ทำอย่างไรจะพัฒนาฟุตบอลไทยให้ไปไกลได้อย่างที่ฝัน..!! (ตอนที่ 5)
ข้อคิดเห็นต่อจากตอนที่แล้ว
การดำเนินการด้านแหล่งทรัพย์กรบุคคล..ในที่นี้จะขอกล่าวบุคคล 3 กลุ่ม
ที่ถือได้ว่าเป็นทัพยากรที่สำคัญที่ต้องใช้ในการพัฒนาฟุตบอลของไทยให้ก้าวไปได้อย่างที่ฝัน
1.คูรและอาจารย์ในสถานศึกษา...จะดูแลให้ความรู้วิทยาการต่างๆกับนักเรียน นักศักษาเป็นจำนวนมาก ถ้าเขาเหล่านี้ผ่านการอบรมการเป็นผู้ฝึกสอนทั้งมาตรฐานของสมาคมฟุตบอลฯ หรือของ AFC จะเป็นกำลังสำคัญในการปูพื้นฐานด้านทักษะ เทคนิคและเกมการเล่นที่ถูกต้องให้กับกลุ่มนักเรียน นักศึกษาทั่วไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งถือได้ว่าเป็นการพัฒนาในระดับกลุ่มมวลชน ผลจากการปูพื้นฐานนี้จะทำให้มีทรัพยากรบุคคล กลุ่มใหญ่ที่สนใจและมีพื้นฐานที่ถูกต้องและดี และจะมีหลายๆคนที่ฉายแววนักฟุตบอลที่เก่งโดดเด่นออกมาให้เห็นเป็นจำนวนมากเช่นกัน ซึ่งควรได้รับการพัฒนาต่อยอดต่อไป..
2.ผู้ฝึกสอน...ที่ผ่านการอบรมตามมาตรฐานของ AFC หรือ FIFA บุคคลเหล่านี้ที่ประจำอยู่ตามอะคาเดมี สโมสร และศูนย์พัฒนาศักยภาพนักกีฬาของสมาคมฟุตบอลฯ จะมีบทบาทที่สำคัญ ที่ทำหน้าที่คัดกรองเอาเด็กที่ฉายแววมาจากสถานศึกษา นำมาบ่มเพาะขัดเกลา สร้างเสริมวิทยายุทธ์ในด้านเทคนิค แทคติก ระบบการเล่น ยุทธวิธีการเล่น ความเข้าใจเกมการเล่น และพัฒนาสมรรถภาพทางกายทุกด้าน ทั้งด้าน ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ความอดทนของร่างกาย ความเร็วในการเคลื่อนที่ ความคล่องแคล้วว่องไวในการเปลียนทิศทาง พลังแรงของกล้ามเนื้อ ความเร็วและความอดทน ให้มีความสมบูรณ์เพิ่มขึ้นเหมาะสมตามวัย ในส่วนนี้จะคัดกรองนักฟุตบอลในระดับหัวกระทิที่มาจากนักฟุตบอลที่มีความสามารถดีมากออกมาเป็นนักกีฬาทีมชาติที่แข็งแกร่งได้ต่อไป
3.กลุ่มเด็กและเยาวชน...พวกเขาเหล่านี้มีจำนวนมาก จะไม่ได้เป็นทรัพย์กรบุคคลที่เป็นประโยชน์ในวงการฟุตบอลไทยเลย ถ้าไม่ได้ผ่านการบ่มเพาะ ขัดเกลา และสร้างเสริมด้านทักษะ เทคนิค แทคติกฯ ต่างๆจากบุคคลในกลุ่มที่ 1 และกลุ่มที่ 2 มาก่อน ทุกอย่างจะเกิดขึ้นได้ต้องมีการดำเนินการอย่างเป็นระบบ ต่อเนื่องและสัมพันธ์กัน..
ปัญหาที่ทีมชาติพบเจอว่า..นักฟุตบอลตัวเก่งอีกจำนวน 3-5 คนไม่สามารถไปร่วมทีมแข่งขันในรายการสำคัญๆ ทำให้ทีมทำผลงานได้ไม่ดี ถ้าได้ดำเนินตามแนวทางข้างต้นปัญหานี้จะหมดไป เพราะสมาคมฟุตบอลฯเตรียมแผนการสร้างและพัฒนานักฟุตบอลความสามารถดีเยี่ยมในแต่ละระดับอายุเอาไว้จำนวนมาก อย่างน้อยเด็กหัวกระทิแต่ละกลุ่มจะมีไม่น้อยกว่า100 คนไว้เป็นตัวตายตัวแทนเอาไว้เลือกใช้ในรายการต่างสิ่งที่ดีต่อสมาคมฟุตบอลฯ
คือ..นักฟุตบอลที่เก่งทุกคนจะต้องกระตือรือร้น เตรียมตัวให้พร้อมพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา เพราะต้องแข่งขันกับคนอื่นๆ และสมาคมฟุตบอลฯสามารถเลือกนักฟุตบอลฝีเท้าดีใช้จะได้ไม่ขาดแคลน..ลักษณะเช่นนี้ประเทศอื่นๆเขาได้ดำเนินการมานานแล้ว ดูอย่างเพื่อนบ้านในเอเซียเช่นประเทศเกาหลี และญี่ปุ่น จะเห็นได้ว่าเขาส่งนักฟุตบอลเข้าร่วมแข่งขันในรายการต่างๆส่วนใหญ่จะเป็นนักกีฬาหน้าใหม่ๆแต่มีซ้ำเดิมบ้างเพียงคนสองคนเท่านั้น แต่ทีมที่ส่งมาสามารถทำผลงานได้ดีทุกชุด เด็กหน้าใหม่ๆนั้นจะได้มีประสบการณ์ในรายการแข่งขันระดับนานาชาติและได้สร้างความมั่นใจเพิ่มขึ้นอีกด้วย......
ที่ถือได้ว่าเป็นทัพยากรที่สำคัญที่ต้องใช้ในการพัฒนาฟุตบอลของไทยให้ก้าวไปได้อย่างที่ฝัน
ภาพจาก www.tessaban-phangkhon.blogspot
1.คูรและอาจารย์ในสถานศึกษา...จะดูแลให้ความรู้วิทยาการต่างๆกับนักเรียน นักศักษาเป็นจำนวนมาก ถ้าเขาเหล่านี้ผ่านการอบรมการเป็นผู้ฝึกสอนทั้งมาตรฐานของสมาคมฟุตบอลฯ หรือของ AFC จะเป็นกำลังสำคัญในการปูพื้นฐานด้านทักษะ เทคนิคและเกมการเล่นที่ถูกต้องให้กับกลุ่มนักเรียน นักศึกษาทั่วไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งถือได้ว่าเป็นการพัฒนาในระดับกลุ่มมวลชน ผลจากการปูพื้นฐานนี้จะทำให้มีทรัพยากรบุคคล กลุ่มใหญ่ที่สนใจและมีพื้นฐานที่ถูกต้องและดี และจะมีหลายๆคนที่ฉายแววนักฟุตบอลที่เก่งโดดเด่นออกมาให้เห็นเป็นจำนวนมากเช่นกัน ซึ่งควรได้รับการพัฒนาต่อยอดต่อไป..
ภาพจาก www.khaosod.co.th
2.ผู้ฝึกสอน...ที่ผ่านการอบรมตามมาตรฐานของ AFC หรือ FIFA บุคคลเหล่านี้ที่ประจำอยู่ตามอะคาเดมี สโมสร และศูนย์พัฒนาศักยภาพนักกีฬาของสมาคมฟุตบอลฯ จะมีบทบาทที่สำคัญ ที่ทำหน้าที่คัดกรองเอาเด็กที่ฉายแววมาจากสถานศึกษา นำมาบ่มเพาะขัดเกลา สร้างเสริมวิทยายุทธ์ในด้านเทคนิค แทคติก ระบบการเล่น ยุทธวิธีการเล่น ความเข้าใจเกมการเล่น และพัฒนาสมรรถภาพทางกายทุกด้าน ทั้งด้าน ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ความอดทนของร่างกาย ความเร็วในการเคลื่อนที่ ความคล่องแคล้วว่องไวในการเปลียนทิศทาง พลังแรงของกล้ามเนื้อ ความเร็วและความอดทน ให้มีความสมบูรณ์เพิ่มขึ้นเหมาะสมตามวัย ในส่วนนี้จะคัดกรองนักฟุตบอลในระดับหัวกระทิที่มาจากนักฟุตบอลที่มีความสามารถดีมากออกมาเป็นนักกีฬาทีมชาติที่แข็งแกร่งได้ต่อไป
ภาพจาก wwww.siamrath.co.th
3.กลุ่มเด็กและเยาวชน...พวกเขาเหล่านี้มีจำนวนมาก จะไม่ได้เป็นทรัพย์กรบุคคลที่เป็นประโยชน์ในวงการฟุตบอลไทยเลย ถ้าไม่ได้ผ่านการบ่มเพาะ ขัดเกลา และสร้างเสริมด้านทักษะ เทคนิค แทคติกฯ ต่างๆจากบุคคลในกลุ่มที่ 1 และกลุ่มที่ 2 มาก่อน ทุกอย่างจะเกิดขึ้นได้ต้องมีการดำเนินการอย่างเป็นระบบ ต่อเนื่องและสัมพันธ์กัน..
ปัญหาที่ทีมชาติพบเจอว่า..นักฟุตบอลตัวเก่งอีกจำนวน 3-5 คนไม่สามารถไปร่วมทีมแข่งขันในรายการสำคัญๆ ทำให้ทีมทำผลงานได้ไม่ดี ถ้าได้ดำเนินตามแนวทางข้างต้นปัญหานี้จะหมดไป เพราะสมาคมฟุตบอลฯเตรียมแผนการสร้างและพัฒนานักฟุตบอลความสามารถดีเยี่ยมในแต่ละระดับอายุเอาไว้จำนวนมาก อย่างน้อยเด็กหัวกระทิแต่ละกลุ่มจะมีไม่น้อยกว่า100 คนไว้เป็นตัวตายตัวแทนเอาไว้เลือกใช้ในรายการต่างสิ่งที่ดีต่อสมาคมฟุตบอลฯ
คือ..นักฟุตบอลที่เก่งทุกคนจะต้องกระตือรือร้น เตรียมตัวให้พร้อมพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา เพราะต้องแข่งขันกับคนอื่นๆ และสมาคมฟุตบอลฯสามารถเลือกนักฟุตบอลฝีเท้าดีใช้จะได้ไม่ขาดแคลน..ลักษณะเช่นนี้ประเทศอื่นๆเขาได้ดำเนินการมานานแล้ว ดูอย่างเพื่อนบ้านในเอเซียเช่นประเทศเกาหลี และญี่ปุ่น จะเห็นได้ว่าเขาส่งนักฟุตบอลเข้าร่วมแข่งขันในรายการต่างๆส่วนใหญ่จะเป็นนักกีฬาหน้าใหม่ๆแต่มีซ้ำเดิมบ้างเพียงคนสองคนเท่านั้น แต่ทีมที่ส่งมาสามารถทำผลงานได้ดีทุกชุด เด็กหน้าใหม่ๆนั้นจะได้มีประสบการณ์ในรายการแข่งขันระดับนานาชาติและได้สร้างความมั่นใจเพิ่มขึ้นอีกด้วย......
สุดยอดครับโค๊ชเจี๊ยบ
ตอบลบ