวอย่างไปนั้น จะขึ้นอยู่กับแนวคิดของโค้ชแต่ละคนที่คิดและจัดผู้เล่นในแดนต่างๆอย่างไรและใช้กับแทคติกการเล่นในทีมอย่างไร ก็กำหนดระบบขึ้นมาเองได้ สุดท้ายคงต้องดูที่ผลสำเร็จในการเล่นหรือแข่งขันมากกว่า