วันพฤหัสบดีที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2561



ทำอย่างไรจะพัฒนฟุตบอลไทยให้ไปไกลได้อย่างที่ฝัน..!! (ตอนที่ 6)

ภาพจาก www.auroraetthor.com
                                   ข้อคิดเห็นต่อจากตอนที่แล้ว
                                   การดำเนินการด้านการสร้างเสริมประสบการณ์..เป็นกิจกรรมที่จำเป็นเพื่อการประเมินผลการพัฒนาในสถานะการณ์จริง ข้อบกพร่องที่พบจะได้ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขให้เกิดความเหมาะสมและพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังสร้างความมั่นใจให้เกิดขึ้นในตัวของนักกีฬา ซึ่งแต่ละคนจะรู้ขีดความสามารถของตน และต้องพยายามพัฒนาศักยภาพเพื่อแข่งกับนักกีฬาคนอื่นๆอีกด้วย..
                                การเข้าร่วมการแข่งขันในรายการต่างๆ   เป็นแนวทางในการสร้างเสริมประสบการณ์ให้กับนักฟุตบอลที่ดีที่สุด แต่ควรวางแผนการเข้าร่วมการแข่งขันให้เหมาะสมจึงจะเกิดประโยชน์ ดังนั้นสมาคมฟุตบอลฯควรจะนำรายการแข่งขันฟุตบอลที่มีอยู่ในปัจจุบันมาพิจารณาจัดระบบระเบียบเป็นแผนแม่บทเพื่อการพัฒนา บางรายการไม่สมควรอนุญาตให้นักฟุตบอลที่อยู่ในแผนพัฒนาของสมาคมไปลงแข่งขันเพราะจะเกิดการบาดเจ็บขึ้นได้ง่ายไม่เกิดผลดีตามแผนพัฒนาที่ตั้งไว้..

 ภาพจาก www.ipe.ac.th

                                แนวคิด..แบบจำลองของแผนพัฒนาต้นแบบ อย่างง่ายๆที่สะดวกและใช้งบประมาณแบบประหยัดได้ดังต่อไปนี้..โดยสมาคมฟุตบอลฯทำโครงการความร่วมมือพัฒนานักฟุตบอลระดับความเป็นเลิศกับสถาบันการพลศึกษา(ในอนาคตอาจจะเป็นมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ) เพราะสถาบันการพลศึกษาเป็นหน่วยงานของรัฐ มีหน้าที่จัดการศึกษาและพัฒนานักกีฬาของชาติอยู่แล้ว โดยมีสถานศึกษาในการดูแล คือโรงเรียนกีฬา 11 แห่ง(จะเปิดเพิ่มอีก 2 แห่ง) และสถาบันการพลศึกษาอีก 17 วิทยาเขต ครอบคลุมพื้นที่ครบทุกภาคทั่วประเทศไทย เปรียบเสมือนสมาคมฟุตบอลฯ มีศูนย์พัฒนาศักยภาพนักฟุตบอลครบทุกภาคพร้อมเสร็จ

 ภาพจาก www.ipemk.ac.th

                                วิธีดำเนินการ..
                                1.สมาคมฟุตบอลฯ ส่งแมวมองและกรรมการคัดเลือกเด็กที่มีความสามรถดีเข้าร่วมโครงการ และส่งเข้าศึกษาในสถานศึกษาที่กำหนด
                                2.สถานศึกษาในสังกัดสถาบันการพลศึกษา จัดการศึกษาให้ในทุกระดับ และดำเนินการฝึกซ้อมเพื่อพัฒนาศักยภาพของนักฟุตบอล ตามรูปแบบและกรอบที่สมาคมกำหนด..

 ภาพจาก www.ipesports.ipe.ac.th

                                3.สมาคมฟุตบอลฯ วางแผนและจัดการแข่งขันในแต่ละรุ่นอายุเช่นรุ่น U-10, U-12, U-14, U-16, U-18, ในโรงเรียนกีฬา ส่วนสถาบันพลศึกษาวิทยาเขตต่าง ดูแลรุ่น
U-20, U-22  โดยจัดแข่งแบบทัวร์นาเม้นท์ 4 ครั้งต่อปี หรือจัดแข่งขันแบบลีก..ถ้ามีงบประมาณสนับสนุนให้อย่างเพียงพอ
                                4.สมาคมฟุตบอลฯ คัดนักฟุตบอลระดับหัวกระทิไปพัฒนาเพิ่มเติม ดังนั้นจะมีนักฟุตบอลแต่ละตำแหน่งไว้ในมือไม่น้อยกว่า 10 คน ซึ่งระดับความสามารถใช้ทดแทนกันได้ เพื่อนำมาใช้งานในนามทีมชาติต่อไป หรือมีทีมแต่ละระดับที่คุณภาพดีไว้ใช้ 3-4 ทีม
                                สมาคมฟุตบอลอาจจะทำความร่วมมือจากส่วนอื่นที่เหมาะสมได้อีก ตามที่เห็นสมควรเป็นต้น............. 

วันจันทร์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2561



ทำอย่างไรจะพัฒนาฟุตบอลไทยให้ไปไกลได้อย่างที่ฝัน..!! (ตอนที่ 5)

ภาพจาก www.thaibev.com

                                ข้อคิดเห็นต่อจากตอนที่แล้ว
                                 การดำเนินการด้านแหล่งทรัพย์กรบุคคล..ในที่นี้จะขอกล่าวบุคคล 3 กลุ่ม
ที่ถือได้ว่าเป็นทัพยากรที่สำคัญที่ต้องใช้ในการพัฒนาฟุตบอลของไทยให้ก้าวไปได้อย่างที่ฝัน

 ภาพจาก www.tessaban-phangkhon.blogspot

                               1.คูรและอาจารย์ในสถานศึกษา...จะดูแลให้ความรู้วิทยาการต่างๆกับนักเรียน นักศักษาเป็นจำนวนมาก ถ้าเขาเหล่านี้ผ่านการอบรมการเป็นผู้ฝึกสอนทั้งมาตรฐานของสมาคมฟุตบอลฯ หรือของ AFC จะเป็นกำลังสำคัญในการปูพื้นฐานด้านทักษะ เทคนิคและเกมการเล่นที่ถูกต้องให้กับกลุ่มนักเรียน นักศึกษาทั่วไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งถือได้ว่าเป็นการพัฒนาในระดับกลุ่มมวลชน ผลจากการปูพื้นฐานนี้จะทำให้มีทรัพยากรบุคคล กลุ่มใหญ่ที่สนใจและมีพื้นฐานที่ถูกต้องและดี และจะมีหลายๆคนที่ฉายแววนักฟุตบอลที่เก่งโดดเด่นออกมาให้เห็นเป็นจำนวนมากเช่นกัน ซึ่งควรได้รับการพัฒนาต่อยอดต่อไป..

 ภาพจาก www.khaosod.co.th

                               2.ผู้ฝึกสอน...ที่ผ่านการอบรมตามมาตรฐานของ AFC หรือ FIFA บุคคลเหล่านี้ที่ประจำอยู่ตามอะคาเดมี สโมสร และศูนย์พัฒนาศักยภาพนักกีฬาของสมาคมฟุตบอลฯ จะมีบทบาทที่สำคัญ ที่ทำหน้าที่คัดกรองเอาเด็กที่ฉายแววมาจากสถานศึกษา นำมาบ่มเพาะขัดเกลา สร้างเสริมวิทยายุทธ์ในด้านเทคนิค แทคติก ระบบการเล่น ยุทธวิธีการเล่น ความเข้าใจเกมการเล่น และพัฒนาสมรรถภาพทางกายทุกด้าน ทั้งด้าน ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ความอดทนของร่างกาย ความเร็วในการเคลื่อนที่ ความคล่องแคล้วว่องไวในการเปลียนทิศทาง พลังแรงของกล้ามเนื้อ ความเร็วและความอดทน ให้มีความสมบูรณ์เพิ่มขึ้นเหมาะสมตามวัย ในส่วนนี้จะคัดกรองนักฟุตบอลในระดับหัวกระทิที่มาจากนักฟุตบอลที่มีความสามารถดีมากออกมาเป็นนักกีฬาทีมชาติที่แข็งแกร่งได้ต่อไป



 ภาพจาก wwww.siamrath.co.th

                                3.กลุ่มเด็กและเยาวชน...พวกเขาเหล่านี้มีจำนวนมาก จะไม่ได้เป็นทรัพย์กรบุคคลที่เป็นประโยชน์ในวงการฟุตบอลไทยเลย ถ้าไม่ได้ผ่านการบ่มเพาะ ขัดเกลา และสร้างเสริมด้านทักษะ เทคนิค แทคติกฯ ต่างๆจากบุคคลในกลุ่มที่ 1 และกลุ่มที่ 2 มาก่อน ทุกอย่างจะเกิดขึ้นได้ต้องมีการดำเนินการอย่างเป็นระบบ ต่อเนื่องและสัมพันธ์กัน..
                                ปัญหาที่ทีมชาติพบเจอว่า..นักฟุตบอลตัวเก่งอีกจำนวน 3-5 คนไม่สามารถไปร่วมทีมแข่งขันในรายการสำคัญๆ ทำให้ทีมทำผลงานได้ไม่ดี ถ้าได้ดำเนินตามแนวทางข้างต้นปัญหานี้จะหมดไป เพราะสมาคมฟุตบอลฯเตรียมแผนการสร้างและพัฒนานักฟุตบอลความสามารถดีเยี่ยมในแต่ละระดับอายุเอาไว้จำนวนมาก อย่างน้อยเด็กหัวกระทิแต่ละกลุ่มจะมีไม่น้อยกว่า100 คนไว้เป็นตัวตายตัวแทนเอาไว้เลือกใช้ในรายการต่างสิ่งที่ดีต่อสมาคมฟุตบอลฯ
คือ..นักฟุตบอลที่เก่งทุกคนจะต้องกระตือรือร้น เตรียมตัวให้พร้อมพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา เพราะต้องแข่งขันกับคนอื่นๆ และสมาคมฟุตบอลฯสามารถเลือกนักฟุตบอลฝีเท้าดีใช้จะได้ไม่ขาดแคลน..ลักษณะเช่นนี้ประเทศอื่นๆเขาได้ดำเนินการมานานแล้ว ดูอย่างเพื่อนบ้านในเอเซียเช่นประเทศเกาหลี และญี่ปุ่น  จะเห็นได้ว่าเขาส่งนักฟุตบอลเข้าร่วมแข่งขันในรายการต่างๆส่วนใหญ่จะเป็นนักกีฬาหน้าใหม่ๆแต่มีซ้ำเดิมบ้างเพียงคนสองคนเท่านั้น แต่ทีมที่ส่งมาสามารถทำผลงานได้ดีทุกชุด เด็กหน้าใหม่ๆนั้นจะได้มีประสบการณ์ในรายการแข่งขันระดับนานาชาติและได้สร้างความมั่นใจเพิ่มขึ้นอีกด้วย......


ทำอย่างไรจะพัฒนาฟุตบอลไทยให้ไปไกลได้อย่างที่ฝัน..!! (ตอนที่ 4)

 ภาพจาก www.smmsport.com

                                  ข้อคิดเห็นต่อจากตอนที่แล้ว
                               การดำเนินการด้านระบบการฝึกและรูปแบบการเล่น โค้ชหลายคน เข้าใจการฝึกเพื่อพัฒนายังไม่ถูกต้อง ส่วนใหญ่จะฝึกเด็กแบบเร่งรัดและเน้นฝึกเล่นทีม 11 คน เพื่อจะได้ทำผลงานดีในการแข่งขัน ซึ่งทำให้เด็กก้าวกระโดดเร็วเกินไป พื้นฐานเด็กจะไม่แน่น ความเข้าใจเกมรุก เกมรับ และการรับผิดชอบในหน้าที่จะทำได้ไม่ดี 



 ภาพจาก www.ball2night.com
                              FIFA ได้จัดหลักสูตรอบรมผู้ฝึกสอนหลายระดับ โดยแต่ละหลักสูตรจะพัฒนาเด็กแต่ระดับให้สอดคล้องกับการพัฒนาในแต่ละวุฒิภาวะของเด็กแต่ละวัย แม้ว่าจะเร่งให้เด็กทำทักษะหรือกิจกรรมที่เกินวุฒิภาวะของเด็กวัยนั้นไป เด็กจะไม่สามารถเรียนรู้หรือทำกิจกรรมต่างๆนั้นได้ดีเต็มศักยภาพ อาจจะเกิดผลในทางลบ คือเด็กจะคุ้นเคยทักษะหรือกิจกรรมดังกล่าวเมื่อโตขึ้นไปได้รับการฝึกกิจกรรมตามระดับอายุปัจจุบันก็จะพบทักษะหรือกิจกรรมที่เคยถูกฝึกมาก่อนหน้าแล้ว จึงทำให้เกิดความเบื่อหน่ายไม่ตั้งใจในการฝึกซ้อม ทักษะพื้นฐานของเด็กกลุ่มนี้จึงไม่ดีพอเมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ ผลการแข่งขันจึงไม่ดีตามไปด้วย

 ภาพจาก www.fm-thai.com
                            ดังนั้นการฝึกต้องกระทำอย่างเป็นระบบ ถูกต้องไม่ข้ามขั้น เพื่อพัฒนาในทุกทักษะจนเกิดความชำนาญและเรียนรู้เทคนิค แทคติก ระบบทีมและยุทธวิธีการเล่นแบบต่างๆจนครบ จะทำให้เด็กเติบโตขึ้นมาพร้อมกับมีทักษะ ความสามารถที่ดีในระดับมาตรฐานสากลและมีศักยภาพดีพอที่จะเข้าไปต่อสู้กับประเทศอื่นในเวทีระดับโลกได้

 ภาพจาก www.fpsthailand.com

                           ด้านรูปแบบการเล่น ควรพิจารณาเลือกให้เหมาะสมกับสรีระและบุคลิกของคนไทยและควรเน้นที่แทคติกการเล่น เช่นเล่นบอลกับพื้น ส่งบอลเท้าสู่เท้าอย่างรวดเร็วและแม่นยำ ที่สำคัญโค้ชต้องทำแผนการฝึกพัฒนาด้วยรูปแบบและระบบการเล่นที่ให้นักกีฬารู้และเข้าใจเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันสามารถเล่นด้วยกันได้ อย่างมีความสัมพันธ์กันในทุกๆสถานะการณ์(Combination)..ถ้าสามารถทำได้เช่นนี้แฟนคลับสายเลือดไทยทุกคนจะได้ชมและเชียร์ฟุตบอลทีมชาติไทยได้สนุกถูกใจ ไม่น่าเบื่อไม่เสียอารมณ์อีกต่อไป....

 ภาพจาก www.sport,snook.com

วันอาทิตย์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2561



ทำอย่างไรจะพัฒนาฟุตบอลไทยให้ไปไกลได้อย่างที่ฝัน..!! (ตอนที่ 3)

ภาพจาก www.youtube.com

                               ข้อคิดเห็นต่อจากตอนที่แล้ว...
                                2.การดำเนินการด้านยุทธศาสตร์การพัฒนา..ควรกำหนดการพัฒนาดังนี้
                               2.1 พัฒนาผู้ฝึกสอน
                               2.2 พัฒนาผู้ตัดสิน
                               2.3 พัฒนาครู
                               2.4 พัฒนาเด็กและนักฟุตบอล
                               2.5 พัฒนาระบบการจัดการแข่งขัน 
                               2.6 พัฒนาศักยภาพของนักฟุตบอลทีมชาติ

 ภาพจาก www.isport.co.th
                           การพัฒนาผู้ฝึกสอน..จัดการอบรมผู้ฝึกสอนให้มีคุณภาพในทุกระดับตามมาตรฐานของ AFC หรือ FIFA ให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการปูพื้นฐานและพัฒนาเด็กในส่วนภูมิภาคให้มีทักษะความสามารถตามมาตรฐานสากล

 ภาพจาก www.goal.com
                          การพัฒนาผู้ตัดสิน...จัดการอบรมผู้ตัดสินให้มีความรู้ความสามารถ ตัดสินได้ดีตามมาตรฐาน และเพียงพอครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ เพราะจะได้ทำหน้าที่ตัดสินในเกมการแข่งขันในรายการต่างๆ เพื่อสนับสนุนประสบการณ์ด้านเกมการแข่งขันและช่วยพัฒนาเกมการเล่นของนักกีฬาให้เล่นอยู่ในกรอบของกฏกติกาให้อย่างเหมาะสม

ภาพจาก www.oknation.nationtv.tv

                          การพัฒนาครู...ควรจัดการอบรมความรู้ด้านผู้ฝึกสอนให้ครูในโรงเรียนด้วย เพราะเด็กส่วนใหญ่อยู่ในระบบการศึกษา แม้ว่าครูส่วนใหญ๋ไม่มีโอกาสได้อบรมตามหลักสูตรของ AFC แต่พวกเขาต้องสอนเด็กในโรงเรียน อาจจะจัดอบรมด้วยหลักสูตรของสมาคมฟุตบอลฯซึ่งเป็นมาตรฐานของไทย อย่างเช่นในหลักสูตรที่กรมพลศึกษาจัดทำขึ้น  ตั้งแต่ระดับ T-Licence ขึ้นไป  เมื่อครูมีความรู้ก็จะปูพื้นฐานการเล่นฟุตบอลที่ถูกต้องให้ เด็กจะได้มีทักษะที่ดีเพิ่มจำนวนมาก ซึ่งจะง่ายในการต่อยอดการพัฒนาต่อไป

 ภาพจาก www.vachiralai.ac.th

                         การพัฒนาเด็กและนักฟุตบอล...การพัฒนาเด็กและนักฟุตบอลควรจัดการพัฒนาตามวุฒิภาวะของเด็กในวัยต่างๆอย่างเหมาะสม ไม่ควรเร่งหรือข้ามขั้นตอนไปเน้นที่เล่นทีม เพราะเด็กจะยังขาดความรู้ความเข้าใจขาดความชำนาญในอีกหลายๆเรื่อง ทำให้เมื่อเติบโตขึ้นเขาจะมีขีดจำกัดในการเล่นอย่างที่เห็นในปัจจุบัน เช่น..กลุ่มเด็กอายุ 10-13 ปีควรเน้นทักษะพื้นฐาน การจับ รับ-ส่ง โหม่ง เลี้ยง ยิงประตู ฝึกให้เก่งถึงขั้นชำนาญ ส่วนการลงเกมเล่นทีมควรฝึกด้วยทีมเล็กๆ(Small Size Games) 3:3, 5:5, 7:7, เพราะฝึกแบบทีมเล็กเด็กจะมีโอกาสได้เล่นหรือสัมผัสบอลบ่อยๆ ได้ใช้ทักษะมากขึ้น มีความคิดสร้างสรรค์กับเกมการเล่น และที่สำคัญต้องเข้าใจเกมการรุกและเกมรับติดตัวไป ดังนั้นเมื่อเสียการครองบอลไปจะต้องถอยกับลงมาป้องกันทันทีเหมีอนเป็นอัตโนมัติ...ส่วนกลุ่มเด็กอายุ 14-16 ปีฝึกพัฒนาเทคนิคต่างๆในระดับที่สูงขึ้น ฝึกลงทีมแบบ 7:7, 9:9, 11:11, พัฒนาแทคติกการรุก-การรับ การเล่นเฉพาะตำแหน่ง และระบบในการเล่นทีมปกติ ส่วนรุ่นอื่นที่สูงขึ้นไปควรพัฒนาแทคติกอื่นๆที่จำเป็นและเสริมประสบการณ์โดยการแข่งขันในรายการต่างๆ..เป็นต้น

 ภาพจาก www.chiangmainews.co.th
                        การพัฒนาด้านการสร้างเสริมประสบการณ์...ควรสนับสนุนจัดระบบการจัดการแข่งขันให้เหมาะสมในทุกระดับ อย่างเช่นในกลุ่มเด็กอายุ 10-13 ปี ที่เน้นฝึกด้วย Small Size Games ก็ควรจัดการแข่งขันเพื่อประลองทักษะความสามารถ แบบ 3:3, 5:5, 7:7,  ส่วนในระดับที่สูงขึ้นก็จัดให้เหมาะสมจนสามารเล่นเกม 11:11 จึงจะเกิดการพัฒนาด้านประสบการณ์ได้อย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญคือเป็นการประเมินผลของการพัฒนาการ ถ้าพบว่าดีแล้ว ต้องเตรียมต่อไปว่าจะพัฒนาส่วนใดเพิ่มอีก เพื่อพัฒนาความสามารถให้ดียิ่งขึ้น หรือถ้าพบข้อบกพร่องจะได้ดำเนินการแก้ไขเพื่อให้เข้าสู่ระดับมาตรฐานต่อไป เป็นต้น...

 ภาพจาก www.talkdara.com
                        การพัฒนาศักยภาพของนักฟฟุตบอลทีมชาติ...สมาคมฟุตบอลฯต้องมีสถานที่เป็นศูนย์ฝึกเพื่อฝึกนักฟุตบอลทีมชาติทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค 4 ภาคในทุกระดับ ซึ่งต้องส่งแมวมองออกไปดูฟอร์มการเล่นของเด็กที่มีความโดดเด่นแล้วเรียกเข้ามาทดสอบฝึกซ้อมต่อยอดที่ศูนย์ฝึก แล้วเลือกผู้เล่นที่ดีที่สุดเป็นตัวแทนทีมชาติต่อไป...

 ภาจจาก www.siamsport.co.th

วันพฤหัสบดีที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2561



ทำอย่างไรจะพัฒนาฟุตบอลไทยให้ไปไกลได้อย่างที่ฝัน..!! (ตอนที่ 2 )

ภาพจาก www.FourFourTwo.com

                                         1. การดำเนินการด้านนโยบายและแผนพัฒนา..ผู้บริหารของสมาคมฯคงต้องระดมทีมบริหารมาช่วยกันกำหนดนโยบาย ควรนำเสนอให้รัฐบาลรับไว้เป็นนโยบายการพัฒนากีฬาฟุตบอลของชาติ เพราะแผนการพัฒนาจะเป็นองค์รวมต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายภาคส่วน แนวการพัฒนาน่าจะมีดังนี้
                                         1.1 ผลักดันนโยบายการพัฒนาฟุตบอลไทยให้ไปแข่งในผฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายภายใน 15 ปี ให้เป็นวาระแห่งชาติ
                                      1.2 วางแผนการพัฒนาทั้งระยะยาวและระยะสั้น เช่น...
                                           แผนพัฒนาระยะยาว 15 ปี..เริ่มพัฒนาเด็กตั้งแต่อายุ 10-11 ปี เพราะ ในอนาคต 15 ปีข้างหน้าเขาเหล่านี้จะมีอายุ 25 ปีขึ้นไปไม่ควรเกิน 30 ปี จะอยู่ในช่วงที่มีขีดความสามารถสูงสุด ซึ่งจะเป็นช่วงที่พร้อมที่สุดในการก้าวเข้าสู่เวทีระดับโลกได้อย่างมั่นใจ เมื่อตั้งเป้าที่จะไปแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายในปีใด เราต้องมีนักฟุตบอลที่มีความสามารถดีมากพร้อมแข่งขันในรายการฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายในช่วงนั้น ดังนั้นเราต้องนับย้อนลงมาพัฒนาเด็กในกลุ่มอายุ 10-11 ปีแล้วพัฒนาตามแผนที่กำหนด คือ...
                     ปีที่ 1-3    อายุ 10-13 ปี     วางพื้นฐาน ทักษะ เทคนิค เฉพาะตัวและกลุ่มย่อย
                     ปีที่ 4-6    อายุ 13-16 ปี     พัฒนาแทคติก การรุก-การรับ และระบบทีม
                     ปีที่ 7       อายุ 16-17 ปี     สร้างประสบการณ์ แข่งขันฟุตบอลโลก U-17
                     ปีที่ 8       อายุ 17-18 ปี     เสริมประสบการณ์ แก้ไขข้อบกพร่อง
                     ปีที่ 9       อายุ 18-19 ปี     สร้างประสบการณ์ แข่งขันฟุตบอลโลก U-19
                     ปีที่ 10     อายุ 19-20 ปี      เสริมประสบการณ์ ปรับและแก้ไขข้อบกพร่อง
                     ปีที่ 11     อายุ 20-21 ปี      สร้างประสบการณ์ แข่งขันฟุตบอลโลก U-21
                     ปีที่ 12     อายุ 21-22 ปี      เสริมประสบการณ์แข่งซีเกมส์ เอเชียนเกมส์ พัฒนา
                                                          และแก้ไขข้อบกพร่อง
                     ปีที่ 13     อายุ 22-23 ปี      สร้างประสบการณ์แข่งกีฬาโอลิมปิก แข่งขันฟุตบอลโลก
                                                           U-23
                     ปีที่ 14     อายุ 23-24 ปี      เตรียมความพร้อมให้สมบูรณ์ที่สุด
                     ปีที่ 15     อายุ 24-25 ปี      ทำฝันให้เป็นจริง เข้าเล่นในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย..
                                            แผนพัฒนาระยะสั้น...เน้นพัฒนาแต่ละช่วงอายุที่มีการแข่งขันในรายการสำคัญๆ เป็นการสร้างประสบการณ์สร้างความมั่นใจ ถ้าโชคดีอาจจะมีผลงานที่ดีประสบความสำเร็จได้จริงก่อนแผนงานที่กำหนด....

วันพุธที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2561



ทำอย่างไรจะพัฒนาฟุตบอลไทยให้ไปไกลได้อย่างที่ฝัน..!!! (ตอนที่ 1)

ภาพจาก wwwsports.ch7.com

                                     ผลจากการแข่งขันในรายการ U-23 ชิงแชมป์เอเซีย 2018 ที่ประเทศจีน
ทีมชาติไทยผ่านเข้าไปเล่นแต่ไม่สามารถทำผลงานได้ดี ลงเล่น 3 นัด ไม่ชนะทีมใดเลยจึงไม่ผ่านเข้าไปเล่นในรอบต่อไป สต้าฟโค้ชและผู้บริหารสมาคมฟุตบอลไทยถูกวิจารณ์อย่างมากทีเดียว ถ้าเราเปลี่ยนการวิจารณ์มาเป็นการร่วมด้วยช่วยกันคิดหาแนวทางการพัฒนาในแง่มุมอื่นๆเพื่อให้ผู้ที่รับผิดชอบจะได้นำไปพิจารณาแล้วนำแนวทางใหม่ๆมาใช้ในการพัฒนาต่อไป

 ภาพจาก www.springnews.co.th

                                 ถ้าเปิดใจแล้ววิเคราะห์ว่าสถานะการณ์เช่นนี้ น่าจะเกิดมาจากเหตุใดบ้าง ซึ่งมีข้อคิดเห็นจากหลายคนที่วิจารณ์ว่าทั้งการบริหาร การพัฒนาเด็ก สรีระ ระบบวิธีการเล่น ตัวผู้เล่นที่มีความสามารถดีไม่ได้ไปร่วมแข่งขันเป็นต้น...ถ้าจะพูดถึงข้อบกพร่องที่ต้องนำมาแก้ไขนั้น เวลาที่ทีมแพ้หรือทำผลงานไม่ดีนั้น จะมีข้อบกพร่องมากมายแทบจะทุกเรื่องซึ่งเป็นรายระเอียดปลีกย่อย ทำให้การดำเนินการแก้ไขทำได้ยุ่งยากต้องแก้ไปทีละอย่าง กว่าจะแก้ได้หมดต้องใช้เวลาพอสมควรและอาจจะไม่ทันเหตุการณ์

 ภาพจาก www.thaich8.com

                                หากจะพิจารณากระบวนการแก้ไขทั้งระบบเพื่อให้เกิดความสำเร็จ แบบเป็นมาตรฐานสากลและยั่งยืน ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลามากกว่า 4 ปีขึ้นไป น่าจะเกิดผลดีอย่างแท้จริง ถ้าคิดอีกมุมมองหนึ่ง เราน่าพิจารณาจัดสภาพปัญหานั้นเป็นกลุ่มใหญ่ๆเพื่อความสะดวกในการวางแผนการปรับปรุงแก้ไขต่อไป  สภาพปัญหาที่พบน่าจะแบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ๆได้ 5 ด้าน ดังนี้...
                                1. ด้านนโยบายและแผนพัฒนา
                                2. ด้านยุทธศาสตร์การพัฒนา
                                3. ด้านระบบการฝึกและรูปแบบการเล่น
                                4. ด้านแหล่งทรัพยากรบุคคล
                                5. ด้านการสร้างเสริมประสบการณ์
                               การดำเนินการแก้ไขต้องกระทำในรูปแบบบูรณาการเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันทุกๆด้านและควรทำอย่างต่อเนื่องจริงจัง พื้นฐานการพัฒนาจะมีความมั่นคงซึ่งจะทำให้การพัฒนาการฟุตบอลไทยมีโอกาสก้าวสู่เป้าหมายที่กำหนดไว้ได้แน่นนอน..
                               รายละเอียดการพัฒนาทั้ง 5 ด้านจะขอกล่าวในครั้งต่อไป.....
                                   
                                  

วันอังคารที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2561



ฝึกการบังคู่ต่อสู้เพื่อครองบอล

ภาพจาก www.oknation.nationtv.tv
                                     ความพยายามที่จะเบียดบังคู่ต่อสู้เพื่อครอบครองบอล เป็นทักษะและเทคนิคที่จำเป็นสำหรับนักฟุตบอล เพราะเป็นการช่วงชิงโอกาสในการครอบครองบอลให้ได้ก่อนเพื่อสร้างความได้เปรียบในการเล่น การฝึกสามารถทำได้ดังนี้...



                                     1.เบียดชิงเหลี่ยมเพื่ออยู่ด้านหน้าคู่ต่อสู้ สิ่งแรกที่ต้องทำคือใช้ไหวพริบหาจังหวะเบียดชิงเหลี่ยมอยู่ด้านหน้าคู่ต่อสู้เพื่อรับบอล เน้นให้ตัวเราอยู่ตรงกลางระหว่างคู่ต่อสู้กับลูกบอล เพื่อกันไม่ให้คู่ต่อสู้ครอบครองบอลได้


                                   2.ขยายระยะห่างให้มากขึ้น โดยการหันด้านข้าง กางแขนกันคู่ต่อสู้ไว้ เพื่อเพิ่มระยะห่างและจะทำให้สามารถพาบอลเคลื่อนที่ได้สะดวกยิ่งขึ้น..ถ้าคู่ต่อสู้เบียดเข้าใกล้จำเป็นต้องเพิ่มแรงปะทะเกร็งแขนพร้อมทั้งใช้ไหล่ดันเบียดบังเพื่อพาบอลไป



                                     3.ใช้ความเร็วกระชากบอลไปให้คู่ต่อสู้อยู่ด้านหลัง เมื่อได้เปรียบการบังบอลได้ ให้รีบกระชากพาบอลไปโดยเร็วเพื่อยิงประตูหรือส่งบอลให้เพื่อนร่วมทีมต่อไป
                                     นักฟุตบอลที่ดีควรมีทักษะการเล่นในทุกๆด้าน เพราะเมื่อพบสถานะการณ์ที่เกิดขึ้นต่อหน้า จะได้มีความพร้อมในการนำทักษะที่เหมาะสมมาใช้ เพื่อไม่ให้เสียเปรียบในการเล่นนั้น...