ช่องทางการเรียนรู้ของมนุษย์กับการพัฒนา
การรับรู้ของมนุษยมีหลายช่องทาง ซึ่งมนุษย์แต่ละคนมีขีดความสามารถการเรียนเพื่อการรับรู้ได้ไม่เหมือนกัน ช่องทางในการเรียนรู้ที่พบเห็นได้แบบง่ายๆน่าจะมีดังนี้
ช่องทางการเรียนรู้ 4 ช่องทาง
1.การเห็น
2.การฟัง
3.การเขียน/จดบันทึก
4.การปฏิบัติ/การฝึก
1.การเรียนรู้จากการมองเห็น บางคนมองเห็นภาพต่างๆแล้วสามารถคิดวิเคราะห์แล้วสรุปผลจากสิ่งที่เห็นนั้นว่ามีคุณค่า แล้วนำไปใช้ได้
1.การเรียนรู้จากการมองเห็น บางคนมองเห็นภาพต่างๆแล้วสามารถคิดวิเคราะห์แล้วสรุปผลจากสิ่งที่เห็นนั้นว่ามีคุณค่า แล้วนำไปใช้ได้
2.การเรียนรู้จากการฟัง บางคนเมื่อได้ยินหรือรับฟังสิ่งต่างๆแล้วสามารถคิดวิเคราะห์แล้วสรุปผลข้อมูลจากสิ่งที่ได้ยินนั้นว่ามีคุณค่า แล้วนำไปใช้ได้
3.การเรียนรู้จากการการเขียนหรือการจดบันทึก บางคนต้องขีดเขียนบันทึกไว้แล้วนำกลับมาทบทวนแล้วสามารถเข้าใจถึงคุณค่า และนำไปใช้ได้
4.การเรียนรู้จากการปฏิบัติ บางคนลงมือฝึกหรือปฏิบัติ แล้วจึงเกิดความเข้าใจคุณค่า และนำไปใช้ได้
จะเห็นได้ว่ามนุษย์เราสามารถเรียนรู้ผ่านช่องทางต่างๆได้หลายช่องทาง ขึ้นอยู่กับสัญชาตญาณของแต่ละบุคคล ที่จะมีความถนัดกับช่องทางใดมากที่สุด
ถ้าเราจะต้องฝึกหรือสอนให้กับผู้เรียนหรือนักกีฬาก็ต้องสังเกตุว่าแต่ละคนนั้นมีคาวมถนัดในช่องทางใดก็ส่งผ่านในช่องทางนั้นจะทำให้การเรียนรู้เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว แต่ถ้าต้องฝึกหรือสอนให้กับสมาชิกเป็นกลุ่มหรือทีม..อาจจะต้องใช้วิธีการผ่านทั้ง 4 ช่องทางนั้นเพราะแต่ละคนมีความแตกต่างกัน อย่างไรก็ตามทั้ง 4 ช่องทางนั้นจะช่วยสนับสนุนส่งเสริมซึ่งกันและกันช่วยให้การเรียนรู้สำเร็จ รู้และเข้าใจได้ง่ายมากขึ้น ซึ่งกระบวนการฝึกสอนฟุตบอลเราจึงควรทำเป็นขั้นตอน
ขั้นตอนการฝึกควรมีดังนี้
1.ขั้นอธิบาย..โดยบอกถึงจุดประสงค์ในการฝึกนั้น วิธีและขั้นตอนการฝึกในแบบฝึกนั้น
2.ขั้นสาธิต..โดยการแนะนำวิธีปฏิบัติตามลำดับขั้นตอน ทีละขั้นที่ถูกต้ออย่างช้าๆ แบบปิดจังหวะแล้วจึงทำแบบต่อเนื่องเปิดจังหะต่อไป
3.ขั้นปฏิบัติ..โดยให้นักกีฬาลงมือทำการฝึกตามขั้นตอนที่ถูกต้องทีละขั้น
4.ขั้นการฝึกด้วยเกม..โดยจัดเกมการฝึกทั้งแบบสนามเล็กหรือแบบเต็มสนาม แต่แบบการเล่นควรเน้นให้สอดคล้องกับเนื้อหาตามจุดประสงค์ของการฝึกในวันนั้น ที่สำคัญควรจัดกิจกรรมเน้นความสนุก หรือกิจกรรมที่ท้าทาย
5.ขั้นการปรับปรุงแก้ไข..เมื่อมีข้อผิดพลาดควรสั่งให้หยุด แล้วป้อนคำถามให้คิดทบทวนว่ามีความผิดพลาดที่จุดใดและควรจะแก้ไขอย่างไร แล้วจึงอธิบายสิ่งที่ถูกต้องให้และให้ฝึกทำซ้ำๆจนสามารถทำได้
6.ขั้นสรุป..การสังเกตูและประเมินผลกิจกรรมการฝึกโดยเทียบกับเกณฑ์ที่โค้ชกำหนดไว้ซึ่งต้องเป็นไปตามจุดประสงค์ที่มีอยู่ แล้วนำสรุปผลการปฏิบัติมาชี้แจง รวมทั้งเน้นย้ำที่จุด Coaching Point เพื่อทบทวนความเข้าใจและเป็นแรงผลัดดันให้นักกีฬาตั้งใจพัฒนามากขึ้นอีกด้วย
สิ่งเล็กๆที่โค้ชไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นกระบวนการที่จำเป็นในการพัฒนาขีดความสามารถให้เกิดขึันในตัวของนักกีฬา ซึ่งรวมถึงการมีความรู้ความเข้าใจและสามารถนำไปใช้ได้อย่างถูกต้องเหมาะสมกันสถานะการณ์ต่างๆในการเล่นได้มากที่สุด....
3.การเรียนรู้จากการการเขียนหรือการจดบันทึก บางคนต้องขีดเขียนบันทึกไว้แล้วนำกลับมาทบทวนแล้วสามารถเข้าใจถึงคุณค่า และนำไปใช้ได้
4.การเรียนรู้จากการปฏิบัติ บางคนลงมือฝึกหรือปฏิบัติ แล้วจึงเกิดความเข้าใจคุณค่า และนำไปใช้ได้
จะเห็นได้ว่ามนุษย์เราสามารถเรียนรู้ผ่านช่องทางต่างๆได้หลายช่องทาง ขึ้นอยู่กับสัญชาตญาณของแต่ละบุคคล ที่จะมีความถนัดกับช่องทางใดมากที่สุด
ถ้าเราจะต้องฝึกหรือสอนให้กับผู้เรียนหรือนักกีฬาก็ต้องสังเกตุว่าแต่ละคนนั้นมีคาวมถนัดในช่องทางใดก็ส่งผ่านในช่องทางนั้นจะทำให้การเรียนรู้เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว แต่ถ้าต้องฝึกหรือสอนให้กับสมาชิกเป็นกลุ่มหรือทีม..อาจจะต้องใช้วิธีการผ่านทั้ง 4 ช่องทางนั้นเพราะแต่ละคนมีความแตกต่างกัน อย่างไรก็ตามทั้ง 4 ช่องทางนั้นจะช่วยสนับสนุนส่งเสริมซึ่งกันและกันช่วยให้การเรียนรู้สำเร็จ รู้และเข้าใจได้ง่ายมากขึ้น ซึ่งกระบวนการฝึกสอนฟุตบอลเราจึงควรทำเป็นขั้นตอน
ภาพจาก www.knowhowsoccer.com
1.ขั้นอธิบาย..โดยบอกถึงจุดประสงค์ในการฝึกนั้น วิธีและขั้นตอนการฝึกในแบบฝึกนั้น
2.ขั้นสาธิต..โดยการแนะนำวิธีปฏิบัติตามลำดับขั้นตอน ทีละขั้นที่ถูกต้ออย่างช้าๆ แบบปิดจังหวะแล้วจึงทำแบบต่อเนื่องเปิดจังหะต่อไป
3.ขั้นปฏิบัติ..โดยให้นักกีฬาลงมือทำการฝึกตามขั้นตอนที่ถูกต้องทีละขั้น
4.ขั้นการฝึกด้วยเกม..โดยจัดเกมการฝึกทั้งแบบสนามเล็กหรือแบบเต็มสนาม แต่แบบการเล่นควรเน้นให้สอดคล้องกับเนื้อหาตามจุดประสงค์ของการฝึกในวันนั้น ที่สำคัญควรจัดกิจกรรมเน้นความสนุก หรือกิจกรรมที่ท้าทาย
5.ขั้นการปรับปรุงแก้ไข..เมื่อมีข้อผิดพลาดควรสั่งให้หยุด แล้วป้อนคำถามให้คิดทบทวนว่ามีความผิดพลาดที่จุดใดและควรจะแก้ไขอย่างไร แล้วจึงอธิบายสิ่งที่ถูกต้องให้และให้ฝึกทำซ้ำๆจนสามารถทำได้
6.ขั้นสรุป..การสังเกตูและประเมินผลกิจกรรมการฝึกโดยเทียบกับเกณฑ์ที่โค้ชกำหนดไว้ซึ่งต้องเป็นไปตามจุดประสงค์ที่มีอยู่ แล้วนำสรุปผลการปฏิบัติมาชี้แจง รวมทั้งเน้นย้ำที่จุด Coaching Point เพื่อทบทวนความเข้าใจและเป็นแรงผลัดดันให้นักกีฬาตั้งใจพัฒนามากขึ้นอีกด้วย
สิ่งเล็กๆที่โค้ชไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นกระบวนการที่จำเป็นในการพัฒนาขีดความสามารถให้เกิดขึันในตัวของนักกีฬา ซึ่งรวมถึงการมีความรู้ความเข้าใจและสามารถนำไปใช้ได้อย่างถูกต้องเหมาะสมกันสถานะการณ์ต่างๆในการเล่นได้มากที่สุด....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น